เรือนร้อยเล่ห์
เรื่องย่อ เรือนร้อยเล่ห์
หลวงราชบดี ข้าราชการในกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น บุตรชายคนเดียวของพระยาพลเทพกับคุณหญิงชดช้อย ที่เจริญในหน้าที่การงานได้เร็วกว่าหนุ่มๆในรุ่นราวคราวเดียวกันทั้งที่อยู่ในวัยไม่ถึงสามสิบ หลวงราชบดีได้ชื่อว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามและอนาคตไกลที่สาวๆต่างหลงใหลในความงามและความสามารถ แต่ใจของหลวงราชบดีนั้นมีเจ้าของที่เหมาะสมด้วยหน้าตาและฐานะอย่าง แม่อุ่น บุตรตรีของ พระยาราชพินิจ กับ คุณหญิงบัว แต่ด้วยแม่อุ่นกลัวว่า หนุ่มหน้าตาดีอย่างคุณหลวงจะเจ้าชู้มีหลายเมียจึงไม่ตกลงแต่งงานด้วยซะที จนสุดท้ายเมื่อคุณหลวงยอมสัญญา และสาบานต่อหน้าผู้ใหญ่ฝ่ายคุณอุ่นว่าจะไม่มีหญิงใดนอกจากคุณอุ่นคนเดียวเท่านั้น การแต่งงานจึงได้ถูกกำหนดขึ้น งานมงคลของทั้งคู่เป็นที่น่ายินดี เว้นแต่ว่า แม่วาดทาสในเรือนคุณหลวงนั้นกลับร้อนใจเหมือนไฟสุมเมื่อได้ยินข่าว แม่วาดพยายามทุกทางที่จะเรียกร้องความสนใจของคุณหลวงแต่กลับไม่เคยอยู่ในสายตา ความฝันที่จะเปลี่ยนฐานะจากทาสเป็นเมียที่ออกหน้าออกตาของคุณหลวงโดนผู้หญิงชืดๆอย่างแม่อุ่นเพียงคนเดียวบดขยี้ไปต่อหน้าต่อตา แม่วาดถูกนำมามอบให้คุณหลวงเสมือนของกำนัลเมื่อคุณหลวงรับตำแหน่งคุณหลวงใหม่ๆ แต่คุณหลวงกลับไม่เคยเหลียวแล เพียงแต่ดูแลดีกว่าทาสในเรือนทั่วไปเท่านั้น แม่วาดมีเรือนส่วนตัวในบริเวณพร้อมกับทาสรับใช้คนสนิทเพื่อความสะดวกสบาย แต่คุณหลวงก็ไม่เคยแวะเวียนไปหาอย่างที่แม่วาดอยากให้เป็น ยิ่งพอมีข่าวว่าคุณหลวงจะแต่งงานกับคุณอุ่น วาดยิ่งนั่งไม่ติด
เมื่อสบโอกาส แม่วาดกับนังส้มก็ดักเจอแม่อุ่นกับนังปลั่งบ่าวคนสนิท หาว่าแม่อุ่นเป็นหญิงใจทราม ไม่เห็นใจหญิงด้วยกัน เพราะแม่วาดกับคุณหลวงนั้นได้กันมาก่อน พอคุณหลวงเจอแม่อุ่นก็จะทอดทิ้งแม่วาด ทั้งสัญญาสาบานว่าจะมีแม่อุ่นคนเดียวทั้งที่แม่อุ่นมาทีหลัง แต่แม่อุ่นหนักแน่นพอ และเมื่อได้ฟังจากปากคุณหลวงเองว่าไม่ใช่เรื่องจริงก็ไม่ใส่ใจ คุณหลวงเมื่อได้ฟังเรื่องจากแม่อุ่นก็โมโห กลับมาที่เรือนสั่งให้โบยแม่วาดซะเจ็บหนัก การลงโทษครั้งนี้ยิ่งทำให้วาดเกลียดแม่อุ่นเข้าไส้หาว่าใส่ไฟให้คุณหลวงมาลงหวายตนเสียยกใหญ่
ในเมื่อทำทุกทางแล้วไม่ได้มา ทางสุดท้ายคงต้องพึ่งคนที่นังส้มทาสคนสนิทแนะนำ…นายชัย หมอผีขมังเวทย์ ที่นังส้มว่าจะช่วยให้คุณหลวงมาหาวาดได้โดยไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อย
กลางดึกบนถนนเล็กๆ เสียงเท้าก้าวอย่างเร่งรีบ แม่วาดในชุดที่ปกปิดมิดชิดจนแทบมองไม่เห็นหน้ากำลังเร่งฝีเท้าด้วยความรีบ แม่วาดหยุดลงที่หน้าบ้านหลังนึงในซอยเล็กแคบ ในมือยื่นถุงเงินจำนวนหนึ่งให้ชายด้านหน้า พร้อมกับรับบางอย่างมาซ่อนไว้ใต้ผ้า ก่อนจะหันหลังรีบเดินก้าวออกไปอย่างไม่พูดไม่จา แม่วาดเร่งฝีเท้าเดินกลับไปในทางเดิม โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าขากลับมีเสียงตรวนก้องกังวาล สาวในชุดสไบเก่าและขาดวิ่นเดินลากตรวนตามแม่วาดกลับไปด้วยอย่างช้าๆ….
