มรสุมสวาท

มรสุมสวาท

“สูตรสำเร็จของความรักสุดเข้มข้นสไตล์ตบจูบ ระหว่างลูกสาวเศรษฐีตกยากและมหาเศรษฐีเพลย์บอยหนุ่มใหญ่ ที่ถูกแทรกกลางด้วยหนุ่มน้อยอารมณ์อาร์ติสท์กับนักประชาสัมพันธ์สาว ชีวิตของคนทั้ง 4 ต้องต่อสู้กับมรสุมชีวิตไปพร้อมๆ กับมรสุมความรักในใจที่ตนเองต่างก่อขึ้นจนกลายเป็นพายุร้ายที่ยากจะดับ”

กุมาริกา อิสรเสวี (ทัศนียา การสมนุช) หรือกวางเด็กสาวสดใส วัย 17 ปี เป็นธิดาคนรองของ นายบุรุษ (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) อดีตข้าราชการระดับสูง ซึ่งหันไปจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กวางมีพี่น้องทั้ง 5 คน อันได้แก่ วรเทวี (กัญญารัตน์ พงษ์กัมปนาท) พี่สาวคนโต ที่เกิดจากภรรยาเอกที่เสียชีวิตไปเช่นเดียวกับกวาง มานพ (ปวรพัฒน์ จารุศักดิ์วีรกุล) น้องชายคนรองที่เกิดจากภรรยาเก็บซึ่งเลิกรากันไปแล้วของนายบุรุษ และเปี๊ยก (ด.ช.เสฐฐวุฒิ รุมพล) กับแป้ง (ด.ญ.เฟรย่า พิชชา) ลูกชายหญิงที่ถือกำเนิดจาก แม่สะอาด (มัณฑนา หิมะทองคำ) เมียคนล่าสุดที่เป็นคนใช้ในบ้านที่นิสัยทะเยอทะยานอยากเป็นคุณนายและไม่กินเส้นกับวรเทวีอย่างที่สุด

พี่น้องทุกคนของกวางต่างได้รับการตามใจจากนายบุรุษ อย่างมาก เพื่อทดแทนความอบอุ่นที่นายบุรุษ ไม่ได้มอบให้ลูกๆ เพราะมัวแต่ไปทุ่มเทเวลาให้กับบ้านน้อยที่มีอยู่มากมายนั่นเอง พี่น้องทุกคนของกวาง จึงมีนิสัยฟุ้งเฟ้อ มีแต่กวางคนเดียวที่ติดนิสัยค่อนข้างสมถะและละเอียดรอบคอบมาจากมารดา ทำให้กวางมีหน้าที่ต้องคอยควบคุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมทั้งคอยดูแลน้องเล็กๆ ด้วย ขณะที่ วรเทวีนั้น เอาแต่ใจตัวเองฟุ่มเฟือยและดูถูกคนสุดๆ

หน้าตาที่สวยน่ารักและบุคลิกร่าเริงของกวางเป็นที่ติดตาต้องใจ อัครพล ธนะสาสน์ดำรงกุล (ณทรรศชัย จรัสมาส) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ นางจิตรา (สุภาภร คำนวณศิลป์) เศรษฐีนีใหม่จอมตระหนี่ ที่ร่ำรวยขึ้นมาจากการเป็นนายหน้าค้าที่ดิน ที่มีบ้านอยู่ตรงข้ามกันเป็นอย่างมาก กวางกับอัคร พบเข้ากันได้เป็นอย่างดีเพราะต่างก็เป็นคนรักอิสระ ตรงไปตรงมาชอบการผจญภัยเหมือนกัน แต่จะต่างกันก็ตรงที่อัครพล มีอารมณ์อ่อนไหว ช่างฝันอย่างมาก จนมักปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลทำอะไรตามใจตนเองอย่างไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ ทั้งสิ้น

เมื่อกวางได้รับเลือกเป็นนักเรียนดีเด่นของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อัครพล ได้ตัดสินใจพาเด็กสาวไปฉลองและตัดสินใจขอความรักจากเธอ สถานที่ที่เขาพาเธอไป คือ ยอดตึกสูงริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จและยังไม่เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ หากอัครพล เข้าไปได้เพราะเขาในฐานะนักศึกษาสถาปัตยกรรมได้มาฝึกงานที่ตึกนี่และรู้จักทางเข้าเป็นอย่างดี

ระหว่างที่ 2 หนุ่มสาวกำลังเพลิดเพลินกันดินเนอร์กลางแสงตะเกียงพร้อมกับดูแสงไฟในแม่น้ำเจ้าพระยาไปด้วยกันนั้น สยมภู ภักดีนฤเบศร์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ เจ้าของบริษัทคอนสตรัคชั่นที่ควบคุมดูแลการก่อสร้างตึกหลังนี้ ก็ได้เข้ามาดูแลความเรียบร้อยก่อนส่งมอบงาน

สยมภู เป็นนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในแวดวงก่อสร้างตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะต้องเข้ามากอบกู้บริษัทแทนพ่อหรือ นายภักดี (ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล) ที่จบชีวิตลงด้วยไกปืน ด้วยความคิดที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่านายภักดี ทำไปเพราะกิจการบริษัทของครอบครัวกำลังซวนเซ หากสยมภู เป็นคนเดียวที่รู้ความจริงว่าพ่อฆ่าตัวตายเพราะเสียใจอย่างหนักที่แม่ของเขาทิ้งเขากับพ่อหนีไปกับนักธุรกิจต่างชาติที่ร่ำรวย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สยมภู กลายเป็นคนใจดำอย่างยิ่งในเชิงธุรกิจ ขณะเดียวกันเขาก็เป็นเสือผู้หญิงตัวกลั่นที่ทำทุกอย่างเพราะต้องการแก้แค้นสิ่งที่แม่ทำกับเขาและพ่อ..

