news

ชายชาวอเมริกันวัย 90 ปีในมลรัฐฟลอริดาถูกตำรวจจับ ฐานฝ่าฝืนกฎหมายห้ามแจกอาหารให้คนไร้บ้าน โดยเขายืนยันว่าจะทำกิจกรรมการกุศลเช่นนี้ต่อไป แม้ว่าอาจต้องโทษจำคุกนานถึง 60 วันก็ตาม

ตำรวจมลรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯควบคุมตัวนายอาร์โนลด์ แอบบอตต์ ชายวัย 90 ปี ฐานทำอาหารและนำไปแจกให้กับคนไร้บ้านในเขต Fort Lauderdale ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายของมลรัฐฟลอริดา ที่กำหนดไว้ว่า การแจกอาหารให้กับคนไร้บ้านนั้น ต้องทำในพื้นที่ที่อยู่ห่างกันจุดละ 152 เมตรขึ้นไป และต้องเป็นจุดที่อยู่ห่างจากที่พักอาศัยของชาวบ้าน 500 ฟุต

โดยนายแอบบอตต์ ถูกควบคุมตัวพร้อมกับบาทหลวงประจำโบสถ์ท้องถิ่นอีก 2 คน เบื้องต้น ทั้งหมดถูกกักตัวเอาไว้ จนกว่าที่ศาลจะมีคำตัดสินที่แน่ชัด ว่าพวกเขาละเมิดกฎหมายข้างต้นหรือไม่ ซึ่งหากพิสูจน์ได้ว่าทั้งหมดมีความผิดจริง จะต้องถูกปรับเป็นเงิน 500 ดอลลาร์ หรือราว 16,400 บาท และอาจต้องโทษจำคุกนานถึง 60 วัน

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายแอบบอตต์ หรือที่ชาวบ้านมักเรียกเขาว่า “เชฟอาร์โนลด์” พร้อมด้วยนักเคลื่อนไหวเพื่อผู้ยากไร้ ได้มารวมตัวกัน และแจกอาหารให้กับคนไร้บ้านกว่า 100 คน โดยตลอดงานดังกล่าว ตำรวจได้เข้ามาสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด และถ่ายวิดีโอเก็บไว้ และรอจนกระทั่งการแจกอาหารเสร็จสิ้น จึงเข้าควบคุมตัวนายแอบบอตต์ ท่ามกลางความไม่พอใจของกลุ่มคนไร้บ้าน และชาวบ้านโดยทั่วไปที่ร่วมกันตะโกนใส่ตำรวจว่า “หน้าไม่อาย”

อย่างไรก็ตาม นายแอบบอตต์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นบีซี ว่าจะแจกอาหารให้กับคนไร้บ้านต่อไป แม้ว่าเขาอาจจะมีความผิดถึงขั้นติดคุกก็ตาม พร้อมกับเล่าว่า เขาเคยเป็นทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ผ่านมาเขาอุทิศตัวให้กับงานการกุศล และต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองมาตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี

โดยก่อนหน้านี้เขาเคยถูกจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตำรวจบังคับให้เขาวางจานอาหารลง ราวกับว่าเขาถืออาวุธ ขณะที่กรมตำรวจฟลอริดาก็ออกแถลงการณ์ชี้แจงในเรื่องดังกล่าวว่า พวกเขาแค่ปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายควบคุมจำนวนคนไร้บ้านเท่านั้น และต้องรักษาสมดุลของความต้องการของคนทั้งเมืองด้วย ทางด้านชาวบ้านจำนวนหนึ่งก็มองว่า การกระทำของตำรวจไร้ซึ่งมนุษยธรรม และไม่มีความห่วงใยในเพื่อนมนุษย์ พร้อมสนับสนุนกิจกรรมการกุศลของนายแอบบอตต์ต่อไปด้วย


ขอขอบคุณข่าวจาก