เมื่อกลับถึงเรือน แม่วาดหยิบของที่ได้มาวางลงบนโต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอน สิ่งที่ถูกวางลงข้างหน้าคือโกฏิสีทองที่ดูแล้วว่าไม่น่าเป็นของสามัญชนทั่วไปแน่ เมื่อทุกอย่างเงียบลง เสียงนึงกลับชัดเจนขึ้น เสียงตรวนข้อเท้าที่ถูกลากอยู่รอบเรือนของแม่วาด แม่วาดหยิบปิ่นด้านหน้ามาทิ่มลงบนปลายนิ้ว หยดเลือดลงที่โกฏิทองตามที่หมอชัยสั่ง ทันทีที่เลือดหยาดลงบนโกฏิเสียงตรวนเงียบหายไป พร้อมทั้งหยดเลือดของแม่วาดที่พึ่งหยดลงบนโกฏินั้นด้วย
คุณอุ่นแต่งงานเข้ามาในเรือนของคุณหลวงราชบดี ทาสทุกคนในเรือนต่างยกยอปอปั้นว่าแม่อุ่นช่างเหมาะสมกับเป็นเมียแต่งของคุณหลวง เก่งทั้งเรื่องงานบ้านงานเรือนและหน้าตาก็สะสวยออกงานไม่มีอายใคร ยิ่งได้ยินแม่วาดยิ่งหมั่นไส้หาว่าพวกทาสในเรือนนั้นต่างเป็นพวกนายว่าขี้ข้าพลอย แต่ที่จริงทาสในเรือนทุกคนต่างโล่งใจที่คุณหลวงแต่งกับแม่อุ่นซะได้ เพราะถ้าแม่วาดได้เป็นเมียตบเมียแต่งขึ้นแท่นเป็นเมียหลวงของเรือนหล่ะก็ได้ร้อนกันถ้วนหน้าแน่ๆ
แม่วาดอยากจะบริกรรมคาถาที่ได้มาจากหมอชัยแทบไม่ไหว แต่เมื่อยังไม่ถึงฤกษ์ที่หมอชัยเคยให้ไว้ แม่วาดเองก็ไม่กล้าทำพิธี ก็ได้แต่หาเรื่องระรานแม่อุ่นที่เรือนไปวันๆ ในช่วงที่คุณหลวงออกไปทำงาน และเมื่อความโชคร้ายเข้ามาเยือนบ้านของคุณหลวงเมื่อ พระยาพลเทพเสียชีวิตลงด้วยพิษไข้ป่า ขณะไปราชการที่เมืองใต้ คุณหญิงชดช้อยแม่ของคุณหลวงเสียใจจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ หลวงราชบดีให้แม่อุ่นช่วยดูแลคุณหญิงชดช้อยอย่างใกล้ชิด แม่อุ่นจึงกลายเป็นคนสนิทที่คอยดูแลคุณหญิงชดช้อยอย่างไม่ห่าง และทำให้พอจะคลายทุกข์ลงไปบ้าง นับแต่วันที่พระยาพลเทพจากไป ความสงบก็เริ่มหายไปจากเรือนหลวงราชบดี แม่วาดก็เริ่มระรานแม่อุ่นมากขึ้น เพราะหวังว่าแม่อุ่นจะทนไม่ไหวก็คงต้องระเห็จออกไปจากเรือนหลังนี้ไปสักวัน แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะนังปลั่งบ่าวคนสนิทของแม่อุ่นไม่ยอมให้ใครมารักแกนายของมันง่ายๆ ตัวแม่อุ่นเองก็ใช่จะเป็นคนยอมคนที่จะปล่อยให้แม่วาดมาระรานโดยไม่ตอบโต้ เมื่อมองไม่เห็นหนทางที่จะกำจัดแม่อุ่นออกไปจากเรือนได้ และฤกษ์ที่หมอชัยให้ไว้นั้นมาถึง แม่วาดก็ลงมือทันที
เมื่อความมืดเข้าปกคลุม แสงไฟสลัวๆจากเทียนก็สว่างขึ้นจากเรือนของแม่วาด นังส้มตระเตรียมของให้เจ้านายเรียบร้อยก็หลบหายไป แม่วาดหยิบโกฏิทองอร่ามออกมา หยดเลือดลงไปที่โกฏิ และเริ่มบริกรรมคาถาเรียกผัวที่ได้รับมา ที่ห้องนอนเรือนใหญ่คุณหลวงกับแม่อุ่นหลับอยู่ไม่ได้รู้เรื่อง ท่ามกลางความเงียบเสียงเดินลากตรวนวนอยู่รอบเตียงนอน แล้วก็หยุดไป ร่างซีดขาวเต็มไปด้วยรอยเฆี่ยนตีนุ่งสะไบที่เคยดูดีแต่บัดนี้ขาดวิ่นนั่งคล่อมอยู่ที่หัวเตียงของทั้งคู่แต่กลับทำอะไรคุณหลวงกับแม่อุ่นไม่ได้
แต่จะว่าคาถาของแม่วาดไม่ได้ผลเลยก็คงไม่ถูกนัก เพราะหลังจากคืนนั้นแม่อุ่นก็รู้สึกได้ว่าตนไม่เคยอยู่คนเดียว ประหนึ่งว่ามีคนคอยจับตามองเธออยู่เสมอทั้งๆที่ไม่มีใคร บางครั้งเวลาอาบน้ำก็ตาฝาดมองเห็นว่ามีตาคู่นึงมองผ่านซี่ไม้เข้ามา แม่อุ่นร้องเรียกให้นังปลั่งวิ่งไปดูก็ไม่เห็นใคร แต่สิ่งที่ประหลาดกว่าคือคุณหลวงหลังจากที่หลับสนิทไปแล้วกลับเหมือนนอนฝันร้ายอยู่ทุกคืนไป
วิญญาณที่แม่วาดได้รับมาจากหมอชัยนั้นคือ รำเพย ภรรยาในท่านเจ้าคุณคนนึงในอดีต รำเพยเป็นภรรยาที่ออกหน้าออกตาของท่านเจ้าคุณ แต่ท่านเจ้าคุณนั้นก็ไม่ได้หยุดที่แม่รำเพยเพียงคนเดียว รำเพยเป็นเมียหลวง แต่เมียเล็กเมียน้อยยังมีอีกเป็นสิบ แต่ใครก็คงไม่สู้สมร เมียทาสคนใหม่ของท่านเจ้าคุณที่ดูท่านเจ้าคุณจะทั้งรักทั้งหลงมากกว่าใคร สมรชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ สมรใส่ไฟให้ท่านเจ้าคุณคิดไปว่าเมียหลวงอย่างรำเพยนั้นกำลังนอกใจ ทำใหท่านเจ้าคุณเสียหน้าเพราะความอับอายที่เมียหลวงนั้นแอบคบชู้สู่ชาย เพื่อลงโทษและให้ยอมรับผิด รำเพยถูกล่ามตีตรวนไว้ที่ใต้เรือน และถูกลงหวายทุกวันเพื่อให้รับสารภาพในความผิด แต่เพราะรำเพยไม่ได้ทำจึงไม่มีอะไรต้องสารภาพ แต่สิ่งที่รำเพยเจ็บปวดยิ่งกว่าบาดแผลจากการลงหวายนั้นคือการที่ท่านเจ้าคุณที่รำเพยนั้นรักแสนรัก ยกย่องสมรเมียทาสขึ้นมาเป็นเมียแต่งแทนตน รำเพยสุดท่านโดนเฆี่ยนและตายอย่างทรมานเยี่ยงทาสใต้เรือนที่ท่านเจ้าคุณอยู่นั่นเอง ไม่นานหลังจากนั้นสมรก็เสียชีวิตอย่างปริศนา
