สาวน้อยอ้อยควั่น
เจ้านางน้อยบุญยวง ลูกสาวของ เจ้าอนันตธร เจ้าเมืองชนกลุ่มน้อยที่หลบหนีการถูกกบฏรุกรานแล้วถูกฆ่าเสียชีวิต ก่อนตายเจ้าอนันตธรได้ฝากเจ้านางน้อยบุญยวงลูกสาวไว้กับคนสนิทชื่อ ส่างโดย โดยการปลอมตัวเป็นสามัญชนปะปนมาอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยแห่งหนึ่งในประเทศไทย จากเจ้านางน้อยต้องกลายเป็นนางสาวบุญยวงที่ลำบากยากแค้น รอคอยการคัดเลือกตัวไปประเทศที่สาม
วันหนึ่ง ณัฐวุฒิ มหาเศรษฐีหนุ่มมีภรรยาชื่อ สินีนาฏ ทั้งคู่ไม่มีลูกด้วยกัน ทั้งที่อยากมีลูกมาก ณัฐวุฒิได้รับ นัทธร ซึ่งเป็นหลานของสินีนาฏมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่แบเบาะ และรักเหมือนลูกแท้ๆ ณัฐวุฒิได้มาแวะเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัยแห่งนี้เพื่อบริจาคเงิน และสิ่งของให้กับค่ายนี้ เขาจึงขอพักที่ศูนย์แห่งนี้ โดยมีส่างโดยซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าค่ายผู้อพยพเป็นผู้ดูแลที่พักและอาหารให้ ส่างโดยได้พาเจ้านางบุญยวงมาด้วย เพราะเจ้านางรับอาสามาทำความสะอาดที่พักให้กับณัฐวุฒิ เขาถึงกับตะลึงในความสวยงามใสซื่อของเจ้านางบุญยวง ณัฐวุฒิหลงรักเข้าทันทีที่ได้พบ ส่างโดยสังเกตเห็นและต้องการให้เจ้านางสุขสบายจึงเปิดโอกาสให้ทั้งคู่สนิทสนมกัน ส่างโดยเล่าประวัติของเจ้านางบุญยวงให้ณัฐวุฒิฟังว่าเธอเป็นเจ้านางน้อยของชนเผ่าที่อยู่ระหว่างตะเข็บชายแดน ณัฐวุฒิหาโอกาสมาพบเจ้านางบุญยวงบ่อยๆ และหาวิธีทำให้เจ้านางได้ออกมานอกค่าย จนในที่สุดเจ้านางบุญยวงก็ตกเป็นของณัฐวุฒิ สินีนาฏสงสัยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของณัฐวุฒิจึงสืบจนได้ความจริง สินีนาฏส่งคนตามทำร้ายเจ้านางบุญยวงเพื่อให้เลิกกับณัฐวุฒิ เพราะเขามีภรรยาแล้ว เจ้านางเสียใจมากพยายามขอเลิกกับณัฐวุฒิ แต่เขาไม่ยอม ในที่สุดเจ้านางก็ตั้งท้อง เจ้านางได้รับการติดต่อจากสินีนาฏว่าถ้าไม่อยากตายให้ยกลูกให้สินีนาฏ ถ้าไม่ยกให้เธอจะตามฆ่าลูกของเจ้านาง ส่วนสินีนาฏก็ทำเป็นท้องให้สอดคล้องกับการรับลูกของเจ้านางมาเป็นลูกตัวเอง เจ้านางเสียใจและได้ปรึกษากับส่างโดย ส่างโดยให้ยอมทำตามสินีนาฏเพื่อความสุขของหนูน้อยที่กำลังจะเกิดมา
ในที่สุดเจ้านางก็คลอดลูกสาวเธอให้ชื่อว่า ส่วยหย่ง แปลว่ากระต่ายทอง และตัดสินใจไปอยู่ประเทศที่สามคือ อเมริกา ส่วนลูกน้อยมอบให้ส่างโดยเป็นคนส่งมอบให้สินีนาฏ ณัฐวุฒิเองก็ดีใจมากที่จะมีลูกกับสินีนาฏ นัทธรก็ดีใจที่จะได้น้อง สินีนาฏทำทีไปต่างจังหวัดและอ้างว่าเธอจะขอคลอดลูกที่ต่างจังหวัดเลย แต่สินีนาฏรถคว่ำเสียชีวิตเสียก่อนที่จะได้ไปรับลูกของเจ้านาง และความจริงปรากฏว่าเธอไม่ได้ท้อง ณัฐวุฒิเสียใจมาก และไม่เข้าใจว่าทำไมสินีนาฏต้องโกหกเขาเรื่องท้อง ส่างโดยรอคอยการมาของสินีนาฏ และผิดหวังเข้าใจว่าสินีนาฏหลอก ภายหลังรู้ว่าสินีนาฏเสียชีวิตแล้วจึงวางแผนจะเอาส่วยหย่งไปส่งให้ ณัฐวุฒิและบอกความจริงว่าส่วยหย่งเป็นลูกของเจ้านางบุญยวงกับณัฐวุฒิ แต่เกิดเหตุจลาจลในค่ายพักเสียก่อน ส่างโดยเสียชีวิตก่อนที่จะได้บอกความจริงกับณัฐวุฒิ แม่หนูส่วยหย่งที่มีเหรียญห้อยคอเป็นโลหะธรรมดาสลักว่าบุญยวงด้านหนึ่งส่วยหย่งด้านหนึ่ง หนูน้อยส่วยหย่งถูกหญิงในศูนย์ดูแลตามมีตามเกิด เพราะต่างคนต่างมีลูก นาง มะขิ่น ได้สิทธิ์ขึ้นทะเบียนเป็นแรงงานต่างด้าวได้ขายหนูส่วยหย่งให้กับ นางสมใจ คนไทยคนหนึ่งซึ่งซื้อเอาไปขอทาน
ณัฐวุฒิรีบมาที่ค่ายผู้อพยพพบว่าเจ้านางบุญยวงไปอยู่อเมริกาแล้ว และเขารู้ว่าเจ้านางมีลูกสาวกับเขาด้วยแต่ไม่ทราบว่าหายไปไหน ณัฐวุฒิเสียใจแทบเป็นบ้าคลั่งพยายามส่งคนสืบหาลูกสาว แต่ไม่ได้วี่แววทำให้ณัฐวุฒิถึงกับล้มป่วย หนูน้อยส่วยหย่งมีชื่อใหม่ว่า อ้อยควั่น ระหกระเหินร่อนเร่ขอทานให้กับนางสมใจจนเด็กน้อยอายุได้ 6-7 ขวบ ส่วยหย่งหรืออ้อยควั่นถูกทารุณทุบตีโดยสมใจตลอดเวลา พอโตขึ้นสมใจบังคับให้ไปขอทานเอง อ้อยควั่นมีพรสวรรค์ในการเต้นและร้องเพลงจึงสามารถสะกดให้คนทั้งหลายให้เงินเธอมากกว่าเด็กอื่นๆ จนอ้อยควั่นตกที่นั่งลำบากเพราะถูกเกลียดชังและกลั่นแกล้งจากเด็กขอทานที่ไม่ค่อยได้เงิน กิตติศัพท์ความสามารถของอ้อยควั่นลือไปทั่วทำให้เป็นที่ต้องการของพวกจับเด็กไปขอทาน ต่อมาอ้อยควั่นถูกแก๊งลักเด็กรายใหญ่คือ นางสมร ลักตัวไป ที่นั่นอ้อยควั่นพบเด็กที่ถูกบังคับมาขอทานจำนวนมาก อ้อยควั่นสงสารพวกเด็กๆ จึงวางแผนพาพวกเด็กๆ ก่อจลาจล และหนีออกมาในคืนหนึ่ง พวกเด็กๆ หนีออกไปได้หมด แต่อ้อยควั่นกลับถูกจับได้ และถูกซ้อมจนป่วย หลังจากนั้นอ้อยควั่นถูกนางสมรพาตัวใส่รถเพื่อส่งตัวไปขายที่ชายแดน ระหว่างเดินทางช่วงพักเติมน้ำมันอ้อยควั่นที่ป่วยปางตายแอบหนีลงจากรถ สมรเห็นเข้าไล่ตามจับอ้อยควั่น อ้อยควั่นหลบเข้าไปที่ร้านอาหารข้างปั้มแห่งหนึ่งแล้วแอบไปขึ้นท้ายรถคันหนึ่งหลบหนีไป รถคันนั้นมาถึงที่หมายพอคนขับรถคันนั้นเจออ้อยควั่นนอนหลับอยู่แทนที่จะสงสาร กลับทุบตีอ้อยควั่นตกใจขวัญหนีดีฝ่อลงหนีจากรถวิ่งเตลิดไร้จุดหมายไปเรื่อยๆ อ้อยควั่นใช้ชีวิตตามข้างถนน อาศัยนอนหลับตามพงหญ้า ยามหลับก็ละเมอเรียกหา “แม่จ๋าอยู่ไหน” อ้อยควั่นพบหมาจรจัดที่กำลังจะแย่งอาหารอ้อยควั่น แต่อ้อยควั่นก็ตัดสินใจแบ่งอาหารให้พร้อมกับตั้งชื่อว่ามู่ลี่ หมามู่ลี่กับอ้อยควั่นจึงกลายเป็นเพื่อนกันไปไหนไปด้วยกัน อ้อยควั่นร้องเพลงเต้นระบำหากินเลี้ยงชีวิตไปวันๆ กับมู่ลี่ ในใจอยากมีใครสักคนที่รักและดูแล อ้อยควั่นตั้งใจจะตามหาแม่ให้พบสักวันหนึ่งให้ได้
