อนิลทิตา
300 ปีก่อน ณ เมืองบันทายศิลา เมืองชายแดนระหว่างอยุธยากับเขมร อนิลทิตา (บี น้ำทิพย์) ลูกสาวเศรษฐีนี โดนบังคับให้แต่งงานกันเจ้าชัยวิริยะ กษัตย์หนุ่มแห่งเมืองบันทายศิลา แต่อนิลทิตาไม่ยอมเพราะรักสินธุ (โบ๊ท นิธิศ) พ่อค้าผ้าชาวอยุธยา เจ้าชัยวิริยะจึงส่งคนไปฆ่าสินธุ ทำให้อนิลทิตาเสียใจมากหลอกฆ่าเจ้าวิริยะแล้วหนีไปอยู่เชียงรายกับบันดาสา (ต้อม รัชนีกร) พี่เลี้ยงซึ่งมีวิชาไสยศาสตร์นมต์ดำ โดยเฉพาะมนต์คงความสาวไว้ อนิลทิตาจึงขอให้บันดาสาสอนให้ เพื่อรอการกลับชาติมาเกิดของสินธุ สองร้อยกว่าปีผ่านไปบริเวณถ้ำที่อนิลทิตาอยู่กำลังถูกทำเป็นไร่ชา โดยเจ้าพงษ์สุริยา ณ เชียงแมน (บิ๊ก ศรุต) เศรษฐีผู้มีเชื้อเจ้าทางเหนือ อนิลทิตาจึงใช้มนต์ดำแต่งงานกับเจ้าพงษ์สุริยัน แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นโฉมสุรางค์ หลังจากนั้นไม่นานอนิลทิตาก็มีลูกสาวชื่อดาเรศ (เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน)…
เล่ห์นางฟ้า
ลัลน์ลลิต หรือ บิวตี้(วิว-วรรณรท สนธิไชย) สาวไฮโซทายาทของ บริษัท ธนบวร จำกัด ผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปรายใหญ่ระดับนานาชาติ บิวตี้ถูก บวร(เพ็ญเพชร เพ็ญกุล) พ่อของเธอตามใจด้วยเงินทองเพื่อทดแทนที่เธอขาดแม่ตั้งแต่ยังเด็ก เธอจึงกลายเป็นคนเอาแต่ใจ ขี้วีน เริ่ดเชิดหยิ่ง และที่สำคัญรักสวยรักงามเป็นที่สุด หลังพ่อของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต บิวตี้ก็มี กรเทพ(โอลิเวอร์ พูพาร์ต) อาแท้ๆ คอยดูแลมาตลอด นับวันนิสัยแย่ๆ ของบิวตี้ก็ยิ่งหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จนล่วงรู้ไปถึง นางฟ้าลลิตา(นิโคล เทริโอ) มารดาผู้ล่วงลับที่อยู่ในภพภูมินางฟ้า นางฟ้าลลิตากลัวลูกสาวจะต้องมีชีวิตที่ตกต่ำในอนาคต จึงคิดฝืนกฎสวรรค์ใช้อำนาจช่วยลูก แต่ ปรมะเทวี(นุสบา ปุณณกันต์) หัวหน้านางฟ้ากลับเข้ามาขัดขวาง…
อีสา รวีช่วงโชติ
อีสา (วรุนุช ภิรมย์ภักดี) เกิดมาในแผ่นดินรัชกาลที่ 6 หลังจากที่มีการเลิกทาสแล้ว เกิดมาได้สองสามวันแม่ก็ตาย เพราะตกเลือด ป้าเจิม (รัญญา ศิญานนท์) จึงคอยเลี้ยงดูสา ป้าเจิมมีหน้าที่ช่วยงานอยู่ในโรงครัวของวังหม่อมเจ้าโชติช่วงระวี รวีวาร (ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์) ท่านชายเข้าพิธีเศกสมรสกับ หม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) ซึ่งถือว่าเป็นหม่อมใหญ่ นอกจากนั้นท่านชายยังมีหม่อมอื่น ๆ อันได้แก่ หม่อมลำดวน (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) หม่อมคนที่สอง หม่อมนิ่ม (ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) และ หม่อมน้อย ท่านชายทรงมีลูกกับหม่อมต่าง ๆ…