ชายหนุ่มไม่เชื่อว่ารักแท้มีในโลกนี้..จึงครองตัวเป็นโสดและไม่เคยคิดจะแต่งงาน สำหรับเขาผู้หญิงเป็นแค่เครื่องมือที่จะนำไปสู่ความสำเร็จเชิงธุรกิจเท่านั้น

นีน่าก็เช่นเดียวกัน สยมภู ต้องการให้แบงก์ซึ่งพ่อนีน่าเป็นประธานสนับสนุนเงินทุนจึงเอาใจนีน่า เป็นพิเศษ เมื่อสยมภูปรากฏตัวขึ้นและขอเข้าไปในตึก รปภ.ถึงกับเหงื่อแตก รีบวิ่งมาส่งสัญญาณให้อัครพลรู้ อัครพลรีบพากวางวิ่งหนีออกจากห้อง ความมืดทำให้ทั้ง 2 เกิดพลัดหลงกัน เด็กสาววิ่งเข้าไปแอบในห้องๆ หนึ่ง ซึ่งสยมภูก็พานีน่าเข้าไปพลอดรักกันพอดี กวางทำเสียงดังทำให้ต้องวิ่งหนีออกมา สยมภู ไล่ตามจับตัวกวางและก็ต้องแปลกใจที่เห็นกวางในชุดนักเรียน ขณะที่กำลังปลุกปล้ำกัน อัครพล ก็เอาไม้เข้ามาฟาดสยมภู ล้มลงแล้วพากวางหนีออกไป

ข่าวสยมภู บาดเจ็บลงหนังสือพิมพ์ กวางถึงกับอึ้งเมื่อรู้ว่าสยมภู เป็นเจ้าของตึก ส่วนอัครพล อึ้งหนักกว่าเพราะสยมภู เป็นคนที่เซ็นใบผ่านการฝึกงานให้เขา และถ้าใบฝึกงานไม่ผ่านก็เท่ากับวิทยานิพนธ์ของเขาต้องมีปัญหา และอัครพล ก็คาดไม่ผิด เพราะอาจารย์เรียกเขาเข้าไปพบและแจ้งว่าสยมภู จะเอาเรื่องถึงผู้ปกครอง อัครพลกลุ้มใจมาก กวางต้องการไปช่วยเป็นพยานว่าเรื่องทั้งหมดเป็นอุบัติเหตุ แต่อัครพลไม่ยอมเพราะกลัวกวางจะเสียชื่อ แต่กวางก็แอบไปเยี่ยมสยมภูที่โรงพยาบาลจนได้ แล้วกวางก็ได้พบระวิวรรณ (ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล) หุ้นส่วนสาวใหญ่ เพื่อนสนิทของสยมภู คอยพยาบาลเขาอยู่ กวางขอร้องให้สยมภูให้อภัยอัครพล สยมภูปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย แถมยังถากถางว่าเป็นเด็กใจแตก กวางโกรธมาก ย้อนสยมภูว่าเขาเองก็เป็นพวกบ้ากามที่ชอบพล่าผลาญผู้หญิงไปวันวันเท่านั้น กวางกลับไปด้วยความแค้น แต่สยมภูกลับรู้สึกอยากจะเอาชนะกวางอย่างรุนแรง สยมภูให้ระวิวรรณช่วยติดต่อปิดข่าวเรื่องที่เกิดขึ้น และตกลงใจจะไม่เอาเรื่องอัครพล ยังความแปลกใจให้ระวิรรณมาก

กวางเองก็คาดไม่ถึงที่สยมภูกลับคำ แต่เธอก็ไม่ได้บอกอัครพลว่าไปพบสยมภู กวางคิดว่าชาตินี้เธอกับสยมภูคงไม่ได้พบกันอีก แต่ก็เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง ธุรกิจบุรุษ มีปัญหาต้องใช้เงินมหาศาล บุรุษจึงไปขอกู้แบงก์ของพ่อนีน่า แต่แบงก์ไม่อนุมัติ ที่นั่นเขาได้พบสยมภู โดยบังเอิญและขอความช่วยเหลือจากสยมภูในฐานะที่เขาเคยเป็นเพื่อนของพ่อสยมภู เขาคะยั้นคะยอให้สยมภู มาดูบ้านซึ่งเขาจะใช้ค้ำประกันเงินกู้ สยมภูมาด้วยอย่างไม่เต็มใจนัก เขาได้พบกวางอีกครั้ง กวางจึงกับตะลึงขณะที่เจอสยมภู แต่สยมภูแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกวาง ขณะที่ในใจนั้นเตรียมแผนการที่จะแก้เผ็ดกวางไว้แล้ว ยิ่งได้เห็นว่าอัครพลนั้นอาศัยอยู่บ้านตรงข้าม สยมภูยิ่งรู้สึกหงุดหงิด เขาตกลงรับจำนองบ้านจากนายบุรุษ ในราคาสูงลิ่ว และถือโอกาสเชิญครอบครัวบุรุษไปในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดที่จะจัดขึ้นที่คฤหาสน์ของเขา วรเทวีดีใจมากที่จะได้ไปร่วมงานเลี้ยงนี้กับ ทศพร (บดินทร์ โรจนพงษ์เกษม) คู่หมั้นหนุ่ม ลูกชายรัฐมนตรีคนดังแห่งยุคเพราะรู้ว่าเป็นงานที่หรูที่สุดของปี ขณะที่กวางไม่ต้องการจะไปเลยแต่ขัดคำสั่งของนายบุรุษ ไม่ได้

ที่งานเลี้ยงกวางพบว่าสยมภูม คือผู้ชายประเภทที่เธอไม่ต้องการข้องแวะด้วย เพราะเขาเป็นเพลย์บอยตัวกลั่น เช่นเดียวกับบิดาของเธอ รอบๆ ตัวชายหนุ่มมีแต่หญิงสาวที่ทะเลาะตบตีกันเพราะต้องการครอบครองสยมภู ยกเว้นระวิวรรณ ที่กวางชมชอบในความสง่างามและอัธยาศัยดี โดยที่กวางไม่รู้เลยว่าลึกๆ ระวิวรรณรักสยมภูสุดหัวใจ แต่ต้องทำตัวเป็นเพื่อนเพราะกลัวสยมภู จะตีตัวออกห่าง

ขณะที่ทุกคนรู้สึกสนุกสนาน กวางกลับรู้สึกเซ็งสุดๆ จึงปลีกตัวเดินสำรวจเรื่อยเปื่อยเข้าไปถึงตึกด้านหลังของตัวบ้าน กวางได้เจอกับ วันทนีย์ (วรรษพร วัฒนากุล) เมียเก็บของสยมภู เป็นครั้งแรกในชุดนอนบางเบา แต่ความที่วันทนีย์ โดนสั่งห้ามออกมาร่วมงานเลี้ยงจึงวิ่งหนีไป เมื่อเจอหน้ากวาง ทำให้เด็กสาวไม่แน่ใจว่าฝ่ายนั้นเป็นผีหรือคน ความแก่นซนทำให้เธอตามติดเพราะคิดอยากพิสูจน์จนชนเข้ากับแจกันลายครามแตกกระจาย และเจอกับสยมภูเข้าเสียก่อน

