ตำนานหาดแม่รำพึง
หาดแม่รำพึง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดระยอง
หาดแม่รำพึง อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 11 กิโลเมตร จากถนนสุขุมวิท มีทางแยกขวาที่กิโลเมตร 229 เลียบเข้าชายหาด เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ เขาแหลมหญ้า ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน 500 เมตร ห่างจากบ้านเพประมาณ 6 กิโลเมตร ตัวหาดทรายขาวสะอาดอยู่ฝั่งแผ่นดินใหญ่ ถือเป็นหาดที่ยาวที่สุดของฝั่งทะเลด้านตะวันออก มีความยาว 12 กิโลเมตร สุดหาดเป็นที่ตั้งของบ้านก้นอ่าวอันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมงพื้น บ้าน ในอดีตบ้านก้นอ่าวเป็นหมู่บ้านที่ไกลที่สุด ...
ลิฟต์แดง ในรั้วธรรมศาสตร์
เรื่องลิฟท์แดงนี่เรื่องเล่าเยอะมาก
เห็นว่าเมื่อตอนเหตุการณ์เดือนตุลาน่ะค่ะพวกทหารบุกเข้ามาในมหาวิทยาลัย
แล้วพอลิฟท์ตัวนี้เปิดพวกมันก็กระหน่ำยิง คนในลิฟท์ซึ่ง เป็นอาจารย์และ
นักศึกษาเสียชีวิตหมด เลือดสาดกระจายทั่วลิฟท์ เมื่อผ่านพ้นเหตุการณ์นั้นแล้ว
มหาวิทยาลัยกลับคืนสู่สภาพเดิม มีการบูรณะทำความสะอาดกันทุกพื้นที่
ไม่เว้นแม้แต่ลิฟท์ตัวนั้น แต่ทีนี้ทำยังไง คราบเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่ก็ไม่ออก
เหมือนจะเป็นการประจานการกระทำอันบ้าเลือดและไม่ยุติธรรม
จึงได้ทำการทาสีลิฟท์ให้เป็นสีแดง นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แล้วก็ได้มีเรื่องเล่าตามมาว่า
หลังจากที่ลิฟท์ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงแล้วนั้น ก็ได้มีการนำกลับมาใช้ตามปกติ
แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อนักศึกษาหญิงคนนึงกำลังใช้บริการลิฟท์แดงตามลำพัง
แต่แล้วเมื่อเธอมองไปที่กระจกกลับพบว่าไม่ได้มีเธออยู่เพียงลำพัง
หากแต่มีผู้โดยสารลิฟท์ตัวนี้อยู่มาก มายแล้วยังมีอีกหลายครั้งหลายหน
ที่เหล่านักศึกษาอาจารย์ หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ต่างๆ ได้พบเจอกับอาถรรพ์ของลิฟท์แดงตัวนี้เข้า
ทำให้มหาวิทยาลัยต้องเปลี่ยนตัวลิฟท์ใหม่
แต่ว่าประตูลิฟท์แดงที่ถูกถอดออกไปตอนนี้ก็ยังตั้งอยู่ที่ชั้น 4 มาจนถึงทุกวันนี้
ห้องสีชมพู ของ มช.
ห้องสีชมพูตำนานอันลือลั่นของเด็กใหม่ปี 1 ทุกคน
โดยเฉพาะนศ.หญิงที่จะต้องพักที่หอ 8
โดยรุ่นพี่ที่เคยอยู่หอนี่จะบอกและย้ำเสมอว่า
เวลาจะเข้าห้องน้ำต้องเอาเพื่อนไปด้วยเสมอ ห้ามลืมเด็ดขาด!!