วันหนึ่งอ้อยควั่นเดินสะเปะสะปะเข้ามาในตลาดกับมู่ลี่หิวแทบเป็นลม อ้อยควั่นได้พบกับ ป้าเมตตา ที่มาเดินจ่ายตลาด และในรถเข็นมีข้าวของมากมายจนน่าแปลกใจ ในตะกร้ามีส้มลูกใหญ่น่ากินเต็มไปหมด อ้อยควั่นอยากขโมยของกินจึงเอื้อมมือไป แต่แล้วก็หดมือกลับเพราะรู้ว่าเป็นบาป ทันใดมีชายคนหนึ่งวิ่งมากระชากกระเป๋าคุณป้าเมตตา อ้อยควั่นอยากทำความดีจึงบอกให้มู่ลี่ช่วย หมามู่ลี่วิ่งไปแย่งกระเป๋าคืนมาได้ ป้าเมตตาดีใจและขอบใจอ้อยควั่น พร้อมให้เงินอ้อยควั่นเป็นรางวัลในการทำความดี อ้อยควั่นแอบตามไปดู เห็นป้าขึ้นรถตู้คันหนึ่งแล่นออกไป อ้อยควั่นมองตามหน้าละห้อย อ้อยควั่นกับมู่ลี่มาดักรอป้าเมตตาทุกวัน ช่วยถือของ และส่งขึ้นรถ ป้าเมตตาแปลกใจจึงถามชื่อ ถามถึงพ่อแม่ ที่อยู่ และโรงเรียน อ้อยควั่นบอกว่าเธอตัวคนเดียว อยู่น้องมู่ลี่เท่านั้น ป้าเมตตาตกใจมากจะพาไปพบผู้ดูแลบ้านเด็กกำพร้าที่คุณป้าทำงานอยู่ แต่มู่ลี่ไปไม่ได้อ้อยควั่นหน้าจ๋อย ในที่สุดอ้อยควั่นตัดสินใจสะกดรอยตามป้าเมตตาไป โดยแอบเข้าไปอยู่ในรถขนอาหารของป้าเมตตา เอามู่ลี่แอบไปด้วย เมื่อมาถึงบ้านเด็กกำพร้าป้าเมตตาตกใจและรับปากจะดูแลมู่ลี่ให้ในฐานะที่มู่ลี่ช่วยแย่งกระเป๋าเงินให้และจะไม่บอกให้ คุณแม่ปราณี รู้เรื่องมู่ลี่ ป้าเมตตาพาอ้อยควั่นไปพบคุณแม่ปราณี อ้อยควั่นได้รับอนุญาตให้อยู่ที่บ้านแห่งนี้ และมีชื่อใหม่ว่า “กชกร” อ้อยควั่นกับป้าเมตตาแอบเลี้ยงมู่ลี่เอาไว้ และคอยพาหลบซ่อนผู้คนรวมทั้งคุณแม่ปราณีด้วย อ้อยควั่นได้เรียนหนังสือและช่วยทำงานเล็กๆ น้อยๆ ในบ้าน อ้อยควั่นต้องต่อสู้เพราะถูกกลั่นแกล้งจากเด็กรุ่นเก่าและเด็กที่โตกว่า อ้อยควั่นต้องคอยป้องกันเด็กเล็กๆ ที่ถูกรังแก อ้อยควั่นอยู่ที่สถานเด็กกำพร้าจนเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ณัฐวุฒิพลิกแผ่นดินหาลูกสาวมาหกปีก็ยังไม่มีวี่แวว เขาให้นัทธรลูกชายบุญธรรมช่วยสืบเสาะก็ไม่พบจนหมดกำลังใจ ณัฐวุฒิให้นัทธรดูแลธุรกิจแทน นัทธรไปบริจาคเงินที่สถานเด็กกำพร้าหลายแห่ง และขอเข้าไปอุปการะรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมเพื่อหวังจะสืบหาลูกสาวของณัฐวุฒิ นัทธรประกาศรับอุปการะเด็กเป็นลูกโดยให้เขียนเรียงความประกวดเรื่อง “แม่จ๋าอยู่ไหน” อ้อยควั่นเห็นประกาศดีใจมาก อ้อยควั่นเรียงความเรื่อง “แม่จ๋าอยู่ไหน” เล่าถึงความเป็นมาของตัวเองตั้งแต่ตอนที่เริ่มจำความได้ และมาอยู่กับนางสมใจ แล้วถูกขโมยต่อมาโดยนางสมรต้องเร่ร่อนมีน้องหมามู่ลี่เป็นเพื่อนจนได้มาอยู่บ้านเด็กกำพร้า และแอบเลี้ยงมู่ลี่ไว้ ตลอดเวลาเธอโหยหาแม่และกำลังตามหาว่าแม่จ๋าอยู่ไหน นัทธรก็เอาเรียงความทั้งหมดมานั่งอ่าน เขาลงความเห็นว่าเด็กหญิงอ้อยควั่นหรือกชกรเขียนได้ประทับใจและสนุกสนานที่สุด เขาชอบมากตรงที่เธอแอบเลี้ยงสุนัขเพื่อนตายของเธอไว้ที่สถานเด็กกำพร้ามาหกปีแล้ว อ้อยควั่นดีใจมากที่ได้รับรางวัลด้วยการเป็นลูกอุปถัมภ์ของคุณพ่อคนหนึ่ง