ทั้งคู่ปะทะคารมกันอย่างเผ็ดร้อน สยมภูขอจูบจากกวางแลกกับค่าแจกัน กวางตบหน้าสยมภูอย่างเหลืออด แล้วเธอก็ถูกปิดผนึกริมฝีปากด้วยจุมพิตของชายหนุ่ม เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตายของระวิวรรณ ที่เริ่มสงสัยว่ากวางจะเข้ามาเป็นศัตรูความรักอีกคนหนึ่งของเธอ

หลังจากกลับมาจากงานเลี้ยงของสยมภู วรเทวีได้บอกข่าวดีกับทุกคนในครอบครัวว่าเธอจะแต่งงานกับทศพร และจะเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศพร้อมกัน ทำให้บุรุษกลุ้มใจมาก เพราะลำพังค่าใช้จ่ายในบ้านก็แทบจะไม่พอ เขาตัดสินใจกลับไปกู้เงินเพิ่มจากสยมภู แต่สยมภูยื่นข้อเสนอว่าขอให้กวางมาเจรจาแทน บุรุษแปลกใจเพราะไม่คิดว่าสยมภูจะสนใจลูกสาวของตน ด้วยศักดิ์ศรี ทำให้บุรุษต้องบอกความจริงเรื่องฐานะของบ้านกับวรเทวี แต่แทนที่วรเทวีจะเข้าใจ กลับตีโพยตีพายและขอให้กวางไปพบสยมภูตามข้อเสนอ ขณะที่ข่าวการล้มละลายของนายบุรุษ ก็รั่วออกไปถึงหูครอบครัวและอัครพลเสียก่อน อัครพลรีบมาพบกวางและเสนอตัวช่วยเหลือ สยมภูเห็นกวางไม่ไปตามนัดจึงมาตามที่บ้านและได้เห็นอัครพลสวมกอดกับกวางอยู่ สยมภูจากไปอย่างเสียหน้ามาก

ฝ่ายอัครพล ไปขอเงินแม่เพื่อช่วยครอบครัวกวาง แต่จิตรา ปฏิเสธแถมยังบังคับให้อัครพลไปศึกษาต่อต่างประเทศ อัครพลไม่ยอม จิตรามาเจรจากับกวางให้เงินก้อนนึงแลกกับอนาคตลูกชาย กวางไม่รับ และจำต้องหลอกอัครพลว่าจะตามไปพบที่ต่างประเทศเพื่อให้อัครพลยอมไปเรียนต่อ

ด้วยความที่ไม่สามารถแบกรับภาระที่ประดังประเดเข้ามาได้ บุรุษตัดสินใจหนีไปต่างจังหวัดเพื่อหาทางทำมาหากินและหลบเจ้าหนี้ ทิ้งให้ลูกเมียต้องเผชิญโชคชะตาโดยลำพัง วรเทวีต้องโกหกพ่อแม่ทศพรว่าบุรุษเดินทางไปจัดการเรื่องธุรกิจและข่าวทั้งหมดเป็นเรื่องโคมลอย

ขณะเดียวกันวรเทวี ก็ต้องการเงินก้อนหนึ่งที่จะเอามาช่วยจัดเตรียมงานแต่งงานเพื่อยืนยันว่าฐานะของตนยังดีอยู่ กวางสงสารพี่สาวมากจึงบากหน้าไปหาสยมภูอีกครั้ง คราวนี้สยมภูยอมให้เงินกวางโดยดีแต่แกล้งบีบกวางโดยให้เวลาเพียง 1 เดือน ที่จะเอาเงินทั้งหมดมาคืน ไม่เช่นนั้นจะยืดบ้าน กวางรับปากทั้งๆ ที่รู้ดีว่าไม่สามารถจะทำตามเงื่อนไขได้ วรเทวีได้แต่งงานสมใจแล้วก็ย้ายไปใช้ชีวิตในอเมริกากับทศพร

ครบ 1 เดือน กวางก็ต้องพานางสะอาด กับน้องๆ ย้ายออกจากคฤหาสถ์อิสรเสวี ชีวิตที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทำให้นางสะอาด โกรธเกวี้ยวเป็นอย่างมากและลงโทษว่าทุกอย่างเป็นเพราะความผิดของวรเทวีและกวาง ระหว่างที่หางานทำ กวางต้องทยอยนำเสื้อผ้า ของประดับมีค่าที่หยิบฉวยตอนออกจากบ้านไปขายที่ตลาดของมือ 2 เพื่อนำมาใช้จ่ายในบ้าน และเก็บเป็นค่าทำคลอดให้นางสะอาด ด้วย

สยมภู ผิดหวังมากที่กวางไม่มาพบและขอร้องเขาอีก ชายหนุ่มสั่งให้ ทะนง (สัจจากาจ จิตรพึงธรรม) ทนายหนุ่มคู่ใจปิดคฤหาสน์เอาไว้ และจ้าง รปภ.มาดูแลย่างดี สิ่งเดียวที่ชายหนุ่มนำออกไปจากคฤหาสน์ คือ ภาพสีน้ำมัน รูปกวางน้อย ฝีมือของกวางที่ทิ้งไว้ในห้องนอน และหันกลับไปใช้ชีวิตเพลย์บอยเหมือนเดิม

อัครพลเฝ้ารอกวางอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อกวางไม่เดินทางมาตามนัด อัครพลจึงคิดจะกลับเมืองไทย จิตราต้องสร้างเรื่องว่ากวางพาครอบครัวหนีเจ้าหนี้หายไป ตามตัวไม่ได้และก็แกล้งทำป่วยเพื่อดึงความสนใจจากลูก อัครพลจำต้องเรียนต่ออย่างซังกะตาย ที่โรงเรียนเขาได้พบกับ ปิยะธิดา (ฮาน่า ลีวิส) ลูกสาวทูตไทย ที่ค่อนข้างจะเป็นคุณหนู ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ปิยะธิดาหลงรักอัครพล ตั้งแต่แรกพบ บวกกับการผลักดันอย่างสุดชีวิตของจิตรา ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

