สเต็กหมูพริกไทยดำ อาหารจานเดียว สเต็กหมูพริกไทยดำ
สเต็กหมูพริกไทยดำ
วัตถุดิบ ส่วนผสมและเครื่องปรุง
- เนื้อหมูสันนอก 1,050 กรัม
- มันฝรั่ง 700 กรัม
- แครอท 280 กรัม
- ถั่วแขก 210 กรัม
- น้ำมันพืช 210 กรัม
- น้ำเกรวี่ 560 กรัม
- หอมใหญ่ 100 กรัม
- วิปปิ้งครีม 210 กรัม
- เนยจืด 140 กรัม
- หอมแดงสับ 100 กรัม
- ไวน์แดง 70 กรัม
- พริกไทยดำเม็ด 50 กรัม
- เกลือป่น 14 กรัม
- ข้าวโพดอ่อนและผักชีฝรั่ง
ขั้นตอนและวิธีทำ สูตรอาหาร สูตรสเต็กหมูพริกไทยดำ
- ลำดับแรกให้นำแครอท ข้าวโพดอ่อน ถั่วแขก และมันฝรั่งต้มให้สุก โดยใส่เกลือป่นเล็กน้อย
- ทำการตั้งกระทะ ใส่หอมใหญ่สับ ใส่เนยจืด ใส่ผักที่ต้มเอาไว้ในขั้นตอนแรก (ยกเว้นมันฝรั่ง) ใส่เกลือป่น และพริกไทยดำป่นเล็กน้อย จากนั้นผัดให้เข้ากันและนำมาพักไว้ในจาน
- ขั้นตอนต่อไปตั้งกระทะใส่เนยจืด และผักชีฝรั่งสับ จากนั้นนำมาผัดกับมันฝรั่งที่ต้มสุกแล้วจนมีกลิ่นหอมพักไว้ในจาน
- จากนั้นนำเนื้อหมู โรยเกลือป่น และพริกไทยดำ พักไว้ ตั้งกระทะให้ร้อนใส่น้ำมันพืชนำเนื้อหมูลงย่างในกระทะให้สุก เมื่อสุกแล้วนำขึ้นใส่จาน
- นำกระทะที่ย่างหมูเสร็จแล้ว (ยังไม่ต้องล้างกระทะ) ใส่เนยจืด หอมแดงสับ พริกไทยดำบุบซีก ผัดให้หอม ใส่ไวน์แดง น้ำเกรวี่ ปรุงรสด้วยพริกไทยดำ เกลือป่น เคี่ยวสักพัก ใส่วิปปิ้งครีม คนให้เข้ากัน ตักราดบนเนื้อหมู
ส่วนผสมน้ำเกรวี่
- กระดูกหมู 2,250 กรัม
- แครอท 75 กรัม
- ต้นกระเทียม 45 กรัม
- ขึ้นฉ่าย (ฝรั่ง) 30 กรัม
- หอมใหญ่สับ 75 กรัม
- กระเทียมกลีบใหญ่ 3 กลีบ
- ใบเบลีฟ 3 ใบ
- ออริกาโน 1.5 กรัม
- โรสแมรี่ 1.5 กรัม
- น้ำมันพืช 4.5 กรัม
- ซอสมะเขือเทศเข้มข้น 150 ซีซี
- น้ำซุปไก่ 1.5 ลิตร
- แป้งสาลี 15 กรัม
- เกลือป่น และพริกไทยดำป่น
ขั้นตอนและวิธีทำน้ำเกรวี่
- เริ่มแรกให้นำกระดูกหมูอบให้สุกจนเหลืองเป็นสีน้ำตาล และมีกลิ่นหอม (โดยใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที)
- นำกระดูกหมูที่อบสุกแล้ว (จากขั้นตอนแรก) ใส่ลงในหม้อที่มีก้นหนา (เพื่อเสริมฐานกระจายความร้อน) ตามด้วยแครอทหั่น ขึ้นฉ่าย ต้นกระเทียม หอมใหญ่ ใบเบลีฟ โรสแมรี่ กระเทียมกลีบ ออริกาโน และน้ำมันพืช จากนั้นนำมาผัดให้เข้ากันจนมีกลิ่นหอม
- ใส่มะเขือเทศเข้มข้น แล้วผัดต่อไปจนเข้ากัน (โดยใช้ไฟปานกลาง) ใส่แป้งสาลี (ไม่ต้องผสมน้ำ) ผัดจนแป้งสุกแล้วใส่น้ำซุปไก่ ต้มต่อไปจนเดือด แล้วเคี่ยวต่อไปประมาณ 1 ชม. (คอยหมั่นคนอย่าให้ไหม้ติดกันหม้อ)
- กรองออกให้เหลือแต่น้ำ แล้วจึงเคี่ยวต่อไปจนข้นเป็นน้ำซอสเกรวี่ (เคี่ยวจนให้น้ำงวดเหลือเพียง 1/4 ของน้ำซุปที่ต้ม)
|
|