วุ่นนักรักหรือหลอก
คุณหญิงดวงเดือน (ดวงตา ตุงคะมณี) เศรษฐีนีเจ้าของธุรกิจอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งชื่อดังตรา คุณหญิง เกิดล้มป่วยด้วยโรคหัวใจ เธอคิดว่าตัวเองอาจจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ จึงหวนคิดถึงความผิดพลาดที่เป็นเหมือนตราบาปในชีวิต นั่นคือการจ้างตะวัน (สมชาย เข็มกลัด) ครูสอนเต้นรำเท้าไฟมาสอนเธอและพิมพ์ดาว (สโรชา วาทิตตพันธ์) ลูกสาวเพียงคนเดียว แต่กลับกลายเป็นเรื่องงามหน้า เมื่อพิมพ์ดาวลักลอบได้เสียกับตะวันจนตั้งท้อง ทั้งที่คุณหญิงได้หมั้นหมายเธอกับเจนธรรม (สันติสุข พรหมศิริ) หนุ่มนักกฎหมายอนาคตไกล ความโกรธทำให้คุณหญิงเฉดหัวลูกสาวเพียงคนเดียวออกจากบ้าน เพราะหวังว่าเมื่อลูกสาวค้นพบความเลวร้ายของตะวันเมื่อไหร่เธอคงกลับมา เวลาผ่านไปถึงยี่สิบปี พิมพ์ดาวไม่เคยกลับมาอีกเลย นุชา (พิชญะ นิธิไพศาลกุล) หลานชายที่คุณหญิงดวงเดือนรับมาอุปการะ จึงช่วยประกาศตามหาพิมพ์ดาวให้กลับมา ข่าวคุณหญิงตามหาลูกและหลานดังไปทั่วประเทศ จนรู้ถึงหูตะวันกับแสงหล้า (หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์) เมียใหม่…
หัวใจเรือพ่วง
ธันยธรณ์ หรือแพท (อรจิรา แหลมวิไล) โกรธมากเมื่อจับได้ว่าเมื่อ รัญธิดา หรือรัญ (คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์)หลานสาว แอบหมั้นกับพิรภพ (สน ส่งไพศาล) นายจ้างหนุ่มเจ้าของ รีสอร์ท รัญเองก็เสียใจคิดว่าแพทขัดขวางอนาคตที่สวยงามของเธอ เพราะทิพปภา (ชฎาพร รัตนากร) แม่ของเธอติดคุกด้วยข้อหายาเสพย์ติด ซึ่งเป็นเรื่องที่รัญรับไม่ได้ และไม่เคยไปเยี่ยมแม่เลยตลอดเวลาที่ติดคุก รวมทั้งปกปิดเรื่องในอดีตของเธอกับทุกคนด้วย เมื่อ 6 ปีก่อน แพทพาอะตอม (ด.ช.อชิรวิชช์ เดชปรอท) ลูกชาย และรัญธิดา มาอยู่ที่ปากช่อง ท่ามกลางเสียงนินทา แต่แพทก็กัดฟันเลี้ยงดูลูกชายและส่งเสียรัญจนจบ ด้วยการเป็นพนักงานบริษัทเล็กๆ และทำเค้กส่งขายที่ร้านกาแฟของเตอร์…
เรือนเสน่หา
พุทธศักราช 2448 ในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ยกเลิกการมีทาสไปแล้ว ผู้ชายโดยเฉพาะเจ้าขุนมูลนายนิยมมีภรรยาหลายคน ขณะที่ฝ่ายชายต่อสู้และแย่งชิงตำแหน่งและหน้าที่ทางสังคม ฝ่ายหญิงก็ต่อสู้เพื่ออำนาจในเรือน ครอบครัวของ คุณหลวงปราบ ธำรงค์นครา (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) เองก็เช่นกัน คุณหลวงมีภรรยาเอกคือ ชมนาด (น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) หญิงสาวจากตระกูลสูง และ เอื้องคำ (พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) ลูกสาวพ่อค้าจากเชียงใหม่ ทั้งสองคนต่างต่อสู้แย่งชิงกันเพื่อให้เป็นคนโปรดของคุณหลวง ชมนาด นั้นมี อีอี่ (รัญญา ศิยานนท์) เป็นบ่าวคนสนิทคอยรับใช้เป็นหูเป็นตาให้ ส่วน เอื้องคำ มี อีมุ่ย (ณหทัย…