นี่คือคำเตือนของรุ่นพี่ประจำหอ ที่เพื่อนผมได้ฟังตอนปีหนึ่ง
แล้วรุ่นพี่อีกคนก็เล่าให้ฟังเกี่ยวกับประวัติของห้องสีชมพูนี้
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ปี2532 ของนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง
ซึ่งประเพณีหรือเรียกว่ากฏของ มช.คือเด็กปีหนึ่งทุกคนต้องอยู่หอใน
เพื่อที่เวลาพี่เรียกมาทำกิจกรรมรับน้องจะได้พร้อมกันอย่างรวดเร็ว
ส่วนคนที่อยู่เชียงใหม่ส่วนมากจะกลับบ้านเย็นวันศุกร์(ถ้าวันเสาร์รุ่นพี่ไม่นัด)กลับเข้าหอก่อนเย็นวันอาทิตย์
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อรุ่นพี่ต่างคณะเกิดมาชอบนศ.หญิงน้องใหม่คนหนึ่ง
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นับวันยิ่งดูรักกันมากขึ้นทุกวันจนมาถึงกลางเทอม
รุ่นพี่คนนี้เลยชวนนศ.หญิงไปอยู่ด้วยกันที่หอหลังมช.
ทุกเย็นวันศุกร์หน้าหอ 8 จะมีรุ่นพี่คนนี้มาจอดรถรอนศ.หญิงคนนี้ทุกครั้ง และจะมาส่งตอนเย็นวันอาทิตย์ทุกครั้ง
เป็นไปอย่างนี้เกือบจะ 5 เดือนจนเป็นที่อิจฉาของเหล่านศ.หญิงที่หอนั้น
ใครเห็นก็ต่างพูดแซวอยู่ตลอดเวลา ทำให้นศ.หญิงรู้สึกดีใจและรักรุ่นพี่คนนี้มาก
แต่ต่างกันรุ่นพี่คนนี้เริ่มที่จะตีตัวออกห่าง เพราะรู้สึกว่านศ.หญิงคนนี้ เริ่มที่จะจริงจังกับตนเองมากเกินไป
แล้ววันที่นศ.สาวคนนี้เสียใจที่สุดและได้สร้างตำนานอันลือลั่นก็มาถึง
เย็นวันศุกร์ที่รุ่นพี่จะต้องมารับเป็นประจำทุกครั้ง..แต่วันนี้รุ่นพี่มาถึงก็ดึกมากแล้ว
นศ.หญิงเลยถามว่าทำไมมาดึกซึ่งหลายคนก็บอกว่าเพราะรุ่นพี่คนนั้นไปติดพันหญิงอีกคนอยู่
นศ.หญิงคนนี้ได้ยินแล้วก็เก็บไว้ในใจตลอดไม่กล้าที่จะถามเพราะกลัวเสียคนรักไป
และเธอก็บอกกับรุ่นพี่คนนี้ว่ามีเรื่องที่จะพูดด้วย เป็นเรื่องสำคัญมาก
รุ่นพี่คนนี้ก็บอกให้ไปคุยกันที่หอ หญิงสาวคนนี้ก็เลยซ้อนรถไปแล้วก็คุยขณะที่ซ้อนรถอยู่
บอกว่าตนเองตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนแล้วพอได้ยินแค่นั้นรุ่นพี่คนนี้ก็จอดรถทันที
แล้วก็ถามย้ำว่าเมื่อกี้พูดว่าอะไร หญิงสาวเลยย้ำไปว่าตังครรภ์ได้ 3 ...
แม่นาคพระโขนง
ภาพวาดจากนิมิตของพระอาจารย์หนู วัดสุทธาราม(วัดพระฉิม) ตอนที่พระอาจารย์อาพาธหนักนอนอยู่โรงพยาบาล ย่านาค ได้ไปช่วยรักษา จนท่านหาย ตั้งแต่นั้นมา พระอาจารย์ก็วาดภาพย่านาค เก็บไว้ที่พิพิทธภัณฑ์ ผลงานปฏิมากรรม ของท่านที่วัดฯ
เรื่องราวของแม่นาคพระโขนงเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมานานแล้ว เพราะมีหลักฐานว่าใน
สมัยรัชกาลที่ ๕ มีคนรู้จักแม่นาคพระโขนงมากกว่าบุคคลสำคัญของบ้านเมืองเสียด้วยซ้ำ
ที่กล่าวดังนี้ ก็เนื่องจาก...สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงเล่าให้หม่อมเจ้า
พูนพิศมัย ดิสกุล ฟังว่าในสมัยที่พระองค์ท่านยังเป็นนายทหารประจำ
อยู่ในพระบรมมหาราชวังนั้นมีเจ้าพี่เจ้าน้องมาประทับคุยด้วยอยู่ใกล้วัง
กับประตูบ่อยๆ ทรงเห็นมีคนเข้าออกประตูวังเนืองแน่นอยู่เสมอ ก็ทรง
คิดกันว่าน่าจะทดลอง ความรู้คนเหล่านั้นดูจึงทรงจดชื่อบุคคล ๔ คนคือ...
