ปัจจัยด้านจิตวิทยา ลูกค้าซื้อของเราจากอะไร

สิ่งที่ผู้ประกอบธุรกิจหรือนักการตลาดทั่วไปพบเจอได้บ่อยที่สุดก็คือ มีคนทักเข้ามาถามสินค้าทำเหมือนว่าสนใจและกำลังตัดสินใจที่จะซื้อ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจกะทันหันไม่ได้ซื้อของจากเรา ทั้ง ๆ ที่ได้ข้อมูลไปเกือบทั้งหมดแล้ว แถมยังตัดสินใจซื้อสินค้าจากคู่แข่งของเราด้วย จนเกิดคำถามที่น่าสงสัยว่าทำไมลูกค้าเปลี่ยนใจไม่ซื้อสินค้าของเรา และพอจะมีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้เราขายได้ดี โดยที่ไม่ต้องทุ่มจัดโปรโมชั่นหรือลดราคาให้แก่ลูกค้า สิ่งเหล่านี้มันขึ้นอยู่กับจิตวิทยาในการตัดสินใจซื้อ เหมือนกันกับ mgwin88 ที่ก็ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบเดียวกัน และมีปัจจัยหรือเหตุผลที่ทำให้ลูกค้าจะซื้อหรือไม่ซื้อสินค้า เรามาดูกันว่าสิ่งเหล่านี้มันมีกระบวนแนวคิดยังไงบ้าง

ปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าต้องการซื้อสินค้า
•ความต้องการ
แน่นอนว่า อันดับแรกที่คนเราจะซื้อสินค้าอะไรสักชิ้นหนึ่งย่อมมีความต้องการก่อน ว่าสินค้าชิ้นนั้นจะมาช่วยเติมเต็มหรือว่าให้ประโยชน์อะไรกับตัวลูกค้า ซึ่งสินค้าทุกชิ้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถขายให้กับลูกค้าได้ทุกคน เพราะว่าทุกคนมีความต้องการแตกต่างกัน สินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการอยู่ในขณะนั้นของลูกค้าคนใดคนหนึ่ง สินค้านั้นย่อมถูกจำหน่ายออก อย่างรวดเร็ว
•แรงจูงใจ
แรงจูงใจในที่นี้จะหมายความถึง ค่านิยม หรือกระแสที่โด่งดัง และมีคนหลายคนให้ความสนใ จเมื่อได้สินค้าชิ้นนั้น ๆ แล้ว ก็จะเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจ แล้วก็สุขใจที่ได้ครอบครอง อย่างเช่น สินค้าที่โด่งดังพวกแบรนด์เนมหรือ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อดัง สินค้าเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่ดี รูปลักษณ์สวยเท่านั้น หรือเพราะว่าเป็นแบรนด์ดัง แต่รวมหมายถึงคุณภาพของสินค้าที่หากได้ซื้อมาใช้แล้ว ก็มีความคงทนมีอายุการใช้งานที่ยืนยาว
•การรับรู้
เช่น การโฆษณา การมองเห็น การได้รับสื่อว่าสินค้าตัวนั้นมีความน่าเชื่อถือ และเมื่อได้ซื้อมาแล้วก็ไม่มีความเสี่ยงในอนาคต รู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่ซื้อไป จากที่เราคุ้นเคยกันดีว่าสินค้าบางตัวมีการประกันสินค้า รีวิวสินค้ามากมาย ด้วยการจ้างคนดังหรือดาราแนะนำสินค้า เพื่อให้สามารถช่วยให้ขายสินค้าได้ดีขึ้น และก็ได้ผลเสียด้วย เพราะคนเรามักจะเชื่อตาม ยิ่งเป็นคนดังที่ชื่นชอบอยู่แล้ว แทบจะไม่ต้องการเหตุผลอะไรมากมายสำหรับการตัดสินใจเลือกซื้อเลย
•ทัศนคติ
ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าของเราได้จากความคุ้นเคยหรือว่าลูกค้าเคยใช้สินค้านี้มาแล้ว ลูกค้าที่มีประสบการณ์ จากการใช้สินค้าและรู้ว่าสินค้านั้นใช้แล้วดี เห็นผลจริง นี่ก็เป็นจุดบอดสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจหน้าใหม่ที่ยัง ไม่ เป็นที่รู้จัก ในวงการตลาด เพราะว่า แบรนด์ที่ดีและร้านที่มีชื่อเสียงมานานย่อมที่จะดึงดูดลูกค้าให้ไปซื้อสินค้าได้ง่ายกว่า หากมีหลายสาขายิ่งด้วยแล้วก็ ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อถือมากขึ้น