คู่ปรับตำรับเฮี้ยน
ความรักกับก๋วยเตี๋ยวเหมือนกันตรงที่ เราอยากทานแบบไหนเราก็ปรุงแบบนั้น เราอยากรักแบบไหนเราก็ได้รักแบบนั้น สงสัยเรื่องนี้คงจะเป็นรักรสเผ็ด เมื่อหนุ่มปากร้ายต้องมาเจอกับสาวเจ้าเล่ห์ ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราววุ่นๆของพวกเขา “ คุณโง่เกินไป ” คำพูดเย็นชาแบบไร้ความรู้สึกดังออกมาจากปากของ คิม (อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา) หนุ่มไฟแรง แรงแค่ไหนก็คิดดูว่าเพียงแค่อายุ 26 ก็สามารถเป็นผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคลได้แล้ว คำพูดของคิมทำเอา ฟู่ (กวิตา รอดเกิด) หญิงสาวที่มาสมัครงานถึงกับอ้าปากค้างเพราะเธอเสียเวลาครึ่งค่อนวันนั่งรออยู่หน้าห้อง เธอยังไม่ได้ทันได้เอ่ยปากพูดอะไร ก็โดนคิมโยนหลักฐานทุกอย่างใส่เธอ นั่นเองจึงเป็นชนวนแห่งความขัดแย้งเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความวุ่นวาย ฟู่สาปส่งจะเรียกว่าแช่งก็ได้ จนคิมเองต้องเรียกรปภ.หามฟู่ออกไป คิมผู้ยึดเหตุผลและความเป็นตรรกะเพราะเขาเติบโตมากับตัวเลขและเงินๆทองๆ จนกระทั่งได้เป็นผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคลระดับโลกอย่างนี้ คิมจึงไม่สนคำแช่งของฟู่ สิ่งที่เขาสนใจคงมีแต่เงิน เงิน แล้วก็เงิน ทุกท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมพระเอกของเราดูช่างไม่น่ารักน่าหยิกเอาเสียเลย ที่จริงแล้วคิมถูกปลูกฝังความเชื่อมาตั้งแต่เด็กๆ…
คู่หูคู่เฮี้ยน
ร้อยตำรวจตรีชาลี หรือ ชายเล็ก (โตนนท์ วงศ์บุญ) เป็นนักร้องประจำวงเดอะค๊อปวงดนตรี เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนและผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ซึ่งก็เหมาะกับนิสัยของชายเล็กเป็นอย่างมาก เพราะชายเล็กเป็นคนมีเสน่ห์ พูดจาไพเราะ เก่งทั้งดนตรี กีฬา ชนิดที่ถ้าเข้าวงการบันเทิงก็น่าจะกลายเป็นพระเอกเบอร์หนึ่งได้ไม่ยาก ฉะนั้นโครงการทุกโครงการที่ชายเล็กประชาสัมพันธ์ให้กรมตำรวจ จะได้ผลอย่างมาก ยังความหมั่นไส้ให้กับ อาชา (จอม ศรุฒ) ร้อยตำรวจเอกหนุ่มอนาคตไกลหน้าห้องของพลตำรวจโทสามล (กฤตย์ อัทธเสรี) รองผู้บังคับการกองปราบ สาเหตุที่อาชาเกลียดขี้หน้าชายเล็ก ก็เพราะเขาหมายปอง รจนา (มิ้น นวินดา) ดาวมหาวิทยาลัยที่เป็นคนรักของชายเล็ก และเป็นลูกสาวพลตำรวจโทสามล อาชาทำทุกวิถีทางที่จะดับรัศมีชายเล็ก และเมื่อสบโอกาส เกิดม็อบที่ชุมชนแออัด ที่เต็มไปด้วยเหล่าวายร้ายโดยมีแกนนำคือ สิงห์…
ล่ารักสุดขอบฟ้า