แม่วาดชักไม่แน่ใจกับสิ่งที่ได้วาจากหมอชัย ที่ว่าเป็นปั้นเหน่งของวิญญาณอาถรรพ์ ที่จะทำงานเรียกผัวมาให้เธอถึงเรือนชาน กลับไม่มีผลอะไร แม่วาดอดทนถ่างตารอจนรุ่งเช้าก็เริ่มร้อนใจว่าร่ายมนต์เรียกผัวไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นังส้มเดินอารมณ์ดีกลับมาหานายสาวในตอนเช้าหวังว่าต้องได้รับการตบรางวัลอย่างงาม แต่กลับโดนแม่วาดตบหน้าหันแทน หาว่าพาตนไปให้หมอชัยหลอกเอาเงิน เพราะที่หมอชัยสั่งมาทำแล้วไม่ได้ผล นังส้มรีบไปหาหมอชัยทันที หมอชัยนั่งตรวจยามสามตาดู ปรากฏว่าที่มนต์เรียกผัวทำอะไรคุณหลวงไม่ได้เป็นเพราะว่าที่หัวเตียงของคุณหลวงนั้นมีของดีเป็นมงคลคุ้มครองทั้งคู่อยู่
นังส้มรับกลับมารายงานเจ้านายทันที เมื่อแม่วาดรู้ว่าอะไรคือต้นเหตุให้มนต์เรียกผัสของตนไม่ได้ผลก็หลอกล่อให้แม่อุ่นกับนังปลั่งคนสนิทออกมาจากเรือนแล้วให้นังส้มเข้าไปเอาของออกมา นังส้มโขมยมงคลที่สวมในงานแต่งงานของคุณหลวงออกมาจากห้องนอนของคุณหลวงได้สำเร็จ หมอชัยบอกนังส้มว่าถ้าเอามงคลออกมาแล้วให้ไปเผาในป่าช้า เพื่อกำจัดให้สิ้นซากจะได้คุ้มครองทั้งคู่ได้อีก
แล้วชัยชนะก็ตกเป็นของแม่วาด ในคืนนั้นเมื่อแม่วาดบริกรรมคาถามนต์เรียกผัวอีกครั้ง ไม่นานคุณหลวงก็ปรากฏตัวที่หน้าห้องนอนของแม่วาดในสายตามีความรักใคร่เต็มเปี่ยมอย่างที่แม่วาดต้องการ ถ้ามีทาสคนไหนอยู่แถวนั้นคงได้มองเห็นว่า คุณหลวงไม่ได้เดินไปที่เรือนของแม่วาดเพียงคนเดียว คุณหลวงเดินตามสาวสวยในชุดสไบเก่าซีดที่เดินลากตรวนนำหน้าไป
แม่อุ่นตื่นเช้ามาไม่เห็นสามีก็นึกว่าออกไปทำงานเข้ากระทรวงแต่เช้าก็ไม่ได้นึกอะไรจนนังปลั่งหน้าตาตื่นเข้ามารายงานว่าคุณหลวงเอาแม่วาดขึ้นมาร่วมโต๊ะบนเรือนใหญ่ ทาสทั้งเรือนพูดกันเป็นเรื่องสนุกปากว่าคุณหลวงจะยกเอาแม่วาดขึ้นเป็นเมียอีกคน แม่อุ่นใจตกวูบลงไปอยู่ตาตุ่ม นึกไม่ถึงว่าคุณหลวงจะกลับคำได้ไวขนาดนี้ แต่งงานได้เพียงไม่นานก็ผิดคำสัญญาว่าจะรักตนเพียงคนเดียว แถมยังหยามโดยเอาเมียทาสอย่างอม่วาดขึ้นมาร่วมโต๊ะทานข้าวอีกต่างหาก แต่คำสอนของมารดายังคงวนเวียนในหัวว่าเป็นเมียหลวงต้องอดทนเอาน้ำเย็นเข้าลูบ อย่าเอาน้ำมันไปดับไป แม่อุ่นจึงพยายามสงบสติอารมณ์ทั้งๆที่อยากจะเอาเรื่องทั้งอม่วาดทั้งคุณหลวงใจแทบขาด ยิ่งเมื่อเห็นภาพสองคนที่แทบจะนั่งตักกันทานข้าวแม่อุ่นยิ่งต้องข่มอารมณ์ แต่แม่อุ่นไม่รู้หรอกว่าศึกใหญ่นั้นคือหลังจากวันนั้นต่างหาก เพราะหลังจากวันนั้นคุณหลวงจะมาที่เรือนใหญ่เฉพาะเวลาที่มาเอาของสำคัญเท่านั้น