โดยที่เธอไม่เคยทราบเลยว่าคุณพ่อของเธอคือใคร อ้อยควั่นได้รับโน้ตสั้นๆ จากคุณพ่อจากเลขาชื่อ ดุจดาว คุณพ่อแจ้งความจำนงว่าคุณพ่อต้องการนำมู่ลี่ไปเลี้ยงดูอย่างดีที่บ้านของคุณพ่อ ส่วนอ้อยควั่นคุณพ่อจะส่งไปไว้ที่โรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง คุณแม่ปราณีดีใจด้วยกับอ้อยควั่น แต่ต่อว่าที่แอบเลี้ยงสุนัขไว้ไม่บอก อ้อยควั่นสัญญาว่าจะกลับมาเยี่ยมคุณแม่ช่วงปิดเทอม ที่โรงเรียนใหม่ของอ้อยควั่นเธอได้พบผู้อำนวยการโรงเรียนหนุ่มมากชื่อนัทธร มีเพื่อนใหม่ชื่อ ภัคภิรมย์ เป็นหลานของนันธร และ ศลิษา ซึ่งเป็นนักเรียนเข้าใหม่เช่นกัน วันหนึ่งนัทธรเรียกตัวอ้อยควั่นไปพบสอบถามถึงผลการเรียน และอบรมให้อ้อยควั่นเข้ากับทุกคนที่นี่ให้ได้และทำตัวให้เป็นประโยชน์กับผู้อื่น นัทธรดูเฉยเมยเงียบขรึมเจ้าระเบียบจนอ้อยควั่นกลัวมาก สายตาของนัทธรที่มองอ้อยควั่นดูเข้มงวดและสำรวจ อ้อยควั่นได้รับคำสั่งจากคุณพ่อผ่านเลขาว่าให้เธอบอกทุกคนว่าพ่อแม่เสียชีวิตแล้ว และเธอมีญาติอุปการะอยู่ อ้อยกับภัคภิรมย์ไม่ถูกกันเพราะภัคภิรมย์จะดูหยิ่งพูดจาดูถูกผู้อื่น และอยากรู้ว่าทุกคนเป็นลูกท่านหลานเธอที่ไหน พูดแต่สิ่งที่หรูหรา และภัคภิรมย์ก็อยากรู้มากว่าอ้อยควั่นมาจากไหน และเป็นใคร ศลิษาต้องเป็นคนคอยตามไกล่เกลี่ย อ้อยควั่นมักเขียนจดหมายผ่านเลขาของคุณพ่อไประบายให้ฟังเสมอ แต่แล้วทุกคนก็ต้องตะลึงเพราะในวันหยุดจะมีรถคันงาม และมู่ลี่น้องหมาที่ถูกแปลงโฉมจนแทบจำไม่ได้ มาหาอ้อยพร้อมกับของขวัญมากมาย เช่น เสื้อผ้า ขนมนมเนย บางครั้งก็ให้รับไปเที่ยวข้างนอก คุณพ่อโอนเงินเข้าบัญชีให้อ้อยควั่น โดยอ้อยควั่นใช้วิธีกดเอทีเอ็มนำเงินนั่นออกมาใช้ได้เลย อ้อยควั่นเขียนจดหมายบอกคุณพ่อว่าเงินมากเกินไป แต่คุณพ่อก็ยังส่งมา ทำให้อ้อยควั่นอยากรู้และอยากพบคุณพ่อมาก แต่ไม่ว่าอ้อยควั่นจะขอร้องอย่างไรคุณพ่อก็ไม่เคยมาพบ คนที่อ้อยควั่นมักได้พบกลับเป็นนัทธรผู้อำนวยการโรงเรียนที่มาอาทิตย์ละครั้ง และทุกครั้งจะเรียกอ้อยควั่นไปพบสำรวจอ้อยอย่างเข้มงวด และอบรมเรื่องเดิมๆ
เวลาผ่านไป อ้อยควั่นจบ ม.6 ที่นี่ และได้รับโน้ตจากคุณพ่อว่าให้ตั้งใจสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ อ้อยก็สอบติดมหาวิทยาลัยที่เดียวกับภัคภิรมย์ และศลิษา มีงานเลี้ยงจัดขึ้นที่ห้องอาหารหรู ฉลองเอ็นติดของทั้งสามคน โดยมีนัทธรอาของภัคภิรมย์เป็นเจ้าภาพ นัทธรดูใจดีเพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่ในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนแล้ว เขายิ้มแย้มกับอ้อยควั่นทำให้อ้อยควั่นหายกลัว ศลิษาแอบกระซิบอ้อยควั่นว่าเธอแอบกรี๊ด คุณอานัทธร และตอนนี้พวกเราเป็นสาวแล้ว เริ่มมองหนุ่มได้บ้างแล้ว นอกจากอานัทธรยังมีพี่ชายของศลิษา คือ พี่ ศรุต ที่ขอมาเลี้ยงพวกสาวๆ ด้วย คราวนี้ภัคภิรมย์กระซิบอ้อยควั่นว่าเธอปิ๊งพี่ศรุตแล้วอ้อยอย่าแตะ มีโน้ตจากคุณพ่อว่าอ้อยควั่นเป็นสาวแล้วให้ดูแลตัวเองดีๆ จะคบใครต้องระวังให้ดีอยู่ในวัยเรียนไม่ควรข้องแวะกับผู้ชาย อ้อยควั่นตอบกลับว่าจะไม่มีแฟน คุณพ่อตอบมาว่าดีมากขอให้จริงอย่างที่พูด