การคัดตัวราชองครักษ์ประจำปีของประเทศรายา ประเทศที่มีขนาดเล็กตั้งอยู่ในทวีปเอเชียใต้ใกล้กับประเทศอินเดียและจีนกำลังเริ่มขึ้น ตามธรรมเนียม องค์รัชทายาทจะต้องทรงเข้าร่วมประลองในรอบสุดท้าย เพื่อวัดฝีมือกับผู้ได้รับการคัดเลือกด้วยตัวเอง ซึ่งการประลองก็เป็นไปอย่างราบรื่น องค์รัชทายาทภายใต้ชุดเกราะและหน้ากากสามารถเอาชนะได้อย่างสวยงาม ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้องของผู้เข้าชมการแข่งขัน มีเพียงองค์ราชาอินทราเท่านั้นที่ทรงทราบว่า แท้จริงผู้เข้าประลองคือ คามิน องครักษ์หนุ่ม ผู้ที่ทรงให้ความไว้วางใจให้ถวายการดูแล เจ้าชายมาคี รัชทายาทผู้ซึ่งต้องสืบต่อราชบัลลังก์จากนี้ในไม่ช้า หน้าที่ของคามิน นอกจากคุ้มครองเจ้าชาย ยังต้องเป็นตัวแทนของเจ้าชายไปทำราชกิจต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากองค์ราชา โดยมีสินธรทหารองครักษ์คู่ใจที่จงรักภักดีต่อราชบัลลังก์และศรัทธาคามินอย่างที่สุดเป็นมือขวา คามินเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่เคยมีผู้ใดรู้ประวัติที่แน่ชัด บ้างก็ว่าพ่อแม่ของคามินเป็นมหาดเล็กของพระราชาอินทรา และเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตระหว่างตามเสด็จไปเยี่ยมราษฎร บ้างก็ว่าแม่ของคามินเป็นนางรำท้องลูกไม่มีพ่อ จึงฆ่าตัวตายหนีความอับอายและทิ้งลูกไว้ ซึ่งคามินไม่เคยสนใจที่จะสืบหาประวัติตัวเอง เพราะมีปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่จะถวายชีวิตเพื่อความจงรักภักดีต่อราชาอินทรา ที่ได้ชุบเลี้ยงเขามาแต่เยาว์วัย ราชาอินทราทรงหนักใจกับเจ้าชายมาคีซึ่งมีอุปนิสัยไม่เอาถ่าน ไม่ยอมสนใจศึกษางานราชกิจใดๆ คามินแทบจะต้องทำงานแทนทุกอย่าง แม้แต่เวลาที่มาคีไปมีสัมพันธ์กับสาวๆ คามินก็ต้องตามไปแก้ปัญหาให้ จนถูกสาวพวกนั้นตามตื๊อซะเอง กว่าจะสลัดหลุดไปได้…
หัวใจเถื่อน
อดีต รมต.กวี พิชิตพงษ์ และคุณหญิงอำภา พิชิตพงษ์ สองสามีภรรยาที่ีมีชาติตระกูลดี และฐานะทางสังคมสูงส่ง โดดเด่น โด่งดัง มีลูกชายสองคน หลานสาวหนึ่งคน ลูกชายคนโตคือ ภาคย์ พิชิตพงษ์ หายสาบสูญไปตั้งแต่อายุสิบสองปี จนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบสิบห้าปีผ่านไปแล้ว ลูกชายคนที่สองคือ ภากร พิชิตพงษ์ ส่วนหลานสาวนั้น เป็นเด็กกำพร้าที่ท่านกวีเก็บมาเลี่้ยงตั้งแต่อายุได้สามขวบ เธอมีชื่อว่า อ้อ หรือ อมาวสี วันหนึ่ง สองสามีภรรยาปรึกษาหารือกันเรื่องมีคนมาติดต่อขอซื้อ "บ้านแก้ว" สองสามรายด้วยกัน บ้านแก้วนั้นเป็นบ้านเก่าแก่ดั้งเดิมตั้งแต่รุ่นคุณยาย ซึ่งคุณยาย (แม่ของคุณหญิงอำภา) สั่งไว้ก่อนตายว่า ให้เก็บเป็นสมบัติของภาคย์ หากวันใดภาคย์กลับมาจะได้มีที่อยู่อาศัย…