เจ้าแม่ตะเคียน

ต้นตะเคียน ซึ่งเป็นต้นไม้ที่เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และมีผีสิงอยู่ มักจะได้รับการเรียกชื่อว่า เจ้าพ่อ หรือ เจ้าแม่ตะเคียนนางตะเคียน เป็นผี ตามตำนานพื้นบ้านของไทย

ลักษณะ
นางตะเคียน เป็นผีผู้หญิง สิงสถิตอยู่ในต้นตะเคียน

บริเวณผืนป่าที่ผีนางตะเคียนสิงสู่อยู่จะสะอาดสะอ้านเหมือนมีคนมาปัดกวาดอยู่เสมอๆ ก็คงเหมือนกับคนอยู่บ้านต้องออกมาปัดกวาดหน้าบ้านตัวเองให้สะอาดอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

นางตะเคียนมักมีรูปร่างหน้าตาสะสวย หมดจดงดงาม ผมยาว ห่มสไบ ใส่ผ้าถุง บางที่ก็ว่าแต่งตัวเหมือนสาวบ้านป่าทั่วๆ ไป ผีนางตะเคียนมักจะเป็นจำพวกหวงที่อยู่ และจะดุร้ายมากหากใครคิดจะรุกรานที่อยู่ของตน

เนื่องจากต้นตะเคียน มีผีนางตะเคียนสิงสู่อยู่ การจะนำเอาต้นตะเคียนมาขุดเป็นเรือ (เรือสมัยก่อนใช้วิธีขุดขึ้นจากต้นไม้ทั้งต้น) หรือนำไม้ตะเคียนมาสร้างบ้าน จำเป็นจะต้องทำพิธีบวงสรวงขออนุญาตจากนางตะเคียนก่อน ทั้งนี้ เมื่อต้นตะเคียนที่ถูกนำมาแปรสภาพเป็นยานพาหนะ หรือสิ่งปลูกสร้างแล้ว นางตะเคียนที่สิงสถิตอยู่ในต้นตะเคียนนั้นก็จะเปลี่ยนแปลงสถานะตามไปด้วย เช่น ถ้าเป็นเรือ นางตะเคียนก็จะกลายเป็นแม่ย่านางเรือ เป็นต้น

“”ตัดไม้มาปลูกบ้าน””

ถ้าพูดถึงเวรกรรมแล้ว ทุกคนคงเข้าใจดีว่า เมื่อเราเกิดมาย่อมหนีความตายไม่รอด แม้สรรพสิ่งใดก็ตาม ที่อยู่ในโลกนี้ ย่อมมีทั้งคนดี และชั่ว เรื่องนี้เป็นอาถรรพ์ ที่เกิดขึ้นจริง ในจ.น่าน ณ ที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นสถานที่บูชาเจ้าแม่ตะเคียน ที่ผุดขึ้นมาจากเสาบ้านหลังที่ใหญ่โต ผู้เถ้าผู้แก่ เล่าลือกันมาว่า คนที่

ไปตัดไม้มาทำบ้านเรือน เพื่อเป็นที่อยู่ โดยเฉพาะบ้านไม้หลังใหญ่โต สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ย่อมนำความหายนะ มาสู่บ้านเรือน ไม่ว่าคนที่อาศัย ย่อมเจ็บเป็นป่วยไข้ และล้มหายตายจากไป
“”ผีนางไม้ที่สถิตย์อยู่””

วิญญาณก็ต้องรอเวียนว่าย ตายเกิด ไม่มีที่สิ้นสุด …..เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ลือกันมาว่า หลังจากบ้านแห่งนั้นปิดตายมานาน คนภายนอกที่มาพักอาศัย จากต่างถิ่น ก็เข้ามาเช่าอยู่

แต่ต้องตาย ทั้งที่ไม่ทราบสาเหตุ บ้างก็ลือกันว่า ผีมาเอาชีวิตไป เพื่อรอการไปผุดไปเกิด ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครที่จะไปพักที่แห่งนั้น เพราะต่างหวาดผวา กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางหมู่บ้านจึงทำพิธีสะเดาะเคราะห์ เพื่อเป็นความสิริมงคลแก่ชีวิต ..แต่ข้าพเจ้าเองคงคิดว่า เป็นผีนางไม้ที่สิงสถิตย์ อยู่ต้นตะเคียนที่บ้านแห่งนั้น..

ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง

ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง

ศาลเจ้าแม่ตะเคียน มีเรื่องเล่ากันว่า อยู่คู่กับวัดหนองผักชีมาตั้งแต่สร้างวัดครั้งแรก สภาพภูมิประเทศของวัดหนองผักชีในสมัยก่อน เป็นทุ่งนา และป่าละเมาะ จากคำบอกเล่าของคนเก่าแก่ในพื้นที่ เล่ากันว่า ในสมัยนั้นที่วัดจะเป็นป่า และข้างหลังศาลเจ้าแม่ตะเคียนจะมีคลองน้ำ ที่ใช้สัญจรไปมาของคนในยุคนั้น ไม่มีชาวบ้านกล้าเดินผ่านวัด เพราะว่าผีเฮี้ยนมาก เจ้าแม่ตะเคียนนี้เฮี้ยนมาก(อาจเป็นเพราะยุคนั้นยังไม่มีศาลก็ได้) ได้เที่ยวหลอกหลอนคนที่ผ่านไปมา แต่ก็มีบางครั้นก็บันดาลโชคลาภแก่ผู้ที่มาเคารพสักการะอยู่เป็นประจำ มาถึงยุคหลวงพ่อสูงเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้ดำเนินการสร้างศาลเจ้าแม่ตะเคียน เจ้าแม่ตะเคียนก็ไม่ได้หลอกหลอนชาวบ้านอีกเลย มีแต่บันดาลโชคลาภแก่ผู้ที่มาเคารพ และบนบาน เชื่อกันว่าเจ้าแม่ตะเคียนให้หวยแม่น จึงมีผู้คนเดินทางมาทำบุญที่วัดหนองผักชีเป็นจำนวนมาก