เจ้านางบุญยวงเดินทางกลับมาเมืองไทย และสืบหาณัฐวุฒิเพื่อตามหาลูก เมื่อทราบความจริงว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นดังที่เธอวางแผนไว้ เจ้าบุญยวงเสียใจมาก เจ้าบุญยวงได้พบกับนัทธรและขอความช่วยเหลือให้สืบหาลูกของเธออีกแรง นัทธรบอกว่าเขาทำมาโดยตลอด อ้อยไปเรียนที่มหาวิทยาลัยและเรียนดีพอสมควร ในโอกาสสำคัญนัทธรจะมาพบสาวๆ ทั้งสามคน แต่คราวนี้มีเจ้าบุญยวงมาด้วย เจ้าบุญยวงมองเด็กสาวทั้งสามด้วยความรัก และสนใจอ้อยควั่นเป็นพิเศษ เจ้านางถามอ้อยถึงพ่อแม่ แต่ก็ไม่ได้ความกระจ่าง บุญยวงบอกว่าเธอสนใจอ้อยควั่นมากยากรู้ว่ามาจากไหน นัทธรกลัวว่าบุญยวงจะดูถูกอ้อยควั่น จึงบอกว่าอ้อยมีพ่อแม่และเขารู้จักพ่อแม่ของอ้อยดี แต่ตอนนี้พ่อแม่ของอ้อยเสียชีวิตแล้ว ในช่วงปิดเทอมทุกคนพากันไปซัมเมอร์ต่างประเทศ เลขาบอกว่าคุณพ่อให้อ้อยไปได้ แต่อ้อยปฏิเสธเพราะฟุ่มเฟือยเกินฐานะและเกรงใจคุณพ่อ คุณพ่อจึงให้อ้อยไปพักผ่อนที่บ้านบนเขา ที่นั่นมีบุญยวง และ ป้าไพลิน รอต้อนรับอยู่ อ้อยแปลกใจมากที่คุณป้าไพลินบอกว่าเป็นแม่นมของอานัทธร แล้วทำไมทั้งอานัทธร เจ้านางบุญยวง และคุณป้าไพลิน จึงไปเกี่ยวข้องกับคุณพ่อของอ้อยได้ ด้วยความสงสัยอ้อยควั่นเขียนจดหมายไปถามคุณพ่อ แต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมา พออ้อยควั่นเขียนถามมากๆ ก็ถูกคุณพ่อดุกลับมาในจดหมายว่าถ้ารักคุณพ่อ มั่นใจในตัวคุณพ่อก็ควรเชื่อคุณพ่อ วันดี คืนดีอานัทธรก็มาหาแม่นม และเจ้านางบุญยวง
วันหนึ่ง ให้บังเอิญศรุตเกิดมีบ้านเพื่อนที่เขาข้างๆ จึงมาพบกันโดยบังเอิญทำให้อานัทธรดูหงุดหงิด อ้อยควั่นเขียนจดหมายไปเล่าเรื่องนี้ให้คุณพ่อฟัง และบอกว่าเธอนับถือพี่ศรุตเป็นพี่ชาย และก่อนเปิดเทอมภัคภิรมย์ และศลิษากลับมาจากต่างประเทศแล้ว ทั้งหมดได้รับเชิญจากอานัทธรให้ไปพักบ้านตากอากาศที่เขาใหญ่ของอานัทธร ต่อมาอ้อยได้ทราบว่าอานัทธรไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของณัฐวุฒิ ต่อมาณัฐวุฒิกับเจ้านางบุญยวงได้พบกัน ทั้งสองพยายามช่วยกันตามหาลูกสาว ทั้งสองดูรักใคร่อ้อยเป็นพิเศษ อ้อยเขียนจดหมายไปเล่าให้คุณพ่อฟังว่าเธอว่าจะรับจ๊อบเป็นสไตล์ลิสท์ให้นางแบบของหนังสือชื่อดังแห่งหนึ่ง และเธอจะเก็บเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวคุณพ่อไม่ต้องส่งมา แต่คุณพ่อก็ยังส่งมาตามปกติ อ้อยตั้งใจเก็บเงินซื้อเน็คไทราคาแพงเส้นหนึ่งฝากผ่านเลขาไปให้คุณพ่อในวันปีใหม่ อ้อยควั่นอ้อนวอนขอพบคุณพ่ออีกเพื่อจะได้กราบคุณพ่อ แต่คุณพ่อกลับตอบมาว่าเมื่อถึงเวลาจะได้พบกันและจะผูกเน็คไทของอ้อยไปให้ดู ตลอดเวลาที่เรียนอ้อยทำของใช้และเครื่องประดับด้วยฝีมือตัวเองส่งให้คุณพ่อ การเรียนผ่านไปถึงปีสุดท้าย คุณพ่อให้อ้อยควั่นตั้งหน้าตั้งตาเรียน ส่วนเจ้านางบุญยวงก็ยังแวะมาเยี่ยมอ้อยเสมอ อ้อยถามว่าทำไมเจ้านางถึงชื่อแปลก เธอจึงบอกว่าเรื่องของเธอยาวมาก และเธอไม่ใช่คนไทย แต่เป็นชนกลุ่มน้อยที่หนีมาอยู่ในศูนย์อพยพ ตอนนี้เธอกำลังตามหาลูกสาวของเธอที่ชื่อ ส่วยหย่ง ซึ่งแปลว่ากระต่ายทอง อ้อยควั่นเห็นใจและสงสารเจ้านางบุญยวง อ้อยควั่นปลอบใจเจ้านางบุญยวง บุญยวงยิ่งรู้สึกผูกพันถูกชะตากับอ้อยมาก หลังจากเรียนจบอ้อยควั่นได้เกียรตินิยมดี ภัคภิรมย์ได้ดีมาก ส่วนศลิษาไม่ได้เกียรตินิยม มีงานเลี้ยงฉลองเรียนจบให้สาวๆ อ้อยควั่นเขียนจดหมายอ้อนวอนให้คุณพ่อมาร่วมงาน และขอให้อ้อยได้กราบขอบพระคุณคุณพ่อ แต่วันงานกลับมีแค่ คุณปู่ณัฐวุฒิ เจ้านางบุญยวง อานัทธร พี่ศรุตมาเท่านั้น อ้อยควั่นเสียใจและผิดหวังมาก คุณพ่อฝากของขวัญมาให้อ้อยเป็นรถเก๋งคันงาม อ้อยปฏิเสธไม่รับ ตอบกลับไปที่คุณพ่อว่าสิ่งที่เธอต้องการ คือ ได้พบคุณพ่อไม่ใช่รถคันนี้ ศรุตขอเป็นคนรู้ใจของอ้อยแต่อ้อยควั่นปฏิเสธ เหตุการณ์นี้ทำให้อ้อยมีมีปากเสียงกับภัคภิรมย์ที่คิดว่าอ้อยไม่รักษาคำพูด ศลิษาต้องมาอธิบาย ศรุตเสียใจไปพักหนึ่งในที่สุดก็คิดได้และกลายมาเป็นคนรู้ใจของ ต้องรัก อดีตแฟนเก่าของนัทธรที่เลิกรากันไปนานแล้ว และกลับมาอยู่เมืองไทย ส่วนศลิษาขอร้องให้อ้อยช่วยเป็นแม่สื่อให้ตนกับอานัทธร อ้อยตกลงทั้งที่ในใจนึกพอใจอานัทธรอยู่เหมือนกัน อ้อยกลับไปเยี่ยมคุณแม่ปราณีกราบขอบพระคุณที่อบรมให้อ้อยเป็นเด็กดี คุณแม่บอกว่ามีของชิ้นหนึ่งที่ติดตัวอ้อยอยู่ตอนมาที่นี่และจะคืนให้อ้อยแต่ตอนนี้หาไม่พบ ถ้าหาพบแล้วจะโทรไปบอกให้มารับ สิ่งนั้น คือ สร้อยคอสลักชื่อบุญยวงกับส่วยหย่งนั่นเอง ทางฝ่ายบุญยวงได้พบกับ มะขิ่นโดยบังเอิญ มะขิ่นมาสมัครงานที่บ้านของณัฐวุฒิทั้งสองดีใจที่พบกัน แต่มะขิ่นเจ้าเล่ห์มากอยากได้เงินจึงโกหกว่าลูกของบุญยวงถูกผู้หญิงชื่อสมใจมาหลอกไปจากหญิงคนหนึ่งในศูนย์คาดว่าคงเอาไปเป็นขอทาน ณัฐวุฒิกับบุญยวงตกใจรีบส่งคนตามรอยลูกตามที่มะขิ่นบอก ทางฝ่ายมะขิ่นยังโลภมากคิดจะหาเงินทางลัดจึงสืบหาเช่นกันเพราะหวังจะเอาลูกของเจ้านางไปเรียกค่าไถ่จึงแอบฟังความเคลื่อนไหวของการติดตามหาลูก อ้อยได้ทำงานเป็นดีไซน์เนอร์และอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งที่คุณพ่อมอบให้ คุณพ่อบอกว่าคงใกล้ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้พบกัน อ้อยดีใจมาก อ้อยขอพบอานัทธรและนัดให้พบกับศลิษาพยายามทำให้สองคนได้ใกล้ชิดกัน