ทูลกระหม่อมหญิงฯ ทรงช่วยค่าปรับ คดีหนุ่มเก็บซีดีขาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีหนุ่มพนักงานเก็บขยะถูกดำเนินคดี ฐานเก็บแผ่นซีดีจำนวน 83 แผ่น นำมาวางจำหน่ายต่อที่สีแยกกรุงเทพกรีฑา เป็นคดีดังเมื่อปี 2551 จนกระทั่งล่าสุดศาลฏีกาได้พิพากษายืนยันสั่งปรับเงินจำนวน 133,400 บาท จนกรณดังกล่าวกลับมาเป็นที่สนใจของสังคมอีกครั้ง
ตามรายงานระบุว่า ภายหลังจากที่เมื่อวาน (13 พ.ย.) ศาลฏีกาได้พิจารณาคดีของ นายสุรัตน์ มณีนพรัตน์สุดา อายุ 28 ปี พนักงานเก็บขยะเขตสะพานสูง ที่ถูกจับกุมเมื่อปี 2551 ฐานเก็บแผ่นซีดีลิขสิทธิ์นำมาขายต่อ ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยไม่ใช่ข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย จึงไม่รับวินิจฉัย และคำรับสารภาพรับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ ที่จำเลยฎีกาว่า พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวัสดุวีดิทัศน์ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เห็นว่าเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง จึงไม่รับพิจารณา
ศาลฎีกา จึงพิพากษายืนคำพิจารณาตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษาปรับจำเลยเป็นเงิน 133,400 บาท หลังจำเลยได้รับสารภาพ หากไม่จ่ายให้กักขังแทนค่าปรับเป็นค่าปรับวันละ 200 บาท จำเลยไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ จึงจะถูกควบคุมตัวฝากขังที่สถานกักกัน เพื่อเป็นการกักขังแทนค่าปรับในลำดับต่อไป
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้ รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้รายงานว่า ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการ ทูบี นัมเบอร์วัน และ มูลนิธิมิราเคิล ออฟ ไลฟ์ ทรงมีคำสั่งให้การช่วยเหลือในกรณีดังกล่าว โดยมอบหมายให้ทางมูลนิธิดำเนินการช่วยเหลือเรื่องค่าปรับจำนวน 133,400 บาท ของ นายสุรัตน์ มณีนพรัตน์สุดา ซึ่งเป็นคำพิพากษาของศาลต่อไป
ขอขอบคุณข่าวจาก