บอย สิทธิชัย เคลียร์ เศียรสยอง ถูกจวกยับลบหลู่โขน
เจอกระแสวิจารณ์จากชาวเน็ตค่อนข้างแรงเลยทีเดียว ว่านำโขนซึ่งเป็นศิลปะชั้นสูงของไทยมาใส่ในหนังโดยไม่เหมาะสม สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “เศียรสยอง” ของค่ายอนันตชัยฟิล์ม ที่ได้นักร้อง – นักแสดงหนุ่ม “บอย สิทธิชัย ผาบชมพู” ขึ้นแท่นเป็นผู้อำนวยการสร้าง!!
ซึ่งล่าสุดในงาน “ประทานรางวัล ญาณสังวร” หนุ่มบอยก็ได้ขอพื้นที่สื่อเพื่อออกมาชี้แจงถึงกระแสวิจารณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งยืนยันตนและทีมงานไม่มีเจตนาลบหลู่โขนซึ่งเป็นศิลปะชั้นสูงของไทยอย่างที่หลายคนตีความแน่นอน…
กับกระแสวิจารณ์ภาพยนตร์เศียรสยองที่ออกมา เรามีอะไรจะชี้แจงไหม ?
“ก่อนอื่นผมต้องบอกว่าผมน้อมรับทุกคำติชมนะครับ แต่ในส่วนที่บอกว่าผมลบหลู่เอาครูบาอาจารย์มาเล่น คืออันนี้เขายังไม่รู้เลยว่าเรื่องราวมันเป็นแบบไหน ดังนั้นเราก็จะทำงานกันต่อไป ไม่มีหยุดครับ ไม่มีแก้ไขด้วย”
เนื้อหาหลัก ๆ ในเรื่องเราต้องการนำเสนออะไร ?
“เนื้อเรื่องเกี่ยวกับนาฏศิลป์ 70% ครับ นอกจากนั้นแล้วก็จะมีเรื่องความดิบของมนุษย์ทั้งชายและหญิง ซึ่งตรงนี้เราจะใช้นักแสดงสื่ออกมาในมุมที่ค่อนข้างลึกประมาณนึงเหมือนกันครับ”
กังกลไหมเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วหนังเราจะถูกแบน ?
“ผมคิดว่าไม่น่าถึงขนาดนั้นนะ เพราะผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าคำว่าลบหลู่เอาเศียรมาเล่นมันคืออะไร เนื่องจากหนังของเราไม่ได้เอาเศียรมาเล่น เพราะเศียรเป็นของสูงอยู่แล้ว ยิ่งในบทภาพยนตร์เราเองก็แยกให้เศียรกับผีเป็นคนละพาร์ทกันด้วย และการตายของโขนก็เป็นอีกฟีลหนึ่งครับ”
มีผู้ใหญ่เรียกเราเข้าไปชี้แจงถึงตัวภาพยนตร์เรื่องนี้บ้างไหม ?
“มีครับ เดี๋ยวผมก็จะต้องเข้าไปคุยกับกระทรวงวัฒนธรรมด้วยครับ”
ก่อนถ่ายทำเราได้มีการศึกษาเรื่องของโขนมาก่อนหรือเปล่า ?
“จริง ๆ ชุดที่ใส่คือชุดแท้นะครับ และคนที่แต่งตัวเขาก็เป็นคนที่รำโขนอยู่แล้ว ดังนั้นผมก็เลยไม่รู้ว่าผมไปลบหลู่ตรงไหน เพราะทุกฉากที่เราถ่ายทำ ชุดที่เรานำมาใช้ในหนัง คือจะต้องมีคน 4 คน คอยประกบตลอด ผมไม่ปล่อยให้หลุดเลย”
แต่ที่เขาออกมาวิจารณ์เขาบอกว่า ชุดก็ผิด เพลงก็ผิด ?
“อ๋อ…ใช่ครับ วันนั้นไม่ถูกต้อง เนื่องจากพี่คนที่รำเขาไม่ได้เป็นโขนแต่เขามีอาชีพเป็นลิเกซึ่งเขาเล่นเป็นผีในเรื่อง ส่วนเพลงที่ร้องออกไปมันคือเสภาที่ใช้ร้องในละครเวทีครับ”
กลัวไหมว่าพอหนังฉายแล้วปัญหาตรงนี้จะมีผลต่อรายได้ ?
“ก็กลัวนะครับ แต่ผมยังไม่อยากให้ด่วนตัดสิน ผมอยากให้ทุกคนได้เห็นทีเซอร์กันก่อน แล้วหลังจากนั้นผมเชื่อว่าอะไรมันน่าจะคลี่คลายขึ้น”
เพราะอะไรเราถึงหยิบเรื่องราวเกี่ยวกับโขนมาทำเป็นหนังแนวนี้ ?
“ผมชอบครับ ผมมองว่าแปลกดี และไม่มีใครทำ อีกอย่างมันเป็นความชัดเจนที่ทางค่ายเราวางไว้แต่แรกด้วย เพราะเราอยากที่จะทำหนังผี ซึ่งที่ผ่านมาผีไทยมันก็เยอะแล้ว ผมก็เลยปรึกษาคนเขียนบทจนในที่สุดก็ตัดสินใจว่าจะทำเศียรสยองครับ”
ทำไมเราถึงเลือกที่จะนำโขนมาเล่นในมุมมองที่มันดูน่ากลัว ทั้งที่หลายคนเขาเคารพบูชา ?
“ตัวผมเองก็บูชาครับ เพราะผมไหว้ทุกครั้ง และไม่เคยวางท่านต่ำเลย เวลาอยู่ในกองจะต้องมีโต๊ะวางให้ท่านโดยเฉพาะห้ามนักแสดงเข้าใกล้ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าการลบหลู่มันคืออะไร ผมยอมรับนะครับว่าเป็นศาสตร์ที่สูงอยู่เหมือนกัน แต่ถามว่าภาพยนตร์เป็นศาสตร์ไม่สูงเหรอ ก็สูงนะ ศิลปะการแสดงครับ อีกอย่างที่บอกว่าน่ากลัวอันนี้ผมยืนยันว่าไม่ได้น่ากลัวนะ ผมอยากให้รอดูทีเซอร์กันก่อน”
แต่ภาพโปสเตอร์ที่ออกมาก็ดูน่ากลัว ?
“อันนั้นเข้าใจครับ อีกอย่างในโปสเตอร์เศียรก็อยู่เหนือหัวคนอยู่แล้ว เศียรจะไม่ต่ำกว่าคนเลย ถ้าสังเกตดีเทลดูดี ๆ”
รู้สึกท้อไหมที่ทำหนังเรื่องแรกก็โดนวิจารณ์หนักขนาดนี้ ?
“ผมเอามันมาเป็นแรงผลักดันดีกว่าครับ เพราะมันเป็นปกติอยู่แล้วที่จะมีคนชอบและไม่ชอบ ซึ่งผมก็จะทำงานของผมต่อไปให้ดีที่สุดครับ”
ขอขอบคุณข่าวจาก