ซ่าส์ทุกลมหายใจ
พระพิฆเนศ
รับซื้อเพชร

ตั้งชื่อมงคล

ตั้งชื่อมงคล ตั้งชื่อลูก หาชื่อมงคล พร้อมความหมายของชื่อ ฟรี ที่เว็บ ตั้งชื่อมงคล.com

Procreate Brushes

ร้านรับซื้อเพชร
แหวนเพชร สร้อยเพชร จี้เพชร เพชรกะรัต เพชรร่วง รับซื้อทุกสภาพ ให้ราคาสูง ร้านเปิดทุกวัน ประเมินราคาให้ฟรี รับซื้อถึงบ้าน.

ขายของออนไลน์อย่างไรให้ยอดปัง ๆ แนะนำแพลตฟอร์ม พร้อมแนวทางเอาตัวรอดในยุค COVID-19

ขายของออนไลน์อย่างไรให้ยอดปัง ๆ แนะนำแพลตฟอร์ม พร้อมแนวทางเอาตัวรอดในยุค COVID-19

อินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทในสังคมของทุกคนทั่วโลก เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในยุคนี้ อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อผู้คนเข้าหากันได้ง่ายมากขึ้น รวมถึงเป็นคลังข้อมูลมากมายให้เราค้นหา อยากรู้อะไร เพียงแค่กดเสิร์ชข้อมูลในสิ่งที่เราอยากรู้ เท่านี้ก็ได้คำตอบแล้ว รวมถึงธุรกิจต่าง ๆ ก็ได้ปรับตัวเข้ากับยุคออนไลน์เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขายของ และธุรกิจอื่น ๆ ก็ใช้โลกออนไลน์ในการโปรโมทสินค้า ขายของ เป็นการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้ง่าย ๆ

ธุรกิจขายของออนไลน์ เป็นอย่างไร ทำไมถึงได้รับความนิยมมาก
การขายของออนไลน์มีมานานแล้ว เรามักจะเห็นผู้คนโพสต์ขายครีม ขายสินค้า อาหาร และอื่น ๆ ตามช่องทางโซเชียลมีเดีย นั่นก็ถือเป็นธุรกิจอีกอย่างหนึ่ง ด้วยความที่มีการขายของออนไลน์มากขึ้น ช่องทางการโปรโมทสินค้าก็ต้องมีมากขึ้นไปด้วย กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า E-Commerce คือช่องทางการขายของทางอิเล็กทรอนิกส์ ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชัน Shopee หรือ Lazada ทั้งสองนี้คือสิ่งที่เรียกว่า E-Commerce เป็นแพลตฟอร์มตัวกลางให้เจ้าของธุรกิจเข้ามาโพสต์ขายสินค้า ส่วนลูกค้าก็สามารถเข้ามาเลือกดูสินค้าและซื้อสินค้าได้

แต่ข้อเสียของ E-Commerce คือ ผู้ขายอาจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้น้อย และอาจไม่รู้ว่าความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างไร เนื่องจากไม่ได้มีการสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง ผู้ขายเพียงแค่โพสต์สินค้าและรอให้ลูกค้าเข้ามากดดูและกดซื้อ เหมือนกับการทำการตลาดช่องทางเดียว ยิ่งในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจหนักมาก ทำให้ร้านค้าหลาย ๆ ร้านก็ได้ย้ายช่องทางเข้ามาในโลกออนไลน์กันมากขึ้น ผู้คนหันมาจับจ่ายซื้อของออนไลน์มากขึ้น มีตัวเลือกร้านค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ธุรกิจต่าง ๆ ก็ต้องเริ่มมองหาวิธีใหม่ ๆ ในการดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้ได้มากที่สุด นั่นหมายความว่าการขายของผ่านช่องทาง E-Commerce อย่างเดียวอาจไม่พอ ทำให้ผู้ขายต้องเพิ่มช่องทางการขายของมากขึ้น ซึ่งนั่นก็คือ S-Commerce นั่นเอง

S-Commerce คืออะไร ส่งผลต่อการขายของออนไลน์มากน้อยแค่ไหน
หลายคนคงจะเคยได้ยินและคุ้นหูกับคำว่า E-Commerce มากกว่า แล้ว S-Commerce คืออะไร จริง ๆ แล้ว S-Commerce เป็นสิ่งที่เราคุ้ยเคยมากกว่าและเข้าถึงได้ง่ายมาก นั่นก็คือ Social Commerce เป็นการทำธุรกิจออนไลน์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แล้วการขายของออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียนั้นดีอย่างไร อย่างแรกเลยคือ เราต้องรู้ว่าพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยนั้นเป็นอย่างไร คนไทยเล่นโซเชียลมีเดียหนักมาก (อาจจะไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่เป็นทั่วโลก) เราจะเห็นพวกเขาออนไลน์ตลอดเวลา เลื่อนหน้าฟีดข่าว แชทคุยกับเพื่อน นี่เป็นช่องทางการสื่อสารที่ง่ายที่สุดในตอนนี้