เวลาผ่านไป 2 ปี
กวางเริ่มโตเป็นสาวเต็มตัว พร้อมๆ กับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น ตลอดเวลากวางต้องเลี้ยงครอบครัวอย่างยากลำบาก จากรายได้อันน้อยนิดจากงานเสมียน แถมการโดนขูดรีดขอโน่นขอนี่จากนางสะอาด และบรรดาน้องๆ ทำให้เด็กสาวต้องกระเหม็ดกระแหม่อย่างถึงที่สุด เธอต้องออกจากบ้านตั้งแต่ตีห้าเพื่อจะได้ไปทันเวลาเข้างานตอน 8 โมงเช้า เพราะกวางไม่ยอมใช้บริการเรือหรือรถสาธารณะเธอเลือกที่จะพายเรือไปจอดที่ท่าน้ำในวัดแล้วเดินไปทำงานแทน นอกจากนี้กวางยังต้องอดข้าวเช้าและเที่ยงเป็นประจำ โดยอาศัยแค่น้ำลูบท้องเอา เธอจึงหน้ามืดตาลายอยู่บ่อยๆ ทำให้เพื่อนร่วมงานพายไม่ค่อยชอบขี้หน้าด้วยคิดว่าเธอสำออยต้องการออดอ้อนหัวหน้ากองหนุ่มโสดจนกวางเสียใจร่ำๆ อยากลาออกเสียหลายครั้ง แต่ทำไม่ได้เมื่อคิดถึงภาระครอบครัวที่เธอต้องรับผิดชอบ

ถึงกระนั้นนางสะอาด ก็ยังไม่เคยซาบซึ้งในบุญคุณของกวาง นางกลับหาเรื่องด่ากวางตลอด นางไม่เคยรู้ว่าที่กวางถึงบ้านค่ำมืดเกือบ 2 ทุ่ม เพราะเลือกประหยัดค่ารถด้วยการเดินจากที่ทำงานกลับบ้าน หากนางกลับคิดว่ากวางไปเที่ยวเตร่อย่างมีความสุข ทิ้งนางกับลูกให้อยู่ในกองทุกข์ และนางนังพาลพาโลไปถึงลูกๆ ของตนทุกคนรวมถึงมานพด้วย ที่วันๆ เอาแต่หายหัวไม่อยู่บ้าน

กวางกลุ้มใจมากับการที่น้องชายหายหน้าค่าตาไปและกลับบ้านดึกทุกวัน บางวันก็มีบาดแผลฟกช้ำหน้าตาแตกกลับมาด้วย หากเมื่อซักถาม มานพก็ไม่เคยปริปากพูด มีแต่ชักสีหน้าบึ้งตึงใส่เธอ ทั้งนี้เป็นเพราะเด็กหนุ่มทำใจรับสภาพที่เป็นอยู่ไม่ได้จึงพยายามหาทางออกด้วยการไปอยู่กับแก๊งลักเล็กขโมยน้อยเพื่อหาเงินใช้สบายมือเหมือนก่อน เขาทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นงัดตู้โทรศัพท์สาธารณะ หรือเรียกค่าคุ้มครองจากลานจอดรถในวัด จนไปมีเรื่องกับมาเฟียเจ้าถิ่นเป็นต้น

นอกจากปัญหาเรื่องมานพแล้ว กวางยังต้องเจอสภาพบ้านแตก เปี๊ยกกับแป้งร้องไห้กระจองอแงทุกวันจนกวางทนไม่ได้เปิดฉากทะเลาะกับนางสะอาดขึ้นจนเกิดอุบัติเหตุ สะอาดตกเลือดต้องคลอดลูกกะทันหัน กวางตกใจมากรีบเข้าช่วยพานางสะอาดไปส่งโรงพยาบาล สะอาดคลอดลูกออกมาเป็นผู้หญิง แต่เมื่อครบกำหนดนางสะอาดออกจากโรงพยาบาล กวางก็พบว่านางสะอาดกลับมารออยู่ที่บ้านโดยปราศจากทารกน้อยเสียแล้ว กวางสืบถามจนแน่ใจว่าแม่เลี้ยงใจยักษ์ตัดสินใจเอาทารกน้อยไปทิ้งไว้ที่ห้องน้ำสาธารณะในห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ โรงพยาบาล

กวางต้องพายเรือออกจากบ้านไปตามหาทารกน้อยทั้งกลางดึก เมื่อเธอไปถึงกวางได้เจออัครพลกับปิยะธิดาโดยบังเอิญ อัครพลดีใจมากที่เจอกวาง แต่กวางรู้สึกอับอายมากในความต่ำต้อยของตน จึงหลบหน้าอัครพลแทบไม่ทัน ระวิวรรณซึ่งขับรถมาแถวนั้น มาพบเข้าและจำกวางได้ จึงรับกวางขึ้นรถและไปส่งที่บ้าน ระวิวรรณถึงกับตะลึงที่เห็นสภาพบ้านอันซอมซ่อของกวาง จึงให้เงินช่วยเหลือกวางจำนวนหนึ่ง กวางไม่รับ แต่นางสะอาดฉวยเอาไว้ก่อน กวางขอให้ระวิวรรณเก็บเรื่องที่เจอเธอเป็นความลับซึ่งระวิวรรณก็เต็มใจรับปาก เพราะเธอก็ไม่ต้องการให้สยมภู มาพบกับกวางอีก

แต่พรหมลิขิตก็ทำให้ทะนง เอาภาพข่าวเด็กถูกทิ้งในห้างสรรพสินค้าจาก นสพ.มาให้สยมภูดู สภาพของกวางที่มอบแมมทำให้สยมภูอดสะท้อนใจไม่ได้ และสั่งให้ทนง ระดมกำลังออกตามหากวาง และในที่สุดสยมภู ก็พบว่ากวางทำงานใกล้ๆ ไซด์งานเขานั่นเอง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจสะกดรอยตามเด็กสาวกลับบ้านไป และเมื่อพบว่ากวางเดินกลับบ้านแทนที่จะนั่งรถเมล์ และต้องไปพายเรือต่อเพราะบ้านอยู่กลางสวนลึก ชายหนุ่มก็ได้แต่สะท้อนใจทำให้เขาคิดจะช่วยเธอ

