คุม สรยุทธ ส่งอัยการ ฟ้องเพิ่มฉ้อโกง-ปลอมเอกสาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (24 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พนักงานสอบสวน สน.พญาไท นำนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง และ กรรมการผู้จัดการ บจก.ไร่ส้ม และ นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือ นางชนาภา บุญโต อดีตพนักงานจัดคิวโฆษณาของบริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาร่วมคดีฉ้อโกง, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอมทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย และทำลายเอกสารของผู้อื่น
พร้อมสำนวนและความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ส่งให้อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 เพื่อมีความเห็นสั่งคดี เนื่องจากกรณีบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของนายสรยุทธ แก้ไขเอกสารและไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลา เป็นผลให้ บมจ.อสมท. เสียหาย 138,790,000 บาท
โดย ทนายความนางพิชชาภา กล่าวว่า ในส่วนของนางพิชชาภา ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการพิจารณาแล้ว เนื่องจากคดีนี้เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีอาญาที่มีคำพิพากษาไปก่อนหน้านี้ และคดีที่ศาลแขวงพระนครเหนือ อีกทั้งพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจดำเนินคดี เพราะนางพิชชาภาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หลังจากนี้ต้องรอพนักงานอัยการมีความเห็นต่อไป
ด้าน นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้พนักงานสอบสวนนำสำนวนคดีที่นายสรยุทธและพวกรวม 4 คนเป็นผู้ต้องหา ส่งให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 พนักงานอัยการได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนไว้เพื่อพิจารณาแล้ว
โดยอธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญามีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานอัยการเพื่อพิจารณาสำนวน 7 คน ประกอบด้วย รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา 3 คน อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 จำนวน 1 คน อัยการเจ้าของสำนวน 2 คน และพนักงานอัยการเลขาคณะทำงาน 1 คน ในวันนี้หลังจากรับสำนวนแล้ว พนักงานอัยการเจ้าของสำนวนจะตรวจสำนวน และประชุมคณะทำงานครั้งแรกในวันที่ 25 พ.ค.
ทั้งนี้ พนักงานอัยการนัดให้ นายสรยุทธ กับพวก มาฟังคำสั่งในช่วงเช้าวันที่ 2 มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ คดีบริษัท ไร่ส้มฯ ยักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาในรายการคุยคุ้ยข่าว ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อสมท. กว่า 138 ล้านบาท ศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา ให้จำคุก นางพิชชาภา 30 ปี ปรับบริษัท ไร่ส้ม จำนวน 1.2 แสนบาท จำคุกนายสรยุทธ และน.ส.มณฑา คนละ 20 ปี
แต่ทางนำสืบเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกนางพิชชาภา เป็นเวลา 20 ปี จำคุกนายสรยุทธและ น.ส.มณฑา คนละ 13 ปี 4 เดือน และปรับบริษัท ไร่ส้มฯ เป็นเงิน 8 หมื่นบาท ไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษจำเลยที่ 1, 3 และ 4 คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ โดยจำเลยทั้ง 3 คนได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์
ขอขอบคุณข่าวจาก