หน้ามันแผล็บ! เลเซอร์ช่วยได้รึเปล่า?

โปะแป้งยังไม่ทันไร จมูกก็กลับมามันย่องอีกแล้ว เทคโนโลยีสมัยนี้จะช่วยได้ไหมนะ?

      ถ้าคุณมีผิวมัน คุณอาจจะรู้สึกว่าต้องทำสงครามกับความมันบนหน้าผากและปลายจมูกอยู่เนือง ๆ แต่มันไม่ใช่ความผิดคุณหรอก เพราะการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนผิวหนังนั้น มักจะเป็นลักษณะทางพันธุกรรม ซึ่งตกทอดมาจากคนในครอบครัว

      การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงวัยทีนจนถึงต้น 20 ปีนั้น สามารถทำให้ผิวมันและกระตุ้นการปะทุของสิว แต่ผิวมันไม่ใช่แค่ปัญหาของวัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาว ผู้หญิงหลายคนสังเกตได้ว่าจะมีปัญหาผิวพรรณช่วงมีประจำเดือน ระหว่างตั้งครรภ์หรือช่วงวัยทอง เช่นเดียวกับที่ยาคุมกำเนิดบางชนิดจะเพิ่มความมันของผิว ในขณะเดียวกันฮอร์โมนเพศชายอย่างแอนโดรเจนก็เป็นตัวกระตุ้น เพราะฉะนั้นเวลาที่ผู้หญิงเรามีประจำเดือนหรือเข้าสู่วัยทอง ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเหล่านี้มาก ๆ ความมันของผิวหน้าก็จะเปลี่ยนไปด้วย

      ข่าวดีก็คือ ความมันจะช่วยให้ผิวของคุณคงความอ่อนเยาว์ในระยะยาว คนที่มีผิวมันจะมีตีนกาน้อยกว่าคนที่มีผิวแห้งหรือผิวปกติ และการเปลี่ยนแปลงกิจวัตรเล็กน้อย อย่างเช่น การเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ โทนเนอร์ เคลนเซอร์ หรือครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันอาจช่วยให้คุณควบคุมความมันของผิวได้บ้าง

     Smoothbeam Laser

      รู้จักกันในฐานะเลเซอร์เพื่อการรักษาสิว ซึ่งมีความยาวคลื่นอยู่ที่ 1,450 นาโนเมตร ไดโอดเลเซอร์สมูธบีมจะถูกส่งลึกเข้าไปยังใต้ผิวหนังลงไปยังต่อมไขมันเพื่อลดการสร้างน้ำมันนั่นเอง จึงช่วยลดหน้ามันไปพร้อม ๆ กับรักษาสิว แต่ละครั้งที่ยิงอาจจะเจ็บจี๊ดเหมือนเอาหนังยางไปดีดที่หน้า แต่ละทรีทเม้นท์สั้นเพียง 15 นาที และจะเห็นผลได้ตั้งแต่การทำ 1-2 ครั้ง ภายใน 2 สัปดาห์ แต่ผิวอาจจะแดงหลังทำ และจะหายภายใน 24 ชั่วโมง

     Thermage

      คลื่นวิทยุชนิดหนึ่งซึ่งนับได้ว่าเป็นหนึ่งในทรีทเม้นท์ที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาการผลิตน้ำมันมากเกินไปของต่อมน้ำมัน เมื่อเทียบกับเลเซอร์ อินฟราเรด แล้ว เทอร์มาจจะให้ผลการกระชับผิวด้วย เพราะเทอร์มาจจะทำให้เกิดความร้อน ข้อดีคืออาจทำให้ใบหน้าเรียวขึ้นโดยผลจากการละลายไขมันบนใบหน้า ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัยมาก และเจ็บน้อยลงจากในอดีต

      อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ว่า เลเซอร์หรือเทคนิคต่าง ๆ จะสามารถนำมาใช้เพื่อการลดความมันบนใบหน้าเป็นเป้าหมายหลักดีหรือเปล่า คุณจึงควรปรึกษากับแพทย์อีกครั้ง ก่อนตัดสินใจทำทรีทเม้นท์เพื่อลดความมันค่ะ