หากก่อนที่สยมภู จะตัดสินใจทำอะไรลงไปเขาก็พบว่าลูกน้องของเขาจับพวกตัดช่องย่องเบาได้ที่โกดังสินค้าใหญ่ริมน้ำ สยมภูจึงต้องไปสะสางเรื่องนี้ ขณะเดียวกันเพื่อนของมานพที่หนีออกมาได้ ก็รีบไปบอกกวางให้ไปช่วยมานพทันที ระหว่างทางไปกวางได้เจอกับอัครพลที่จ้างนักสืบสะกดรอยตามกวางมาถึงบ้าน ทำให้อัครพล ตัดสินใจไปช่วยมานพกับกวางด้วย

ด้านสยมภู ได้พบว่าหัวหน้าแก๊งตัดช่องย่องเบาที่กำลังโดนลูกน้องเขารุมกระทืบอยู่ คือ มานพ น้องชายวัยรุ่นของกวางนั่นเอง มานพสารภาพว่าระหวางที่หนีการไล่ลาของมาเฟียเจ้าถิ่น เขาได้พลัดเข้าไปในโกดังเก็บของของบริษัทสยมภู โดยบังเอิญ ที่นี่มานพ ได้พบช่องทางเข้า-ออกโกดัง และพบอุปกรณ์ก่อสร้างจำนวนมาก เช่นสายไฟที่ถอดเอาปลอกออกแล้วแกะทองแดงไปขายได้ มานพจึงตัดสินใจชวนเพื่อนในแก๊งให้มาขโมยสินค้าในโกดังอยู่หลายหนเพื่อหาเงินไปใช้ สยมภู ฟังแล้วตัดสินใจให้โอกาสมานพว่าจะไม่จับเขาส่งตำรวจ ขอแค่ให้เขาไม่สร้างปัญหาให้พี่สาวอีกต่อไป แล้วจะหาโรงเรียนให้เรียนพร้อมงานพิเศษให้ทำ แต่ขอให้มานพเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ

มานพตกลงพร้อมๆ กับกวางและอัครพลไปถึง หากสยมภู ตัดสินใจหลบฉากไปเสียเมื่อเห็นเด็กสาวที่เขาปักใจรักมากับหนุ่มน้อยคู่แข่ง กวางดีใจมากที่น้องชายปลอดภัยและอัครพลยินดีชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้กับตัวแทนของสยมภู พร้อมกับสั่งสอนมานพ ให้กลับเนื้อกลับตัว

การเปลี่ยนแปลงของมานพ ทำให้กวางเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเพราะฝีมืออัครพล เธอจึงกลับไปสนิทกับอัครพลอีกครั้ง ท่ามกลางความขัดตาขัดใจของน้องชาย แต่มานพก็ออกปากอะไรมากไม่ได้เพราะติดสัญญากับสยมภูไว้ เด็กสาวยอมให้อัครพลช่วยเธอขายขนมไทยๆ เสริมรายได้พิเศษที่ละแวกท่าช้าง ที่นี่ กวางได้เจอกับสยมภูโดยไม่คาดฝันอีกครั้ง และทำให้สยมภูหมั่นไส้ และหาโอกาสค่อนขอดเด็กสาวต่างๆ หากกวางตัดสินใจทำหูทวนลม เพราะไม่ต้องการเข้าไปข้องแวะกับสยมภูอีก

ความสนิทสนมของคนทั้งคู่ล่วงรู้ไปถึงหูปิยะธิดา ทำให้จิตราไม่พอใจมากออกโรงราวีกับกวางถึงที่ทำงาน และใช้เส้นสายบีบให้หัวหน้ากองไล่กวางออก ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ไม่ได้เล็ดรอดสายตาของทะนง ไปได้ สยมภูจึงให้ทะนง ประกาศรับสมัครพนังงาน โดยส่งจดหมายไปถึงบ้านกวาง กวางจึงได้เข้าทำงานในบริษัทของสยมภู ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของระวิวรรณ เธอจึงตั้งใจเปิดโปงให้กวางรู้ว่าเจ้านายของกวางคือ สยมภู กวางโกรธมาก ตัดสินใจจะยื่นใบลาออกแต่แล้วเด็กสาวก็พบว่าเธอไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เมื่อเปี๊ยก น้องชายวัย 8 ขวบ ถูกรถชน ต้องใช้เงินค่ารักษาค่อนข้างสูง และเธอก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือของอัครพล

กวางตัดสินใจทำงานกับสยมภู เพื่อปากท้องของทุกคน และความอับอายในฐานะอันต่ำต้อยทำให้เธอหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสยมภู ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็หนีไม่พ้นเสียงซุบซิบนินทาของพนักงานในบริษัทที่เป็นเด็กเส้น ขณะที่อัครพล ถือโอกาสใช้ตำแหน่งหน้าที่สถาปนิกที่ต้องติดต่องานกับบริษัทสยมภู มาพังพันกับกวาง และชวนเธอไปดูงานนอกออฟฟิศบ่อยๆ สร้างความขัดเคืองให้สยมภู เป็นอย่างมาก

ยิ่งสยมภู หึงหวงกวาง ก็ยิ่งทำให้ระวิวรรณ รู้สึกไม่ปลอดภัย เธอจึงหาทางกลั่นแกล้งกวาง โดยหลอกใช้ให้กวางเข้าไปส่งรายงานให้สยมภู ในไซด์งานก่อสร้างจนเกือบโดนคนงานก่อสร้างปลุกปล้ำ เคราะห์ดีที่สยมภู เข้าไปช่วยทันเวลา แต่ความปากแข็งของสยมภู ทำให้เขาไม่ยอมพูดความจริงในใจออกมา หากกลับพูดจาทำให้กวางเสียใจหนักขึ้นไปอีก เพราะคิดว่าเธอต้องการเฟลิทให้ท่าผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้ ขณะที่อัครพล กลับเข้ามาปลอบขวัญและให้กำลังใจหญิงสาว จนทำให้ปิยะธิดา ทนไม่ได้ขอร้องให้จิตรา ที่ถือหางตนอยู่บังคับให้อัครพล แต่งงานกับเธอโดยเร็ว อัครพลพยายามบ่ายเบี่ยงแต่ไม่สำเร็จ เพราะจิตราหลอกว่าตัวเองป่วยหนักเป็นโรคหัวใจ อัครพลจึงไม่กล้าขัดใจแม่