แล้วสำหรับการขายของออนไลน์มันดีอย่างไร ด้วยความที่เป็นช่องทางการสื่อสารออนไลน์ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงกันได้ง่ายมากขึ้น ผู้ขายสามารถสำรวจกลุ่มตลาดที่ต้องการได้ อีกทั้งยังสามารถสื่อสารโดยตรงกับลูกค้าได้ หากผู้ขายรู้กลุ่มเป้าหมายที่แน่ชัดก็สามารถเจาะกลุ่มตลาดและเพิ่มยอดขายได้ อีกทั้งยังได้รับความน่าเชื่อถือจากลูกค้าที่ชื่นชอบในการบริการของเรา และอาจบอกต่อหรือแชร์ไปให้กับเพื่อน ๆ ได้อีกด้วย แน่นอนว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียก็ได้มีระบบที่คอยสนับสนุนการขายของและการโปรโมทสินค้าเข้ามาด้วย เราจะลองยกตัวอย่างแพลตฟอร์มเพื่อให้ได้เห็นภาพกันมากขึ้น

Facebook แพลตฟอร์มที่มีคนไทยใช้มากที่สุด
เฟซบุ๊กเป็นช่องทางการสื่อสารยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของคนไทย ทำให้ผู้ขายสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ในเฟซบุ๊กก็จะมีระบบ Market place ที่ใช้ลงขายสินค้าต่าง ๆ อยู่แล้ว แต่เฟซบุ๊กก็ได้เพิ่มอีกระบบหนึ่งเข้ามา ซึ่งคล้ายกับแพลตฟอร์ม E-Commerce เลย นั่นก็คือ Shop เป็นส่วนที่ให้ผู้ขายสามารถลงรายละเอียดและราคาของสินค้า อีกทั้งยังออกแบบหน้าร้านค้าได้ตามต้องการอีกด้วย (ทางเฟซบุ๊กก็มีเทมเพลตให้เลือกใช้ด้วย) หากเราใช้เฟซบุ๊กทุก ๆ วัน เราจะเห็นว่ามีการไลฟ์ขายของมากมาย ซึ่ง Shop เข้ามามีบทบาทและสนับสนุนการไลฟ์ขายของได้มากขึ้น โดยสามารถใช้แท็กสินค้าที่ลงไว้ใน Shop ในขณะที่ไลฟ์ขายของ ทำให้ลูกค้าที่สนใจสามารถกดเข้าไปซื้อสินค้าได้เลย ลดความยุ่งยากในการขายของได้มากพอสมควรเลย

Line แพลตฟอร์มที่เจาะกลุ่มลูกค้าได้ดีที่สุด
ไลน์เป็นโซเชียลมีเดียมีคนไทยใช้กันมากเป็นอันดับต้น ๆ เช่นกัน เพราะว่าเป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารที่สะดวกและเป็นส่วนตัว เหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ส่วนมากจะใช้ไลน์ในการขายสินค้าผ่านช่องทางนี้ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการขายสินค้า ทางไลน์ก็ได้มีบัญชี Line OA ที่มีฟีเจอร์สำหรับธุรกิจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการตอบกลับอัตโนมัติ บรอดแคสต์โปรโมชั่น และอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าคิดว่า Line OA สะดวกมากแล้ว Line My Shop สะดวกกว่ามาก หากใช้คู่กัน เพราะว่าการขายของผ่านทางไลน์นั้นอาจมีการโอนซื้อสินค้า ลูกค้าก็ต้องแจ้งสลิปโอนเงินผ่านแชท แต่ถ้าผู้ขายลงสินค้าไว้ใน Line My Shop ลูกค้าก็สามารถเข้าไปกดเลือกสินค้า และชำระเงินได้ทันที ยิ่งในยุคสมัยนี้ยังใช้จ่ายค่าเล่นเกมส์ได้เงินจริงบนเว็บ คาสิโน888 ได้อีกด้วย

สำหรับ Line My Shop นั้นเหมาะสำหรับธุรกิจที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว เป็นธุรกิจที่มีผู้ติดตามใน Line OA มากพอสมควร สำหรับคนที่ยังไม่มี Line OA หรือพึ่งเริ่มเปิดบัญชีใหม่ที่ยังไม่มีผู้ติดตามเยอะก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ก็ต้องพยายามหายอดฟอลและฐานลูกค้าเข้ามาให้ได้มากที่สุด สิ่งสำคัญของการขายของผ่านไลน์ไม่ได้เกี่ยวกับจำนวนผู้ติดตาม แต่เกี่ยวกับความ Loyalty ของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์นั้น ๆ มากกว่า

การขายของออนไลน์ เป็นธุรกิจที่ช่วยให้ร้านค้าต่าง ๆ เพิ่มยอดขายมากขึ้น และด้วยสถานการณ์ของ COVID-19 ที่ไม่สามารถเปิดร้านได้ ทำให้หลาย ๆ ร้านหันมาขายของออนไลน์มากขึ้น เพื่อความอยู่รอดในสถานการณ์นี้ บางร้านเข้ามาขายออนไลน์แล้วยอดขายมากกว่าขายหน้าร้านเสียอีก ผู้คนก็จับจ่ายซื้อของออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากพวกเขาไม่กล้าออกจากบ้านด้วย แต่การขายออนไลน์ทางช่องทางเดียวอาจไม่เพียงพอ ผู้ขายอาจต้องเพิ่มช่องทางการขายเพิ่ม มีโปรโมชั่นน่าสนใจ สิ่งที่ร้านจะได้กลับมาคือยอดขายปัง ๆ แน่นอน

Similar posts