ประวัติพระพุทธชินราช

ประวัติพระพุทธชินราช

พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยสำริด ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัยตอนปลาย หน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว สูง 7 ศอก หล่อในสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท) ซึ่ง ได้สร้างพระพุทธชินราช พร้อมกับพระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา ฐานชุกชีปั๊มเป็นรูปบัวคว่ำบัวหงาย เดิมไม่ได้ลงรักปิดทอง ได้มีการปิดทองครั้งแรกในรัชสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ คราวเสด็จพระราชดำเนินมานมัสการพระพุทธชินราช เมื่อปี พ.ศ. 2146

พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปองค์ประธานของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร พระอารามหลวง ชั้นเอก เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศไทยและในโลก เส้นรอบนอกพระวรกายอ่อนช้อย พระพักตร์ค่อนข้างกลม พระขนงโก่ง พระเกตุมาลาเป็นรูปเปลวเพลิง มีลักษณะพิเศษเรียกว่าทีฆงคุลี คือที่ปลายนิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่นิ้วยาวเสมอกัน ซุ้มเรือนแก้วทำด้วยไม้แกะสลักสร้างในสมัยอยุธยา แกะสลักเป็นรูปมกร (ลำตัวคล้ายมังกรแต่มีงวงคล้ายช้าง) อยู่ตรงปลายซุ้ม และมีลำตัวเหรา (คล้ายจระเข้) อยู่ตรงกลางซุ้ม มีเทพอสุราปกป้องพระองค์อยู่สองตน คือ ท้าวเวสสุวัณ และอารวกยักษ์

ในตำนานการสร้างพระพุทธชินราชกล่าวว่า พระพุทธชินราชสร้างในสมัยพระศรีธรรมไตรปิฎก ธาตุของพระพุทธเจ้า คือ เกศา(ผม) ได้สร้างขึ้นพร้อมกับพระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา โดยใช้ช่างจากเมืองศรีสัชนาลัย และเมืองหริภุญชัย ในการเททองปรากฏว่าหล่อได้สำเร็จเพียงสององค์ คือ พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา ส่วนพระพุทธชินราชทองแล่นไม่ตลอด ต้องทำพิมพ์หล่อใหม่ถึงสามครั้ง ครั้งสุดท้ายพระอินทร์ได้แปลงกายเป็นชีปะขาวมาช่วยเททองหล่อ เมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้นสองค่ำ เดือนหก ปีมะเส็ง จุลศักราช 717 จึงหล่อได้สำเร็จบริบูรณ์

เมื่อกล่าวถึงพระพุทธรูปที่มีความงามเป็นเลิศ ทุกคนต้องนึกถึง พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก อย่างแน่นอน เพราะเป็นพระพุทธรูปที่สง่างามล้ำค่าไปด้วยศิลปกรรมเลิศล้ำด้วยคุณลักษณะ กว่าพระพุทธรูปทั้งหมดในแผ่นดิน นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีทุกสมัย ต่างตกลงใจเป็นอย่างเดียวกันว่าพระพุทธชินราชนั้นงามเป็นหนึ่ง ประดุจดั่งเพชรเม็ดงามที่ล้ำค่ามหาศาล ศิลปะที่ปรากฏผ่านสายตา เป็นที่สร้างศรัทธาเลื่อมใส จับจิตใจของผู้พบเห็น เป็นที่น่าอัศจรรย์ ยากที่จะพรรณนาความงามให้หมดสิ้นได้ นำความเอิบอิ่มใจมาให้เป็นทัศนานุตตริยะอย่างยอดเยี่ยม และเต็มเปี่ยมไปด้วยพุทธลักษณะที่เลอเลิศทำให้เกิดความคิดเป็นอัศจรรย์ว่า เป็นพุทธปฏิมาที่สร้างด้วยฝีมือมนุษย์จริงหรือ และเมื่อได้เข้าใกล้ประหนึ่งได้เข้าเฝ้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นที่ปลื้มใจได้ปีติของคนทั่วหล้า ผู้ที่มาแล้วอยากที่จะกลับมาอีกครั้ง เหมือนกับมีพลังดลใจไม่มีเบื่อ ความงามและความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระพุทธชินราช ยังประกาศประจักษ์เป็นพยานผ่านกาลเวลามาทุกยุคทุกสมัย เป็นที่พึ่งทางใจของคนทุกชนชั้น อย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย ผู้ที่มีความทุกข์ใจกาย ก็ผ่อนคลายยามเมื่อได้เห็น กลายเป็นความสุขอย่างประหลาด เหมือนหยาดน้ำฝนที่ตกลงในที่แห้งแล้งกันดาร ย่อมเป็นที่สำราญของสรรพสัตว์นานาชนิด เหมือนได้ชุบชีวิตจากตายแล้วเกิดใหม่