อ้อยเขียนเล่าให้คุณพ่อฟัง คุณพ่อเขียนดุกลับมาว่าไม่ให้ยุ่งเรื่องของคนอื่น และยังถามว่าอ้อยชอบใครหรือยังถ้าไว้ใจพ่อบอกให้พ่อรู้ อ้อยหลงกลบอกว่าชอบคุณอานัทธรแต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะคุณอานัทธรเหมาะสมกับศลิษา และอ้อย คือ เด็กกำพร้า ในที่สุดณัฐวุฒิกับบุญยวงก็ตามเจอสมใจ ตามเจอสมรโดยมีมะขิ่นรู้เห็นเรื่องราวโดยตลอด และทั้งหมดกำลังตามหาดูว่าอ้อยจะไปที่ไหนหลังจากหนีสายสมรแล้ว ในที่สุดก็สืบได้ว่าอ้อยมาที่ตลาดแห่งหนึ่ง
ขณะนั้นเอง ทางด้านนัทธรก็ปฏิเสธนิ่มๆ ไปกับศลิษาว่าเขาเอ็นดูเธอเหมือนหลาน ศลิษาเสียใจมากมาบอกอ้อย อ้อยเห็นใจเพื่อน ขณะเดียวกันอ้อยก็ได้รับจดหมายจากคุณพ่อว่าพร้อมแล้วที่จะให้อ้อยไปพบในงานเลี้ยงครบรอบปีของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งอ้อยแปลกใจเพราะ คือ บริษัทของนัทธรนั่นเอง คุณพ่อให้อ้อยไปพบคนที่ใส่เน็คไทของอ้อย ในที่สุดคุณแม่ปราณีก็หาสร้อยของอ้อยพบและโทรหาอ้อย อ้อยกำลังอยู่ในงานแต่งตัวสวยกำลังมองหาคุณพ่อ นัทธรใช้เน็คไทของอ้อยกำลังเดินตรงมาหาอ้อยที่มองหาอยู่ ที่สถาน เด็กพร้าคุณแม่ปราณีกำลังยกขึ้นมาดูอ่านเห็นชื่อบุญยวงพลิกอีกด้านเห็นชื่อส่วยหย่ง ปราณีดีใจรีบโทรหาอ้อย อ้อยรับแต่บอกว่าอยู่ในงานเลี้ยงพรุ่งนี้จะไปรับของ แต่แล้วอ้อยก็กลับได้ยินเสียงคุณแม่ร้องว๊ายแล้วเงียบเสียงไป พวกสมใจและมะขิ่นนั่นเองมาจับตัวปราณีไป ตอนกำลังถูกกระชากตัวปราณียัดสร้อยใส่ไว้ใต้หมอนไว้ อ้อยเลิกตามหาคุณพ่อรีบตรงไปที่บ้านเด็กกำพร้าไม่พบใครพบแต่ป้าเมตตา อ้อยเล่าเหตุการณ์ให้ป้าเมตตาฟัง อ้อยมองไปเห็นสร้อยที่แล่บออกมาจากใต้หมอนหยิบออกมาไม่ได้อ่าน แต่คิดว่าต้องเป็นของที่คุณแม่บอกว่าหาให้แน่ๆ อ้อยหยิบสร้อยเส้นนั้นออกมา นัทธรผิดหวังที่อ้อยไม่ไปหาตามนัด อ้อยเขียนโน้ตฝากเลขาขอโทษเพราะเกิดเรื่อง ทุกคนจึงรู้ว่าคุณแม่ปราณีถูกจับไป บุญยวงส่งรถไปรับอ้อยมาที่บ้าน อ้อยส่งให้ทุกคนดูว่านี่ คือ สร้อยที่ติดคอเธอมาตอนที่เธอมาที่บ้านคุณแม่ปราณี แต่คุณแม่เก็บเอาไว้ เมื่อบุญยวงเห็นถึงกับช็อค บุญยวงให้อ้อยควั่นอ่านที่แผ่นสลักทั้งสองด้าน อ้อยงงแต่ก็อ่านชื่อ “บุญยวง” “ส่วยหย่ง” อ้อยมองบุญยวง บุญยวงมองอ้อย สองคนถลาเข้ากอดกัน ที่นัทธรเข้ามาเห็นภาพยืนนิ่งมอง อ้อยก้มลงกราบแทบเท้าของบุญยวง บุญยวงประคองอ้อยขึ้นมา และบอกว่าณัฐวุฒิ คือ พ่อ อ้อยควั่นตะลึง ณัฐวุฒิกางแขนสวมกอดลูกสาว ทั้งสามคนกอดกัน จากนั้นอ้อยก้มลงกราบที่เท้าของพ่อและแม่ นัทธรยืนมองแล้วหันผละออกไป ณัฐวุฒิเห็นจึงเรียกให้มารู้จักกัน อ้อยมองไปนัทธรมองตอบกลับมา สายตาของอ้อยจ้องไปที่เน็คไทของนัทธร อ้อยตะลึงถลาไปหานัทธรโดยไม่ได้ตั้งใจไม่เชื่อว่าคุณพ่อที่อุปการะเธอจะหนุ่มไม่ใช่คนมีอายุ นัทธรยืนนิ่ง