ผีตายทั้งกลม
อันว่า ผีตายท้องกลม หรือ ตายทั้งกลม มีเฉพาะเพศหญิงเท่านั้น เพราะชื่อนี้หมายถึงผีที่แม่ตายไปพร้อมกับเด็กหรือลูกในท้อง หากคลอดออกมาแล้วแม่ตายแต่เด็กรอด หรือเด็กตายแต่แม่รอด อย่างนี้เรียกผีอย่างอื่น ถ้าเรียกว่าผีตายทั้งกลมแสดงว่าเรียกผิด....บางตำราบอก ที่ถูกต้องควรเรียกว่า ผีตายทั้งกม เพราะคำว่า กม เป็นคำไทยโบราณเก่าแก่ มีหลักฐานในศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่หนึ่ง และก็ มีใช้ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง คือ คำว่า ''กม'' แปลว่า ''ทั้งหมด'' ตายทั้งกมก็แปลว่า ตายทั้งหมด ...
ผีกองกอย
กองกอยเป็นผีป่าชนิดหนึ่งซึ่งมีรูปร่างหน้าตาค่อนข้าง แปลกประหลาด ผีชนิดนี้เวลาออกหากินหรือเดินทางไปไหนๆ ชอบร้อง กองกอย กองกอย บอกเผ่าพันธุ์แ ละประเภทของผีตัวเองให้ชาวบ้าน ชาวเมือง เขารู้เสร็จ เพื่อจะได้ไม่เกิดอาการสับสนหรือคาดเดาให้เสียเวลา ว่าไอ้ตัวที่กำลังเขย่งโหยงๆ มานั้นเป็นผีชนิดใดกันแน่นับเป็นยอดผีนักประชาสัมพันธ์ตัวเองขนานเอกเลยทีเดียว
ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าผีกองกอยมีความเป็นมาอย่างไร และก็ยังไม่เคยมีใครบ้าเลือดบุกเข้าป่าไปขอสัมภาษณ์หรือซักประวัติอย่างเป็น ผีป่าชนิดหนึ่งชอบอาศัยอยู่ในป่าลึกหรือป่าดงดิบ ซึ่งป่านนี้อาจจะสูญพันธุ์ไปพร้อมกับป่าเมืองไทยแล้วก็ได้
ยังมีท่านผู้รู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมไว้อีกว่ากองกอย น่าจะเป็นสัตว์ป่าชนิดหนึ่ง ซึ่งมีพฤติกรรมชอบดูดเลือดผู้อื่น (หมายถึงสัตว์อื่นหรือคนอื่นไม่ชอบดูดเลือดตัวเอง) กินเป็นอาหาร บ้างว่าเป็นพวกเดียวกับผีโป่งค่าง ซึ่งเจ้าผีชนิดนี้มีรูปร่างคล้ายค่างแต่หางสั้นกว่าอาศัยอยู่ตามต้นไม้ใหญ่แล้วก็ชอบดูดเลือดกินเหมือนๆ กัน (ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ในเรื่อง ฝีโป่งค่าง)
เนื่องจากกองกอยค่อนข้างจะเป็นผีแปลกประหลาด ...
