รัฐบาล ขึงขัง ต้องเลือกตั้งให้ได้
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ทบทวนเรื่องการคลายล็อกพรรคการเมือง ในวันที่ 1 มีนาคม ตามคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ที่จะมีการให้พรรคการเมืองใหม่จดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองนั้นว่า
หากพรรคการเมืองใหม่จะเปิดประชุมพรรคจะต้องมีการทำหนังสือขออนุญาตคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ก่อน ส่วนพรรคการเมืองเก่าที่ได้มีการจดทะเบียนไปแล้วจะเริ่มติดต่อสมาชิกพรรคได้ตั้งแต่ในวันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไป ตามกฎหมาย
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ขณะที่การพิจารณาร่างกฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส. และร่างกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม และคาดว่าในเดือนมิถุนายนจะเสร็จสิ้นกระบวนการพร้อมประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา จากนั้นจะมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วันก่อนจะมีการหารือถึงกำหนดวันเลือกตั้ง ที่ใช้เวลา 150 วัน หรือในช่วงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 – กุมภาพันธ์ 2562 ที่การเลือกตั้งอาจจะเกิดขึ้นวันใดก็ได้ในช่วงเวลาดังกล่าว
อย่างไรก็ตามย้ำว่าเดือนมิถุนายน 2561 จะมีการหารือกับพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อปลดล็อกพรรคการเมืองและกำหนดวันเลือกตั้ง พร้อมเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้ประกาศชัดเจนว่าไม่มีนโยบายในการล้มกฎหมายการเลือกตั้ง ยืนยันว่าไม่กระทบต่อโรดแมปการเลือกตั้งอย่างแน่นอนเพราะ คสช. มีความตั้งใจจริงว่าต้องการให้สถานการณ์ทุกอย่างเกิดความเรียบร้อย
ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่นขณะนี้กระทรวงมหาดไทย มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งภายหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ใน 45 วัน
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่านายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมถึง ครม.สัญจรที่จังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดเพชรบุรี ในวันที่ 5 – 6 มีนาคม นี้ หลังพบว่าที่ 2 จังหวัดนี้ยังคงมีปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายและปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย ที่แม้ว่าไทยจะถูกยกอันดับจากเทียร์ 3 มาเป็นเทียร์ 2 เฝ้าจับตา
โดยรัฐบาลยังไม่พอใจที่ถูกจับในอันดับนี้และต้องการแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาใช้แรงงาน ที่จะต้องดูแลด้านคุณภาพชีวิตและสวัสดิการของแรงงานต่างด้าว
ทั้งนี้ พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า นอกจากนี้ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำความเข้าใจกับสังคม พร้อมขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวถึงกระบวนการขนแรงงานผิดกฎหมายและการจับกุมผู้ที่กระทำผิด ไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่เป็นข้าราชการที่ทำความผิด รวมถึงผู้ที่ได้รับการลงโทษด้วย เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหานี้ไม่ใช่ในเชิงของป้องกันเพียงอย่างเดียว
อย่างไรก็ดีได้มีการหารือกันใน ครม. ให้นำกฎหมายนี้เข้าที่ประชุม ครม. สัญจร ที่จังหวัดเพชรบุรีเพื่อพิจารณาให้เสร็จสิ้นให้ได้ และฝากเจ้าหน้าที่ช่วยทำความเข้าใจรายละเอียดของกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้แรงงานและนายจ้างเข้าใจตรงกัน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้แสดงความเป็นห่วงว่า อาจมีการบิดเบือนกฎหมายดังกล่าวเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่แรงงานต่างด้าวและอาจมาแย่งงานคนไทยทำ โดยขอให้คนไทยเข้าใจว่ากฎหมายฉบับนี้แรงงานไทยยังได้รับการคุ้มครองตามสิทธิประโยชน์ต่างๆในการใช้แรงงานอยู่
โดยหลังประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ ยังออกมาให้สัมภาณ์กับสื่อมวลชน ยืนยันว่าไม่เคยคิดล้มกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับสุดท้าย โดยทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ และเมื่อประกาศใช้กฎหมายทั้ง 2 ฉบับในเดือนมิ.ย. ก็จะเรียกประชุมแม่น้ำ 5 สายพร้อมกับพรรคการเมืองทั้งหมด
ดังนั้นตามกรอบเวลาการเลือกตั้งจะจัดขึ้นไม่เกินเดือน ก.พ. ปี 2562 แน่นอน โดยขอร้องสื่อมวลชนว่าอย่าถามอีก เพราะพูดชัดแล้ว ส่วนการปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม ต้องดูสถานการณ์บ้านเมือง ว่าปลดล็อกแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้หาเสียงด้วยความสงบ เพราะส่วนตัวก็อยากให้มีการเลือกตั้ง แต่หากใครยังมองว่าตนอยากอยู่ต่อ ก็ไม่ขอคุยด้วยแล้ว
ขอขอบคุณข่าวจาก