พลอย เหมือนโดนเผาไล่ที่ ปีเตอร์ ประกาศขายบ้านแล้ว
ยังคงเป็นประเด็นคาราคาซังกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับคู่รักคู่ร้าง “พลอย พลอยพรรณ” และ “ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล” เพราะล่าสุดทางด้านของอดีตภรรยาได้ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับการเซ็นใบหย่ายุติสถานะคู่ชีวิตให้บรรดาสื่อฟังว่า ณ ตอนนี้ หนุ่มปีเตอร์ยังไม่ได้มีการติดต่อหรือเข้ามาพูดคุยถึงเรื่องข้อตกลงใดๆ เลย
โดยเฉพาะเรื่องบ้านที่ตนและลูกชายทั้งสอง “แพนเตอร์” และ “พูม่า” อาศัยอยู่ เพราะล่าสุดเจ้าตัวได้ทราบข่าวมาว่า ฝ่ายชายเริ่มโพสต์ประกาศขายบ้านหลังดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยสาวพลอยยังระบุอีกว่า รู้สึกตกใจอยู่เหมือนกันหลังจากทราบข่าว เพราะเหมือนตนเองกำลังโดนเผาไล่ที่ และถ้าหากเป็นไปได้ก็อยากจะซื้อบ้านหลังนี้เก็บไว้เอง เนื่องจากเห็นว่ามีความสะดวก ปลอดภัย และค่อนข้างเหมาะสมกับลูกชายทั้งสองที่จะต้องโตในอนาคต…
ตอนนี้ได้มีการเซ็นเรื่องหย่าแล้วหรือยัง ?
“ยังไม่ได้คุยอะไรเลย ยังไม่ได้หย่าเลยค่ะ ทุกอย่างยังเหมือนเดิมยังเป็นภรรยาอยู่”
แต่เห็นว่าทางเราเองก็ได้แจ้งข้อตกลงแล้ว ?
“ข้อเสนอของพลอยยังไม่มี ตอนนี้รอเขาคุยกับทนายก่อนและถ้าพลอยโอเคที่เขาเสนอมา พลอยก็จะได้ไม่ต้องวุ่นวาย ถามว่าเรื่องนี้มันรบกวนจิตใจไหม ไม่นะคะ แต่มันจะรบกวนการใช้ชีวิตมากกว่า เพราะสัญชาติลูกตอนนี้ก็ยังไม่ได้ทำ ลูกก็ยังออกนอกประเทศไม่ได้”
แสดงว่าตอนนี้เราก็รอเขาอยู่ ?
“พลอยอยากให้เขาช่วยทำเอกสารอะไรต่างๆ ให้ลูกก่อนดีกว่า เพราะตัวพลอยเองไม่ได้ติดอะไรอยู่แล้ว เพียงแต่เรื่องลูกสำคัญที่สุด”
มีแนวโน้มถึงขั้นฟ้องหย่าเลยไหม ?
“ถ้าหากทิ้งเวลามากก็คงต้องทำค่ะ รวมถึงเรื่องฟ้องเพจก็ต้องจัดการด้วย ซึ่งตอนนี้พลอยก็รอเขาอยู่ค่ะ เพราะเขาเป็นพ่อ พลอยก็อยากให้เขาปกป้องลูกด้วยถ้าลูกถูกใครว่า”
ตั้งเวลาไว้ไหมว่าจะให้เวลาอีกแค่ไหน ?
“ช่วงนี้พลอยยุ่งมากจริงๆ ทั้งเรื่องงาน และก็เรื่องครอบครัวค่ะ”
จริงๆ เรื่องเพจที่เราอยากให้ปีเตอร์ดำเนินการ แต่เขายังไม่ทำ เป็นไปได้ไหมว่าส่วนหนึ่งเขาอาจจะห่วงเพื่อนเขา ?
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่พลอยก็ไม่อยากทำอะไรให้มันดูน่าเกลียดมาก และก็ไม่อยากให้มันมีผลกระทบต่อการทำงานของเขา เพียงแค่พลอยอยากให้เขาโชว์ให้เห็นเลยว่างานหรือว่าลูกเขา อะไรสำคัญกว่ากัน”
สำหรับเรื่องที่เขาตั้งใจจะขายบ้านตอนนี้คืบหน้าถึงไหนแล้ว ?
“เขาขายแล้วค่ะ เขาประกาศขายแล้วแต่ยังไม่มีใครสนใจ ซึ่งมันอาจจะเป็นเพราะราคาสูงด้วยมั้ง และตอนนี้พลอยก็ยังอยู่ในบ้านนั้น ยังไม่ได้ย้ายออก แต่เราก็ได้ออกไปดูมาบ้างแล้วเหมือนกัน”
เรารับรู้ใช่ไหมว่าเขาประกาศขาย ?