ผีโขมด
ผีโขมดนั้นหากตรวจสอบดูจากหลายๆ ตำราจะพบว่าข้อมูลค่อนข้างแตกต่างกันไป และไม่ค่อยมีบทบาทการแสดงสักเท่าไรนัก ไม่ว่าจะเป็นวรรณคดีหรือตำนานใดๆ ผีโขมดก็มักได้แค่ตัวประกอบเท่านั้น
ประวัติความเป็นมาของผีโขมดนั้นไม่ค่อยประจักษ์ชัดนัก คือจู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาเรื่องนี้ฉาก เรื่องโน้นฉาก แล้วก็แวบหายไป เลยไม่รู้ว่าไปทำยังไงเขาถึงได้กลายเป็นผีโขมด ถ้าอย่างผีตายทั้งกลมก็รู้ล่ะว่าคลอดลูกไม่ออกเลยตายหรืออย่างผีนางตานีก็ทราบว่าเพราะมีวิญญาณของผีสาวไปสิงสถิตอยู่ในต้นกล้วยตานีตายทั้งกลม แต่สำหรับผีโขมดนั้นหาที่มาที่ไปไม่ได้เอาซะเลย
บางตำราบอกว่า 'โขมด' เป็นภาษาเขมรแปลตามตัวได้ความเพียงว่าเป็นผีทั่วไป แต่บางตำราบอกว่าเป็นผีที่มีรูปร่างหน้าตาน่ากลัวเหมือนกับผีไม่มีผิด ก็นั่นนะ ซิ...ถ้าไม่ให้เหมือนผีแล้วจะให้เหมือนอะไรมิทราบ อีกตำราบอกว่าผีโขมดนั้นเป็นเพียงดวงไฟลอยวับๆ แวมๆ วูบวาบเป็นดวงโตมองเห็นในเวลากลางคืนโดยเฉพาะในที่ที่มีน้ำฉ่ำแฉะและไม่ทำอันตรายใคร แต่จะคอยลวงให้คนหลงทางหรือเดินผิดทาง เพราะเข้าใจว่ามีคนถือคบไฟเดินนำหน้านำทางให้ครั้งพอเข้าไปใกล้ดวงไปนั้นกลับหายไป มองไปมองมาคราวนี้เห็นลอยอยู่ข้างหน้าบ้างข้างหลังบ้าง ถ้าเจอแบบนี้ไม่ต้องลังเล...อนุญาตให้วิ่งได้เลย เพราะแสดงว่าโดนผีโขมดเล่นงานเข้าให้แล้ว
เนื่องจากมีข้อมูลเกี่ยวกับผีโขมดน้อยเต็มที ...
ผีพราย
พรายนั้นบางตำราว่าเป็นผีพวกเดียวกับนางไม้ ฉะนั้นเรื่องความสาวและสวยรับรองไม่เป็นสองรองใคร และคงจะเป็นผีสาวมากกว่าเพศผู้ ข้อหลังนี่ไม่อยากยืนยันเพราะกลัวจะเมื่อยขาเอาเป็นว่าผู้ชายเราไม่สน... มาว่ากันแต่เรื่องสวยๆงามๆ ดีกว่า.... แม้จะเป็นผีก็ยังอยากชีกอว่างั้นเถอะ
อ้อ...ลืมบอกไป ผีพราย ส่วนใหญ่มีนิวาสถานอยู่ในน้ำมากกว่าบนบก แต่ผีพรายกับพรายน้ำที่ส่องแสงวับๆแวบๆ เวลาต้องแสงไฟตอนกลางคืนนั้นคนล่ะเรื่องเดียวกันแหละตัวเอง
ประวัติความเป็นมาและอิทธิฤทธิ์ของผีพราย ผีพรายนั้นไม่มีประวัติความเป็นมาอะไรมากนัก นอกจากเป็นผีประเภทนางไม้ อย่างที่บอกไว้แต่แรก และชอบอาศัยอยู่ในน้ำ ทำไมถึงชอบไปอยู่ที่นั่นก็ไม่กล้าดำลงไปถามเหมือนกันเดี๋ยวจะไม่ได้กลับขึ้น มาบนบกอีกก็เลยปล่อยให้ความสงสัยยืนยงมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ อย่าไปยุ่งกับเขาเลยจะดีกว่า
รู้แค่พอหอมปากหอมคอก็พอแล้ว อ้อ...อ้อ ..เพิ่งนึกขึ้นได้ ในวรรณคดีไทยเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับผีพรายอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ผีสาวกลับเป็นผีหนุ่มหรือน่าจะเป็นผีผู้พราย (หมายถึงพรายตัวผู้หรือผีพรายผู้ชาย)
คือตอนที่หมื่นหาญนายโจร สั่งให้นางบัวคลี่ลูกสาวของตนวางยาพิษหมายจะใช้เป็นเครื่องมือสังหารลูกเขย ...