...
ผีพรายวังสวนดุสิต
ยังมีเรื่อง 'ผี' อยู่เรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นภายในรั้ววังสมัยรัชกาลที่ 5 ครั้งที่พระองค์ท่านย้ายวังมาประทับที่พระราชวังดุสิต ในรัชสมัยของพระองค์ท่านพระราชวังสวนดุสิต ปลูกสร้างเสร็จใหม่ๆว่ากันว่าสวยงามราวเมืองสวรรค์ ภายในรอบบริเวณพระราชวังอบอวลไปด้วยหมู่ไม้ดอก ไม่ผล ร่มครึ้ม ทั่วบริเวณวัง
ผลหมากราไม้ในพระราชวังแห่งนี้ออกดอก ออกผลลูกเล็กลูกใหญ่ ห้อยระย้าเต็มต้น มีทั้งฝรั่ง ทับทิม มะม่วง กระท้อน ฯลฯ เมื่อผลไม้มีมากมายเช่นนี้ก็ย่อมเป็นที่ต้องการของชาววังมือดีทั้งหลาย ทั้งๆที่เป็นของที่อยู่ในเขตพระราชฐาน ผลไม้หลายๆต้นยังถูกสอยเอาไปรับประทานเป็นจำนวนไม่น้อยและเป็นประจำจนผิด สังเกต แถมผลไม้หลายๆลูกยังพบร่องรอยของฟันแทะไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย
ครั้งนั้น เรื่องขโมยผลไม้ในวังกลายเป็นเรื่องใหญ่ถึงขนาด รัชกาลที่ ...
เจ้าแม่ตะเคียน
ต้นตะเคียน ซึ่งเป็นต้นไม้ที่เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และมีผีสิงอยู่ มักจะได้รับการเรียกชื่อว่า เจ้าพ่อ หรือ เจ้าแม่ตะเคียนนางตะเคียน เป็นผี ตามตำนานพื้นบ้านของไทย
ลักษณะ
นางตะเคียน เป็นผีผู้หญิง สิงสถิตอยู่ในต้นตะเคียน
บริเวณผืนป่าที่ผีนางตะเคียนสิงสู่อยู่จะสะอาดสะอ้านเหมือนมีคนมาปัดกวาดอยู่เสมอๆ ก็คงเหมือนกับคนอยู่บ้านต้องออกมาปัดกวาดหน้าบ้านตัวเองให้สะอาดอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
นางตะเคียนมักมีรูปร่างหน้าตาสะสวย หมดจดงดงาม ผมยาว ห่มสไบ ใส่ผ้าถุง บางที่ก็ว่าแต่งตัวเหมือนสาวบ้านป่าทั่วๆ ไป ผีนางตะเคียนมักจะเป็นจำพวกหวงที่อยู่ และจะดุร้ายมากหากใครคิดจะรุกรานที่อยู่ของตน
เนื่องจากต้นตะเคียน มีผีนางตะเคียนสิงสู่อยู่ การจะนำเอาต้นตะเคียนมาขุดเป็นเรือ (เรือสมัยก่อนใช้วิธีขุดขึ้นจากต้นไม้ทั้งต้น) หรือนำไม้ตะเคียนมาสร้างบ้าน จำเป็นจะต้องทำพิธีบวงสรวงขออนุญาตจากนางตะเคียนก่อน ทั้งนี้ ...