ณัฐวุฒิบอกอ้อยว่านัทธรเป็นลูกชายบุญธรรมของเขา นัทธรขัดเขินไม่กล้ากอดดังที่เคยเขียนจดหมายบอกไว้ แต่อ้อยกลับก้มลงกราบนัทธรที่เท้าและบอกพ่อแม่ว่า นี่คือ คุณพ่อที่อุปการะส่งเสียเธอจนเรียนจบ บุญยวงกับณัฐวุฒิตื่นเต้นดีใจและขอบใจนัทธร ต่อมาพวกมะขิ่นหาทางจับตัวอ้อย โดยใช้คุณแม่ปราณีมาขู่ว่าจะฆ่า อ้อยจึงต้องไปพบพวกมะขิ่น พวกนั้นจับตัวอ้อยเรียกค่าไถ่ยี่สิบล้าน นัทธรใช้อุบายเอาเงินไปล่อและช่วยอ้อยกับคุณแม่ปราณีออกมาได้ ส่วนพวกมะขิ่นกับสมใจหนีไปแต่ในที่สุดก็ถูกตามจับได้
มีงานฉลองการพบกันและประกาศว่าอ้อย คือ ลูกสาวของณัฐวุฒิและเจ้าบุญยวง หลังเสร็จงานเลี้ยง อ้อยตามเจ้านางบุญยวงมาอยู่ที่ภูคำ นัทธรตามมาที่ภูคำ เจ้านางให้อ้อยตัดสินใจเลือกไปอยู่กับความรัก คือ นัทธร อ้อยควั่นกลับมาเมืองไทยสร้างความดีใจให้กับนัทธรมาก นัทธรมอบแหวนที่รอไว้หมั้นให้อ้อย และประกาศหมั้นกับอ้อยควั่นท่ามกลางความอิจฉาของสาวๆ ทั้งหลาย ในงานหมั้นมีทุกคนมาร่วมงานกับอย่างมีความสุข
นำแสดงโดย: 1. พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์ แสดงเป็น นัทธร
2. พัชญา เพียรเสมอ “ อ้อยควั่น
3. สวิช เพชรวิเศษศิริ “ ณัฐวุฒิ
4. ธมลพรรณ์ ภานุชิตพุทธิวงศ์ “ เจ้านางบุญญวง
5. ธาราเขต เพ็ชร์สุกใส “ ศรุต
6. พัชรมัย สุขประเสริฐ “ ต้องรัก
7. ทราย เจริญปุระ “ มะขิ่น
8. ดรุณี สุทธิพิทักษ์ “ ดุจดาว
9. วิยะดา อุมารินทร์ “ ป้าเมตตา
10. ปิยะดา เพ็ญจินดา “ ภัควดี
11. ดิเรก อมาตยกุล “ ลุงตำรวจ
12. สมจิตร จงจอหอ “ สำลี
13. ยุวดี เรืองฉาย “ มะเปี๊ยะ
14. น้ำทิพย์ เสียมทอง “ สินีนาฏ
15. จารุศิริ ภูวนัย “ สมใจ
16. ปริษา ทนาวิวัฒน์ “ ครูตุ๊กตา
17. เยาวเรศ นิศากร “ ป้าไพลิน
18. ทัศนีย์ สีดาสมุทร “ ป้าทอง
19. ปนัดดา โกมารทัต “ คุณแม่ปราณี
20. พิเชษฐ ศรีราชา “ ทินหม่อง
21. อมต อินทานนท์ “ นายกบ(แก้ไข)
22. พลกฤษณ์ จักรสุวรรณ “ ส่างโดย
23. สริยา บุตรดาวงศ์ “ ภัคภิรมย์
24. กัญญณัฎฐ์ แสงกาศ “ ศลิษา
25. ดนยา รัตนธาดา “ ครูปุ๊กลุ๊ก
26. ศิโรรัตน์ ฉันท์ทอง “ จำปี
27. วรรณชนก ภาษยวรรณ์ “ วิสินี
28. โสภิชา แก้วยอดเขา “ พรรณวิไล
29. สุรินธร เมธีธารพงศ์วาณิช “ ปลื้มจิตร
30. ฑิตฐิตา วงศ์บุปผา “ ดวงพร
31. รักษ์สุดา ประชุมรักษ์ “ ศศิมา
32. อภิญญา ลัดกระทุ่ม “ ผักขม
33. รมิตา รัตนภักดี “ มะเขือเทศ
34. ณภัค เจนจิตรานนท์ “ อ้อยควั่น(เด็ก)
นักแสดงรับเชิญ
35. สรพงศ์ ชาตรี “ เจ้าอนันทธร
36. ฤทธิ์ ลือชา “ นายพลตองยี
37. กชกร นิมากรณ์ “ เจ้านางขันแก้ว
ผู้ประพันธ์: คำหล้า
บทโทรทัศน์: วรพันธ์ รวี
ผู้กำกับ: ประทุม มิตรภักดี
ผู้ผลิต: ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น
ออกอากาศทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 18.30 น. ทางช่อง 7 สี
Leave a Reply