แม่อุ่นเสียใจที่คุณหลวงสามีของตนเปลี่ยนไป นอกจากจะผิดสัญญาแล้ว ยอมให้แม่วาดที่เปรียบเป็นเพียงแค่เมียทาสมาระรานตนที่เป็นถึงเมียแต่ง แม่อุ่นกลับบ้านไปหาคุณหญิงบัวปรึกษาว่าจะขอกลับเรือนไม่ขออยู่ที่เรือนของคุณหลวงอีกต่อไป แต่คุณหญิงบัวพอฟังเรื่องราวจากลูกสาวและนังปลั่งคนสนิทก็เอะใจ พาลูกสาวไปหาพระที่เคารพนับถือ เมื่อพระท่านฟังทุกอย่างจบ ก็หยิบสายสิญจ์ขึ้นมาสวดและสั่งให้แม่อุ่นเอาสวมข้อมือของคุณหลวงให้ได้ พระท่านว่าคุณหลวงอาจโดนของ
แม่อุ่นเองที่ยังมีใจรักคุณหลวงสุดหัวใจ กลับมาบ้านก็วางแผนกับนังปลั่งเพื่อจะให้คุณหลวงกลับมาแวะที่เรือนใหญ่และหาโอกาสสามสายสิญจ์ให้ แผนของแม่อุ่นสำเร็จ แม่อุ่นจัดการสามสายสิญจ์ให้คุณหลวง คืนนั้นคุณหลวงไม่ได้ไปที่เรือนของแม่วาดและเหมือนจะกลับมาเป็นคุณหลวงคนเดิม แม่อุ่นเริ่มสงสัยแล้วว่าที่คุณหลวงโดนของนั้นอาจจะเป็นเรื่องจริง และคนที่ทำของใส่คุณหลวงก็ไม่น่าจะเป็นใครไปได้นอกจากแม่วาด นังปลั่งเรียกนังส้มมาซัก แต่นังส้มไม่มีปริปาก ถึงจะถึงขั้นลงไม้ลงมือกันนังส้มก็ไม่มีหลุดปากเรื่องของเจ้านาย นังปลั่งเลยต้องกลับไปรายงานนายหญิงว่าไม่ได้เรื่องอะไรจากนังส้ม
แต่ถึงแม้คุณหลวงจะดูกลับเป็นปกติดีแล้วแต่บ่อยครั้งที่แม่อุ่นมักจะเจอวิญญาณของหญิงสาวคอยตามหลอกหลอนทุกค่ำคืน รวมทั้งบ่าวที่อยู่ในเรือนก็มักจะได้ยินเหมือนเสียงใครบางคนเดินไปมาอยู่ในบ้าน เสียงโซ่ที่ลากไปตามพื้นไม้ของเรือน สร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนที่อาศัยอยู่ที่เรือนเป็นอย่างมาก
หลังจากที่มนต์เรียกผัวจะไม่ได้ผลอยู่หลายคืน แม่วาดก็เริ่มกังวลใจอย่างหนักถึงขั้นต้องเดินมาที่เรือนใหญ่เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แม่อุ่นล่ามโซ่คุณหลวงไว้ไม่ให้ไปหาตนหรืออย่างไร พอมาถึงที่เรือนใหญ่ทุกอย่างดูปกติ แต่แล้วแม่วาดก็เห็นสิ่งผิดปกติเมื่อสายตาของแม่วาดมองไปเจอว่าคุณหลวงใส่สายสิญจ์ที่ไม่เคยใส่จึงหาเรื่องจะกำจัดสายสิญจ์นั้นซะ
หลังจากนั้นไม่ว่าแม่อุ่นจะหาวิธีไหนมารั้งคุณหลวงให้อยู่ที่เรือนก็ไม่สำเร็จ จะสายสิญ๗์กี่เส้นก็ดึงคุณหลวงไว้ไม่อยู่ เพราะแม่วาดไม่ยอมแล้วบริกรรมคาถาหยดเลือดใส่โกฏิเป็นสองสามเท่าทำทุกวิถีทางไม่ให้คุณหลวงกลับไปที่เรือนใหญ่อีก แม่อุ่นเองเริ่มถอดใจและคิดว่าคงเป็นที่คุณหลวงเองไม่ใช่ที่ไสยศาสตร์มนตร์ดำที่ไหน