“จริงๆ เรายังไม่ได้ตกลงอะไรกันเลยค่ะ แต่เขาก็ออกไปประกาศขายแล้ว ถามว่ารู้สึกยังไงบ้าง เอ่อ…มันก็เหมือนโดนเผาไล่ที่นิดหน่อย แต่อย่างที่บอกคือโรงเรียนลูกอยู่ใกล้มาก ความปลอดภัยก็ดี และคือพลอยเห็นลูกสำคัญที่สุด ดังนั้นการดูแลลูก และการเดินทางของลูกที่บ้านนั้นมันง่ายมากจริงๆ”
ตอนนี้เราไปดูบ้านไว้แถวย่านไหนบ้าง ?
“ก็คงไม่ไกลจากเมืองมากค่ะ คือจะมาบอกว่าบ้านเล็กๆ สองหลังก็พอแล้ว จริงๆ ถ้าสำหรับคนเดียว หรือสำหรับเขากับคนอื่น บ้านหลังเล็กๆ มันก็พออยู่แล้ว แต่ของพลอยบ้านหลังเล็กๆ และมีผู้ชายอีกสองคนที่ในอนาคตต้องโตขึ้น บ้านหลังเล็กๆ มันเอาไม่อยู่หรอกค่ะ”
เราได้คิดแผนสำรองไว้ไหมถ้าหากต้องย้ายจริงๆ เราคงต้องย้ายโรงเรียนให้ลูก ?
“มันต้องย้ายอยู่แล้วค่ะ เพราะพลอยไม่อยากให้ลูกต้องมาทนกับปัญหารถติดหรืออะไรก็แล้วแต่ คือผลกระทบมันโดนกับลูกเต็มๆ แต่ถ้าจะให้พลอยมาบอกว่าไม่ขายมันก็ไม่ได้”
เราแอบคิดไหมว่าอยากเก็บบ้านหลังนี้ไว้เอง ?
“พลอยอยากจะซื้อต่อค่ะ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะเอากำไรเยอะหรือเปล่า (หัวเราะ)”
ตกใจไหมเพราะเรายังไม่ได้ตกลงกัน แต่เขาก็ประกาศขายแล้ว ?
“อย่างที่บอกค่ะ รู้สึกเหมือนเดินเผาไล่ที่”
เหมือนเขาจะใจร้ายกับเราเกินไปไหมเพราะเรากับลูกก็ยังอยู่ในบ้าน ?
“แล้วแต่จะคิดกันดีกว่าค่ะ พลอยไม่อยากไปว่าใคร”
น้อยใจไหมเพราะเรามองเรื่องผลประโยชน์ของลูกเป็นหลัก แต่เหมือนเขาไม่ค่อยสนับสนุน ?
“ก็…ตอนนี้พลอยถือว่าพลอยตัวคนเดียว แต่พลอยก็จะพยายามทำทุกอย่างให้เต็มที่ พลอยไม่ได้หวังว่าให้เขาต้องมาช่วย อะไรที่พลอยทำเองได้พลอยก็จะทำเอง ส่วนเรื่องการที่เขาไม่อำนวยความสะดวกอันนี้ก็ไม่เป็นไรค่ะ เราเจออุปสรรคแต่ก็แข็งแรงขึ้น”
ตอนนี้เขากำลังทำงานเก็บเงินเพื่อส่งให้ลูก เขาเริ่มส่งหรือยัง ?
“รอขายบ้านก่อนมั้งคะ ไม่ทราบเลย เพราะเท่าที่พลอยรู้ตอนนี้ก็คือยังไม่มีอะไร และถ้าพลอยพูดอะไรอีกคนก็อาจจะดูฝั่งนั้นน่าเกลียด ใครจะคิดอะไรก็คิดค่ะ แต่ ณ ตอนนี้รายได้ที่พลอยทำงานหนัก พลอยถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ”
เรารู้สึกว่าเราเหนื่อยเพื่อลูกอยู่คนเดียวไหม ?
“เอ่อ…พลอยไม่มองในข้อด้อยตอนนี้นะคะ พลอยขอบคุณลูกมากกว่าที่เขาช่วยทำให้พลอยมีพลัง และทำให้ได้ใช้ความสามารถของตัวเองเต็มที่ เพราะถ้าไม่มีเขาสองคนพลอยคงไม่สามารถทำได้ขนาดนี้ค่ะ”
ขอขอบคุณข่าวจาก