หากต้องเจอกับแบรนด์ใหญ่ ควรทำอย่างไร
เรื่องนี้น่าคิดมากสำหรับคนทำธุรกิจ SME หรือธุรกิจเล็ก มันยากมากที่ว่าจะมีสินค้าอะไรที่แบรนด์ใหญ่นั้นไม่มีหรือไม่มีตามมาในอนาคต เรามาดูสรุปกันว่าหากจะต้องเจอกับแบรนด์ใหญ่ควรจะมีวิธีรับมือยังไงและจัดการยังไง
1.มีความแตกต่าง เรื่องนี้ถือว่าเป็นหัวใจหลักสำหรับการทำธุรกิจ แต่หากว่าสร้างความแตกต่างขึ้นมาได้ ก็ถือว่าเป็น ทีเด็ดที่จะทำให้ลูกค้ารุมเข้ามาซื้อสินค้ามากขึ้น และความแตกต่างนั้นไม่ใช่แค่ว่าไม่มีใครเหมือนหรือไม่เหมือนใครเฉย ๆ แต่จะต้องตรงใจกับกลุ่มเป้าหมายลูกค้าของเราด้วย
2.มีราคาที่ดีกว่า ราคาที่ดีกว่าไม่ได้หมายความว่ามีราคาที่แพงกว่า แต่เป็นการกำหนดราคาที่ให้ตรงตามคุณภาพหรือว่าให้ดูว่าไม่ไม่ถูกเกินไป เพราะลูกค้าบางคนมีความคิดว่าหากราคาที่ถูกเกินไป ก็ดูเป็นของที่ซื้อง่ายและเกรดไม่ดี ควรจะตั้งราคาที่ดูเหมาะสม แต่องค์ประกอบให้เรื่องราคามันจะต้องมีสิ่งอื่น ๆ เป็นปัจจัยร่วมด้วย เช่น หากว่าสร้างรูปลักษณ์ที่ดูสวยงาม โดดเด่น การเสนอราคาที่สูงขึ้นนั้นย่อมดูคู่ควร และทำให้การตัดสินใจซื้อนั้นง่ายขึ้น
3.การบริการ นี่คือความแตกต่างของการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ แต่หากสร้างการบริการที่ดี รวดเร็ว ก็จะเป็นข้อได้เปรียบในการดึงความสนใจของลูกค้าเข้ามาได้ และรวมไปถึงการเอาใจใส่ลูกค้า การจัดโปรโมชั่น หรือการโฆษณาตามเทรนตามกระแส เช่น กระแสศิลปิน ภาพยนตร์ดัง ซึ่งถ้าเป็นแบรนด์ใหญ่ก็ต้องใช้แคมเปญใหญ่ ที่มีเรื่องของลิขสิทธิ์การจ้าง และใช้ต้นทุนที่แพง แต่สำหรับแบรนด์เล็ก อาจจะทำเป็นแคมเปญง่าย ๆ ที่ไม่ให้มีปัญหาเรื่องของลิขสิทธิ์ แต่ว่าก็ให้เป็นไปตามเทรนตามกระแสได้
4.การทำตลาดออนไลน์ แม้ว่ามีแบรนด์ใหญ่ที่คลองสื่อ การตลาดออนไลน์ไปมากแล้วแต่ก็ยังมีช่องว่างสำหรับธุรกิจเล็ก ๆ หรือธุรกิจใหม่ หากคุณมองหาช่องทางดี ๆ โดยเริ่มต้นจากการทำโฆษณาเล็ก ๆ ยิงแอดและ มีความสม่ำเสมอในการอัพเดทสินค้าหรือบริการ ก็จะสามารถทำให้ธุรกิจของคุณมีพื้นที่ในโลกออนไลน์ ทำให้มีคนรู้จักสินค้าของคุณได้มากขึ้นกว่าเดิม

หากจะให้สรุปเทคนิคหรือปัจจัย ในการทำให้สินค้ามียอดขายเพิ่มขึ้นนั้น เห็นว่าไม่ว่าจะวิธีไหนมันก็ขึ้นอยู่กับว่า สินค้านั้นจะให้ประโยชน์ใช้งานในรูปแบบไหน การนำเคล็ดลับมาปรับใช้เพื่อสร้างกลยุทธ์ในการตลาดนั้น ก็คงต้องว่ากันไปตามสถานการณ์และความเหมาะสมที่จะต้องคิดและวิเคราะห์ วางแผน เพราะมันไม่ได้มีสูตรตายตัวสำหรับสินค้าใดสินค้าหนึ่ง สิ่งสำคัญคือการตั้งใจมอบสิ่งดี ๆ ให้กับลูกค้ามากกว่า สำหรับใครที่อยากเรียนรู้เทคนิคการเดิมพันการตลาดกับคู่แข่ง สามารถเข้ามาดู เกร็ดความรู้การวางเดิมพันแบบแลกเปลี่ยนผลกำไรจากเว็บ https://betting-thailand.com/ นี้ได้เลย เพื่อนำไปปรับใช้ในการสร้างทีเด็ดให้สินค้าของคุณได้ รับรองว่ามีประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณอย่างแน่นอน