เรือใบสีฟ้าที่ไม่ชนะทีมใดใน 3 นัดหลังสุด กลับมาทำผลงานได้เข้ารูปเข้ารอยอีกครั้ง หลังเปิดเอติฮัด สเตเดี้ยมเก็บชัยเหนือเดอะ เซนต์ได้สำเร็จ
มานูเอล เปเยกรินี กุนซือเจ้าบ้าน ชวดใช้งาน โจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตูมือ 1 ที่มีปัญหาบาดเจ็บ ทำให้ต้องส่ง วิลลี กาบาเยโร ลงเฝ้าเสาแทนแทน ส่วน ราฮีม สเตอร์ลิง ได้กลับมาเป็น 11 คนแรกอีกครั้งหลังจากเป็นแค่สำรองในเกมยุโรปเมื่อกลางสัปดาห์ ขณะที่ ฟาเบียน เดลฟ์ ได้โอกาสลงตัวจริงในลีกเป็นนัดแรก
ด้านทีมเยือนของ โรนัลด์ คูมัน ต้องขาดดาวยิงตัวสำคัญอย่าง กราเซียโน เปลเล ซึ่งติดโทษแบน ทำให้ต้องดัน เชน ลอง ไปยืนเป็นหน้าเป้าแทน โดยจะประสานงานในแนวรุกร่วมกับ ซาดิโอ มาเน, เจมส์ วอร์ด พราวส์ และ สตีเวน เดวิส
เริ่มเกมมาเพียง 9 นาทีเท่านั้น เป็นซิตี้ที่สามารถพังประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ สเตอร์ลิง ไปฉกบอลมาจาก มายยะ โยชิดะ ได้ ก่อนจะลากสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายแล้วตบเข้ากลางให้ เควิน เดอ บรอยน์ พุงชาร์จจ่อๆเข้าไป ส่งให้เรือใบสีฟ้าออกนำ 1-0
ถัดมานาทีที่ 20 เจ้าบ้านยังมาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากลูกเตะมุมฝั่งขวาที่ เดอ บรอยน์ จ่ายเรียดมาแถวสองให้ เดลฟ์ ซัดไกลเน้นๆด้วยซ้ายไปแฉลบ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ เปลี่ยนทางเข้าไปตุงตาข่าย ช่วยให้เรือใบสีฟ้าหนีห่างเป็น 2-0 ก่อนจะจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งหลังได้เพียง 4 นาทีเท่านั้น เป็นเซาแธมป์ตันที่พังประตูตีไข่แตกได้อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ดูซาน ทาดิช ซึ่งเพิ่งจะลงมาเป็นตัวสำรองไม่นาน เล่นฟรีคิกสั้นๆโดยการจ่ายออกกราบขวาให้ มาเน ครอสเข้ากลางให้ ลอง เทกตัวโหม่งเสียบคานเข้าไป ทำให้นักบุญไล่มาเป็น 1-2
แต่แล้วในนาทีที่ 70 ซิตี้ก็ซัดลูกที่สามหนีออกไปอีก จากจังหวะที่ เดอ บรอย์ ได้บอลในเขตโทษก่อนจะบรรจงหยอดข้ามไปเสาไกลทางฝั่งซ้ายให้ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ วอลเลย์ด้วยซ้ายข้างถนัดส่งบอลเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างเด็ดขาด ช่วยให้เจ้าบ้านนำ 3-1
หลังจากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เปิดบ้านเอาชนะไปได้สำเร็จ 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 29 คะแนน แซงขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราวแล้ว ส่วนเซาแธมป์ตันหล่นมาอยู่อันดับ 9 มี 20 แต้มเท่าเดิม