วอลโว่ XC60 D4 ออปชั่นครบ
ห่างหายไปจากพื้นที่สื่อพอสมควรสำหรับค่ายวอลโว่แต่ในแง่โปรดักต์ก็ยังมีอย่างต่อเนื่องเที่ยวนี้มีทีเด็ดมานำเสนออีกแล้วครับเป็นรถครอสโอเวอร์ ที่ให้อารมณ์คูเป้ไม่ใหญ่โตเทอะทะ
ค่ายวอลโว่ส่ง XC60 ลงตลาด ด้วยหวังจับกลุ่มลูกค้าคนเมืองที่ต้องการรถครอสโอเวอร์ที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ทันสมัยเปี่ยมพลัง ใช้ง่ายงานในเมือง มีระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ให้ทั้งข้อมูลและความบันเทิงเต็มพิกัดส่วนวันหยุด นึกสนุกขึ้นมาก็สามารถเอาไปลุยๆ ตามป่าตามเขาได้สบาย
รูปลักษณ์ภายนอก ยังคงเอกลักษณ์ด้วยตัวถังสไตล์รถครอสโอเวอร์ที่ดูแกร่งแต่ปราดเปรียว ภายในห้องโดยสารทันสมัยด้วยไม้ลายใหม่ เบาะนั่งสไตล์สปอร์ตบุหนังคุณภาพสูง เฉดสีทูโทนเน้นความสปอร์ตเต็มพิกัด เบาะหลังมีที่วางแขนตรงกลางแบ่งเป็น 3 ที่นั่ง 40/20/40 แต่ละส่วนสามารถพับราบลงได้ง่ายเพื่อความสะดวกในการขนสัมภาระจำนวนมาก มีที่นั่งเด็กเพื่อความปลอดภัยตามแบบฉบับของวอลโว่
สำหรับเครื่องยนต์ที่ประจำการใน XC60 มีด้วยกัน 2 รุ่น คือ เบนซิน 2.0 ลิตร 220 แรงม้าและดีเซลทวินเทอร์โบ มาพร้อมเทคโนโลยี i-ART ครั้งแรกของโลก เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ เล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา พิกัดความแรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ 6 และ 8 สูบ
แต่ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซี.ซี.ปัจจุบันเทคโนโลยี i-ART คือหัวฉีดเชื้อเพลิงอัจฉริยะ ติดตั้งคอมพิวเตอร์ไว้ที่หัวฉีดเชื้อเพลิงในแต่ละลูกสูบ ฉีดจ่ายน้ำมันสูงสุด 9 ครั้งต่อการหมุนของเครื่องยนต์ 1 รอบ โดยมีแรงดันมากสุด 2,500 บาร์
ถ่ายทอดกำลังทั้งหมดผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มี Sport Mode ให้อัตราเร่งต้นเฉียบขาดดีจริง ๆ
แถมยังมีโหมด “อีโค่-พลัส” ประหยัดเชื้อเพลิงแบบสุด ๆ อีกด้วยในสเป็กเขียน 21 กม.ต่อลิตร ทำจริงยังไม่ได้ลองแต่ดูจากมาตรวัดโอเคนะ
จุดขายของวอลโว่ที่ค่ายอื่นยังทำไม่ได้คือ ออปชั่นต้องบอกว่า “เยอะ” จริง ๆ
เริ่มจาก Sensus Connect ที่ใช้งานง่ายบนเทคโนโลยีคลาวด์ ทั้งระบบนำทาง ฟังวิทยุออนไลน์ และค้นหาสถานที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
XC60 D4 ติดตั้งเครื่องเสียงชุดใหญ่ 4 x 50 วัตต์พร้อมลำโพง 8 ตัว เล่นแผ่นดีวีดี หรือไฟล์ภาพยนตร์วิดีโอได้ รองรับ CD, MP3 และ WMA มี AUX Port สำหรับเชื่อมต่อเครื่องเล่น MP3 มีระบบสตรีมมิ่ง เปิดเพลงจากโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูท
ครั้งแรกในโลกกับระบบตรวจจับผู้ขับขี่จักรยานพร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถแบบเต็มแรงเบรกโดยมีเรดาร์ติดตั้งอยู่บนกระจังหน้าของรถ และกล้องที่ติดอยู่ด้านหลังของกระจกมองหลัง
เรดาร์มีหน้าที่ตรวจจับภาพมุมกว้าง 60 องศา ทางด้านหน้ารถว่ามีวัตถุอยู่ในรัศมีหรือไม่ และวัดระยะห่างจากวัตถุนั้น
ส่วนกล้องก็จะยืนยันว่า วัตถุนั้นเป็นโครงสร้างของมนุษย์หรือไม่
ระบบนี้ติดตั้งเป็นมาตรฐานและทำงานเมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วต่ำกว่า 35 กม./ชม.
มีระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติใหม่ และยังสามารถทำงานร่วมกับระบบไฟหน้าแบบหักเหตามพวงมาลัย เพื่อทัศนวิสัยที่ดีที่สุดแก่ผู้ขับขี่ในสถานการณ์ต่าง ๆ
ยังมีระบบไฟส่องสว่างเพิ่มมุมมองด้านข้างเมื่อใช้สัญญาณ ไฟเลี้ยวขณะขับขี่ความเร็วต่ำ
เก๋ไก๋ด้วยระบบเซ็นเซอร์เรดาร์แจ้งเตือนเมื่อมียานพาหนะอยู่ในมุมอับของสายตา โดยหลอดไฟที่ติดอยู่กับประตูหน้าด้านซ้ายหรือขวาจะสว่างขึ้น
ระบบนี้จะทำงานเมื่อความเร็วรถมากกว่า 10 กม./ชม.
ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลังออกจากที่จอด และที่วอลโว่ไม่เคยลืมคือระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำหรือซิตี้เซฟตี้เพื่อความปลอดภัยในเมือง
เมื่อรถคุณวิ่งไม่เกิน 50 กม./ชม. ระบบจะใช้เลเซอร์ที่ฝังอยู่ส่วนบนของกระจกบังลมหน้า สแกนพื้นที่ด้านหน้ารถในระยะห่างออกไป 10 เมตร
ถ้าระบบประเมินว่าการชนกำลังจะเกิดขึ้น แต่คุณไม่เหยียบเบรก ระบบก็จะทำงานเองโดยอัตโนมัติรับรองว่าถ้าเปิดระบบนี้ไว้ไม่มีทางเกิดเหตุแน่นอน
มีระบบแจ้งเตือนป้ายจราจร เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎจราจร เช่น ป้ายจำกัดความเร็ว ป้ายห้ามแซง
กล้องที่ติดตั้งที่หน้ารถจะสามารถตรวจจับป้ายจราจรที่ได้มาตรฐานของยุโรปแล้วส่งสัญญาณเตือน
อีกอันที่ค่อนข้างชื่นชอบระบบเตือนผู้ขับขี่ ถ้าประเมินว่าผู้ขับขี่อาจสูญเสียการควบคุมรถหรือมีสมาธิในการขับขี่น้อยเกินไปจนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ
สัญญาณเสียงจะดังขึ้น รวมทั้งข้อความทางหน้าจอเพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่หยุดพัก
นอกจากนี้ยังมีระบบปกป้องเมื่อพลิกคว่ำ เซ็นเซอร์ที่ตรวจจับการพลิกคว่ำซึ่งติดตั้งในระบบ
จะอ่านค่าของอัตราการพลิกของรถตลอดเวลา ถ้าค่าดังกล่าวสูงถึงขีดอันตราย ระบบก็จะ สั่งการให้ม่านนิรภัยด้านข้างทำงาน
ได้ออปชั่นเยอะ ๆ แบบนี้ โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยแลกกับเม็ดเงินราว ๆ สามล้านบาทที่จ่ายไป คุ้มค่าดี ครับ
Leave a Reply