แต่ยิ่งใกล้วันแต่งานเข้ามาเท่าไหร่ อัครพลก็ยิ่งเทียงไล้เทียวขื่อมาหากวางบ่อยขึ้น เฝ้าย้ำว่าเขาต้องแต่งงานเพื่อความกตัญญู แต่เมื่อแม่ของเขารักษาตัวหายขาดเขาจะหย่าทันที กวางเห็นใจอัครพลมากแต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่กล้าบอกอัครพลตรงๆ ว่าเธอไม่ได้รักเขา ได้แต่ปลอบใจ สยมภูขวางหูขวางตาอย่างหนักจึงพากวางไปดูไซด์งานก่อสร้างที่จังหวัดทางภาคเหนือ กับเขาสองต่อสอง เคราะห์ร้ายที่เสี่ยโอภาส ศัตรูทางธุรกิจของสยมภู จ้างมือปืนมาดักยิงกลางทาง สยมภูขับรถหนีไปในป่าลึก พอดีที่พายุฝนตกหนักทำให้ทางขาด ทั้งคู่จึงต้องพากันหนีกระเซอะกระเซิงขึ้นเขาไป และได้อาศัยอยู่กับหมู่บ้านชาวปะกากะญอ (กระเหรี่ยง) หมู่บ้านหนึ่ง

นางสะอาด โมโหมากที่กวางหายหน้าไปไม่ยอมมาช่วยดูแลบ้านและน้องๆ เหมือนเดิม จึงตามไปอาละวาดด่าที่บริษัท จนทำให้ทุกคนรู้ว่ากวางหายไปกับสยมภู รวมทั้งระวิวรรณ พอดีกับที่ตำรวจพบซากรถของสยมภู หล่นอยู่ในเหว จึงแจ้งกลับมาทางบริษัท พร้อมมีหลักฐานกระเป๋าของกวางกลับมาให้ดู ระวิวรรณล้มทั้งยืน

สะอาดกลับไปที่บ้านเจออัครพล และบอกข่าวเรื่องสยมภูกับกวาง อัครพลช็อค เขาไม่ยอมเชื่อว่ากวางตายแล้ว อัครพลให้เงินมานพไว้ และรับปากว่าจะตามกวางกลับมาให้ได้ เข่าตัดสินใจทิ้งงานแต่งงานไปตามหากวาง จนทำให้ปิยะธิดา อับอายขายหน้าที่ไม่มีเจ้าบ่าวในงานแต่งงาน

ที่หมู่บ้านบนเขา ธรรมชาติอันงดงานและจิตใจอ่อนโยนของชาวบ้านปะกากะญอ ทำให้ทิฐิของกวางและสยมภูค่อยๆ ทลายลง สยมภูขอให้หัวหน้าหมู่บ้านทำพิธีแต่งงานให้เขากับกวาง และตั้งใจจะสารภาพรักกับกวางในวันนั้น แต่อัครพล ปรากฏตัวขึ้นซะก่อน เขาล้มป่วยเป็นมาเลเรีย จนเพ้อไม่ได้สติ กวางปรนนิบัติอัครพลอย่างห่วงใย ทำให้สยมภูช้ำใจสุด เขาตัดสินใจเรียกทะนงขึ้นมารับ

เมื่อทั้งหมดกลับถึงกรุงเทพฯ กวางก็ถูกจิตรา และปิยะธิดา ประณามว่าเป็นผู้หญิงแพศยาจับปลาสองมือ จิตราขู่ว่าถ้ากวางไม่ยอมออกไปจากชีวิตอัครพล จะทำลายทุกอย่างในชีวิตกวาง โดยเริ่มจากการจ้างคนมาเผาบ้านกวางเป็นการขู่ทางอ้อม กวางโดดเข้าช่วยสะอาดที่มัวแต่เก็บของไม่ยอมหนีจนถูกหลังคาพังมาทับกวางบาดเจ็บ นางสะอาดเริ่มมีความรู้สึกที่ดีกับกวาง

ส่วนสยมภูนั้นวุ่นอยู่กับการติดตามตัวคนร้ายที่ลอบยิงเขา ซึ่งคว้าน้ำเหลว เพราะขาดพยานหลักฐานแต่กลับได้พบหลักฐานการวางเพลิงบ้านกวาง ว่าน่าจะเป็นฝีมือของจิตรา สยมภูไปหากวางเพื่อเตือนเมื่อพบกับอัครพล สยมภูก็ขอให้อัครพลเคลียร์ตัวเองก่อน ไม่เช่นนั้นกวางจะลำบาก อัครพลยืนยันว่าเขารักกวางคนเดียว และจะไม่ยอมเลิกรา สยมภูจึงบอกว่าเขากับกวางแต่งงานกันแล้วที่หมู่บ้านปะกากะยอ ขอให้อัครพลยอมแพ้เสีย เมื่ออัครพลถามกวาง กวางจำใจยอมรับ เพราะไม่ต้องการให้คนอื่นต้องเดือดร้อนเพราะตัวเองอีกต่อไป อัครพลเซซังจากไปอย่างเจ็บซ้ำ

ความปากแข็งทำให้สยมภู อ้างว่าที่ทำไปเพราะเป็นทางเดียวที่เขาจะตามหาลูกหนี้คนสำคัญอย่างบุรุษได้ ก็คือกวาง ดังนั้นเขาย่อมปล่อยให้เธอตายไม่ได้ และทางเดียวที่กวางกับน้องๆ จะปลอดภัยจากปิยะธิดา คือ เธอต้องยอมแต่งงานกับเขา

ข่าวงานแต่งงานของกวางกับสยมภู แพร่สะพัดออกไป ทำให้ระวิวรรณร้อนใจมากและพยายามเกลี้ยกล่อมให้สยมภูเปลี่ยนใจ โดยอ้างว่ากวางไม่เหมาะสมกับเขาด้วยประการทั้งปวง แต่เมื่อเธอเห็นสยมภูไม่สนใจฟัง หญิงสาวจึงเปลี่ยนไปยุยงอัครพลให้หาทางยื้อแย่งตัวกวางมาจากสยมภูแทน