แม่อุ่นเอาเวลาไปวัดทำบุญเผื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย แม่อุ่นที่เคยสวยก็ดูโทรมลงไปถนัดตา แต่ก็ยังหวังว่าคุณหลวงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม วันนึงระหว่างที่กำลังเดินทางไปทำบุญที่วัดกับนังปลั่งก็เจอรถขายทาส ในรถมีเพียงหญิงชราผอมแห้งเหลืออยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น แม่อุ่นตัดสินใจซื้อชีวิตหญิงชราคนนั้นให้เป็นอิสระ นังหวน หญิงชราที่ผอมจนหนังแทบหุ้มกระดูกยกมือไหว้ท่วมหัวขอบคุณม่อุ่นที่ช่วยปลดปล่อยตน แม่อุ่นที่เก็บความทุกข์ไว้ก็พูดไปว่าตนไม่คิดจะเอาอะไรตอบแทน แค่อยากทำบุญ เผื่อว่าชีวิตตนจะดีขึ้นบ้าง นังหวนซาบซึ้งในน้ำใจของแม่อุ่น และตนก็ไม่มีที่ไปจึงขอตามไปรับใช้ที่เรือน ตอนเรกแม่อุ่นปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็สงสารเพราะดูว่านังหวนไม่มีที่ไปจริงๆ และถ้าปล่อยไปก็น่าจะลำบาก เลยให้กลับไปอยู่ที่เรือนชั่วคราวจนกว่านังหวนจะมีที่ไป
นังหวนเข้ามาอยู่ในเรือนก็เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รับรู้ว่าทำไมนายหญิงอย่างแม่อุ่นถึงได้อมทุกข์ทั้งๆที่ก็มีพร้อมครบถ้วนสมบูรณ์ สิ่งที่แม่อุ่นไม่รู้คือนังหวนรู้คาถาอาคมพอตัว ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในเรือนราชบดีนังหวนก็รู้สึกได้ถึงอำนาจไสยศาสตร์ ถึงแม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าคุณไสยที่รู้สึกได้นั้นมาจากไหน เป็นของใคร และถูกส่งมาเพื่อประโยชน์อะไร แต่นังหวนรู้ว่าบางที่ที่เธอต้องมาอยู่ที่นี่นั้นอาจเป็นฟ้าที่ลิขิตมาเพื่อให้เธอได้ทำอะไรซักอย่างเป็นแน่
นังหวนเห็นว่าผีรำเพยที่ออกมาหลอกหลอนคนในเรือนราชบดี และเป็นคนเรียกคุณหลวงไปหาแม่วาดอยู่นั้นกำลังถูกบังคับ รำเพยทำหน้าที่ทั้งน้ำตาเพียงแต่พูดไม่ได้ ฟ้องใครไม่ได้เพราะตกอยู่ใต้อาคม บางครั้งที่อาคมนั้นจางลง รำเพยพยายามที่จะสื่อสารบอกคนในเรือนอย่างแม่อุ่นเพื่อเตือนในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นแต่เนื่องจากอาคมยังมีผลบังคับอยู่มากทำให้รำเพยไม่สามารถปริปากพูดได้ การปรากฏตัวของรำเพยจึงกลายเป็นการหลอกหลอนที่ทำให้คนในเรือนหวาดกลัว นังหวนบอกแม่อุ่นถึงเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น แม่อุ่นเองจึงปรึกษาว่าต้องทำอน่างไร เพราะคุณหลวงเองก็ดูมีสภาพอิดโรยจากกการที่โดนกระทำจากคุณไสยจนแทบจะเสียสติ