อัครพลตัดสินใจขอร้องให้กวางทิ้งทุกอย่างหนีไปอยู่เมืองนอกกับตน แต่กวางเป็นห่วงพ่อและน้องกอรปกับจริงๆ แล้วกวางก็รักสยมภูอยู่ จึงปฏิเสธอัครพลไป ทำให้อัครพลแค้นมาก เขาแอบใช้ตำแหน่งสถาปนิกโครงงานแก้ไขแบบแปลนตึกระฟ้าที่บริษัทสยมภูกำลังจะสร้าง และพร้อมปล่อยข่าวออกไปในวันแต่งงานว่าสยมภูก่อสร้างตึกที่ผิดมาตรฐาน เพราะหวังให้ชายหนุ่มโดนฟ้องร้องหมดตัว ขณะเดียวกันก็ส่งจดหมายขู่จะฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องความเห็นใจจากกวางด้วย

ดังนั้นงานมงคลสมรสของกวางและสยมภูที่จัดขึ้นที่บ้านเก่าของกวาง ซึ่งทำท่าว่าจะจบลงด้วยความสุขสวยงาม เพราะวรเทวี ก็เดินทางกลับมาจากต่างประเทศเพื่อมาร่วมงานแต่งงานน้องสาวกลับเต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาวของฝ่ายเจ้าบ่าว และฝ่ายเจ้าสาว ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ สร้างความฉงนสนเท่ห์ให้แก่ทุกคนเป็นอย่างมาก ระหว่างที่ทะนงกำลังช่วยสยมภูแก้ไขสถานการณ์ ระวิวรรณก็ได้พบกับวันทนีย์ และรู้ว่าวันทนีย์นั้นอดีตเป็นลูกสาวนักธุรกิจที่ฆ่าตัวตายเพราะล้มละลาย และสยมภูช่วยซื้อบริษัทเอาไว้ วันทนีย์จึงกลายมาเป็นนางบำเรอขัดดอกอยู่ในบ้านของสยมภู ถึงกระนั้นวันทนีย์ก็รักสยมภูมาก งานแต่งงานของสยมภูจึงเปรียบเสมือนงานศพในความรู้สึกของวันทนีย์

ปิยะธิดาพบจดหมายที่อัครพลส่งให้กวางจึงตามไปพบกวางอยู่กับอัครพลตามลำพังที่บ้านของเธอกวางกำลังขอปืนจากอัครพล และขอร้องให้อัครพลกลับไปทำหน้าที่ลูกที่ดีเหมือนกับตน ภาพทั้งคู่กำลังตะกองกอดกันอยู่ทำให้ปิยะธิดาเข้าใจผิด ป่าวประกาศยกใหญ่ว่ากวางหนีเรือนหอมากกกอดเป็นชู้อยู่กับสามีเธอ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้กวางกับสยมภูมองหน้ากันไม่ติด ความหยิ่งทะนงทำให้กวางไม่ยอมแก้ตัวกับสยมภูว่าทุกอย่างที่เธอทำลงไปนั้นก็เพราะห้ามอัครพลไม่ให้ฆ่าตัวตาย ส่วนสยมภูก็เสียใจที่กวางไม่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาในนาทีวิกฤตเหมือนที่แม่ทำกับพ่อของเขา

ความที่สยมภูต้องแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องทำงานอย่างหนักจนแทบไม่มีเวลากลับบ้าน และจะติดต่อกับกวางผ่านทะนงเท่านั้น กวางพยายามให้กำลังใจเขาทุกๆ ทาง แต่ก็โดนระวิวรรณ ที่แทคทีมกับวันทนีย์ขัดขวาง ทำให้สยมภูไม่สามารถรับรู้ความห่วงใยที่กวางให้เขาได้เลย อัครพลนั้นถูกจิตราขู่จะตัดจากกองมรดกถ้าเลิกกับปิยะธิดา จึงตัดสินใจร่วมมือกับโอภาส (ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย) ที่จะประมูลโครงการใหญ่ตัดหน้าสยมภูเพื่อหาเงินก้อนใหญ่ไปตั้งตัว เมื่อระวิวรรณรู้เข้าจึงแอบให้การช่วยเหลือขโมยความลับบริษัทไปให้อัครพลเพียงเพื่อต้องการให้อัครพลพากวางไปครองรักกันได้สำเร็จ

สยมภูแพ้การประมูลเขาบุกไปหาโอภาสและประกาศว่าจะเอาโอภาสเข้าคุกให้ได้ทั้งเรื่องที่ลอบทำร้ายเขาและขโมยข้อมูลของบริษัท โอภาสพูดเป็นนัยว่าให้สยมภูไปเล่นงานคนในเสียก่อน โชคร้ายตกมาสู่กวางอีกครั้ง เมื่อระวิวรรณใส่ร้ายว่ากวางเป็นคนขโมยข้อมูลไปให้อัครพล สยมภูเจ็บปวดใจอย่างที่สุด เขาเอาวันทนีย์มานอนในห้องแทนกวางเพื่อประชด ซึ่งทำให้กวางหมดความอดทน ตัดสินใจส่งหนังสือหย่าให้สยมภูเซ็น ชายหนุ่มโมโหมากปลุกปล้ำกวางจนตกเป็นของเขาในคืนนั้นนั่นเอง กวางน้อยใจการกระทำของสยมภูมาก และตัดสินใจย้ายไปอยู่บ้านเก่ากับแม่เลี้ยงและบรรดาน้องๆ การกระทำของกวางทำให้มานพทนไม่ได้และปริปากบอกความจริงทั้งหมดให้กวางฟังว่าแท้จริงแล้วสยมภูคือคนที่ช่วยทำให้เขากลับตัวเป็นคนใหม่ และเพราะสยมภูต้องการช่วยกวางให้พ้นจากการโดนนางสะอาด กดดันและปิยะธิดารังควานเขาจึงได้ขอกวางแต่งงาน กวางฟังแล้วตื้นตันมากเธอต้องการกลับไปขอโทษสยมภู

แต่อัครพลกลับเข้ามาขอกวางแต่งงานเสียก่อน หากหญิงสาวปฏิเสธและสารภาพว่าเธอได้หลงรักสยมภูเสียแล้ว พร้อมบอกให้เขากลับไปหาปิยะธิดาแทน หากอัครพลซึ่งตกลงใจแล้วว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกวางต้องเป็นของเขาให้ได้ เขาจึงตกลงใจฉุดกวางไปในที่สุด

มานพ เปี๊ยก และแป้ง ตกใจมากกับการกระทำอุกอาจของอัครพล ทั้ง 3 รีบไปบอกสยมภูให้ตามไปช่วยกวางพร้อมกับบอกสยมภูว่าระหว่างที่เขาเงียบหายไปกอบกู้ธุรกิจอยู่นั้น กวางได้ทำอะไรเพื่อเขาบ้าง คำบอกเล่าของเด็กๆ ทั้ง 3 ทำให้สยมภูตัดสินใจไปตามกวางคืนมา โดยไม่รู้ว่าตัวเองได้ถูกพวกของโอภาสสะกดรอยตามไป

อัครพลพากวางขึ้นเขาไปหมู่บ้านปะกากะญอ อย่างคนเสียสติ โดยอ้างว่าเพื่อลบอดีตกวางกับสยมภูให้หมด เขาบังคับให้หัวหน้าหมู่บ้านจัดงานแต่งงานให้เขา กวางเสียใจมากกับการกระทำของอัครพล จึงตัดสินใจจะโดดหน้าผาน้ำตกฆ่าตัวตายเพื่อจบปัญหาทุกอย่าง สยมภูมาถึงได้ยินที่กวางบอกว่าเธอรักสยมภูเพียงคนเดียวพอดี สมุนโอภาสที่ตามมาเห็นเหยื่ออยู่พร้อมหน้าก็ลั่นกระสุนทันที กระสุนถูกสยมภูล้มลง กวางเข้าเอาตัวบังสยมภูไว้ อัครพลเห็นภาพนั้นแล้วก็ตระหนักว่าเขาไม่มีวันชนะใจกวางได้ จึงเข้าต่อสู้แลกชีวิตกับมือปืนจนเพลี่ยงพล้ำถูกยิงตกหน้าผา แต่สยมภูกับกวางช่วยกันคว้าเอาไว้ ขบวนการชาวบ้านปะกอกะญอ มาถึงพอดีและจัดการกับมือปืนได้หมด แต่อัครพลไม่สามารถมีชีวิตอยู่อย่างพ่ายแพ้ได้ เขาดึงมือออกจากกวางและสยมภู ร่างลอยลิ่วลงสู่กระแสน้ำเบื้องล่างจบชีวิตในที่สุดระหว่างทางกลับกรุงเทพฯ กวางได

ออกอากาศทุกวันพุธ พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี

นำแสดงโดย: สยมภู …รับบทโดย… ศุกลวัฒน์ คณารศ

กุมาริกา …รับบทโดย… ทัศนียา การสมนุช

อัครพล …รับบทโดย… ณทรรศชัย จรัสมาส

วรเทวี …รับบทโดย… กัญญารัตน์ พงษ์กัมปนาท

ปิยะธิดา …รับบทโดย… ฮาน่า ลีวิส

ระวิวรรณ …รับบทโดย… ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล

วันทนีย์ …รับบทโดย… วรรษพร วัฒนากุล

ทะนง …รับบทโดย… สัจจากาจ จิตรพึงธรรม

คิง …รับบทโดย… นันทศัย พิศลยบุตร

บุรุษ …รับบทโดย… ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์

เสี่ยโอภาส …รับบทโดย… ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย

สะอาด …รับบทโดย… มัณฑนา หิมะทองคำ

จิตรา …รับบทโดย… สุภาภร คำนวณศิลป์

มานพ …รับบทโดย… ปวรพัฒน์ จารุศักดิ์วีรกุล

ทศพร …รับบทโดย… บดินทร์ โรจนพงษ์เกษม

วิมลมาน …รับบทโดย… ณัฐรินทร์ สุวรรณเลิศ

หมึก …รับบทโดย… ชมวิชัย เมฆสุวรรณ

ไพบูลย์ …รับบทโดย… ธิติวัฒน์ ธนวัฒน์ภัทร์กุล

ม่วง …รับบทโดย… ไทธนา อ่อนศรี

เจิน …รับบทโดย… ฐิติรัตน์ พลบูรณ์

เปี๊ยก …รับบทโดย… ด.ช.เสฐฐวุฒิ รุมพล

แป้ง …รับบทโดย… ด.ญ.เฟรย่า พิชชา

เปี๊ยก (13) …รับบทโดย… ด.ช.กุลวัสส์ พงศ์พัฒนาสิน

แป้ง (12) …รับบทโดย… ด.ญ.ปัญจรัศม์ เลิศศิริดำรงค์

ปลา …รับบทโดย… ด.ญ.ชนัญญา เลิศวัฒนามงคล

กอบกุล …รับบทโดย… อัญษนา บุรานันท์

ภักดี …รับบทโดย… ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล

ทวีศักดิ์ …รับบทโดย… สุรศักดิ์ ชัยอรรถ

พวงพร …รับบทโดย… วนิษฐา วัชโรบล

โจ …รับบทโดย… คมกฤษณ์ จารุสมบูรณ์

อุษา …รับบทโดย… นีน่า วิทวัส

อนันต์ …รับบทโดย… กิตติพล เกศมณี

แม่กุมาริกา …รับบทโดย… ชลวรีย์ ชุติวัฒน์ขจรชัย

อมร …รับบทโดย… ธีรภัทร์ ติดชัยภูมิ

อิ๋ว …รับบทโดย… ฉัตรพร ติดชัยภูมิ

แตง …รับบทโดย… รตวรรณ ออมไธสง

พี่ชายกอบกุล …รับบทโดย… วิฑูรย์ ลิ่วลักษณ์

ดำรง …รับบทโดย… พีระพัชร ทัพวงศ์

ครูเอก …รับบทโดย… ภควรรต สุวรรณเปี่ยม

เกม …รับบทโดย… เจษฎาพล ฉิมพลี

สุชาติ …รับบทโดย… ชวิศ โภไคธเนศ

สยมภู (เด็ก) …รับบทโดย… ด.ช.กันตพงศ์ เจริญสุข

มานพ (เด็ก) …รับบทโดย… ด.ช.เตมีย์ ทองโรงใหญ่

โจ (เด็ก) …รับบทโดย… ด.ช.วสุธร พันธุ์พาณิชย์

ผู้ประพันธ์: ศรีทอง ลดาวัลย์
บทโทรทัศน์: กฤติญา สัมฤทธิ์ประสงค์
ผู้กำกับ: ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
ผู้ผลิต: บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)