เมื่อนังหวนมีวิชา นังหวนจึงพยายามทำลายอาคมที่บีบบังคับรำเพยไว้ หมอชัยรับรู้ได้ว่ามนต์คาถาของตนกำลังถูกแก้ไขจากความพยายามที่จะปลดปล่อยรำเพย แม่อุ่นเองก็ไม่ได้ปล่อยเรื่องนี้ไป เมื่อรู้จากนังหวนว่ามีการทำคุณไสยส่งผีมากเรียกคุณหลวง ทำให้คุณหลวงเปลี่ยนไป แม่อุ่นก็ตามหาของอาคมที่แม่วาดใช้เพื่อทำการทั้งหมดนี้ สุดท้ายแม่อุ่นกับนังปลั่งก็เจอโกฏิของรำเพย หลังจากที่หาทางล่อให้แม่วาดกับนังส้มออกจากเรือนไป หลังที่แม่อุ่นได้โกฏิทองมาก็มีการต่อสู้กันทางวิชาอาคมระหว่างหมอชัยกับนังหวน หมอชัยเองไม่สามารถที่จะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ เพราะของที่ปล่อยออกไปนั้นจะต้องกลับไปเล่นงานตนเป็นแน่ และแน่นอนเมื่อรำเพยถูกปลดปล่อย การที่ใช้อาคมบีบบังคับด้วยการทรมาน ทำให้รำเพยเองก็อาฆาตแค้นหมอชัยและแม่วาดไม่ใช่น้อย หลังจากการต่อสู้ของนังหวนกับหมอชัย หมอชัยเจ็บแทบกระอักเลือดเพราะวิชาของนังหวนทำให้มนตร์ของหมอชัยก็เริ่มคลาย ทำให้รำเพยมีโอกาสมาขอร้องแม่อุ่นให้นำปั้นเหน่งของตนกลับไปรวมกับร่างที่ถูกฝังอยู่ในป่าช้าเพื่อปลดปล่อยเธอ
แม่วาดไม่ปล่อยให้แผนการไปป่าช้าเพื่อปลดปล่อยรำเพยสำเร็จไปง่ายๆ แต่แม่อุ่นก็เอาตัวรอดไปได้ถึงแม้จะบาดเจ็บบ้าง แต่พอเอาปั้นเหน่งคืนหลุมศพของรำเพยแล้ว คนที่เจ็บปวดทรมานกลับเป็นแม่วาดที่โดนรำเพยกลับไปเล่นงานจนเสียชีวิต หมอชัยเองก็หนีเวรกรรมที่ทำไว้ไม่พ้น สุดท้ายหมอชัยก็ตายด้วยของที่ปล่อยมาเพื่อจัดการกับนังหวนที่กลับมาเล่นงานตัวเองจนเอาตัวไม่รอด
หลังจากที่ปลดปล่อยรำเพยไปแล้ว แม่อุ่นก็พาคุณหลวงไปพบพระที่คุณหญิงบัวเคารพนับถือเพื่อรับน้ำมนต์ และบวชอยู่หนึ่งพรรษาเพื่อส่งบุญให้แม่วาดและรำเพยให้ไปสู่สุขคติ คุณหลวงขอโทษแม่อุ่นกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่แม่อุ่นไม่ถือสา ขอแค่ว่าให้ยึดคำมั่นสัญญาว่าจะไม่มีใครนอกจากเธอ เพราะลึกๆแม่อุ่นรู้แล้วว่าเธอพร้อมที่จะสู้ทุกทางที่จะไม่ให้ใครมาเอาผู้ชายของเธอไป ที่สำคัญนังหวนจะอยู่ข้างเธอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
Leave a Reply