หลวงปู่เผยเหตุผล ห้ามเก็บกระดูกเหยื่อทัวร์ 18 ศพ ไม่ใช่แค่เรื่องอาถรรพ์
หลวงปู่หนูอินทร์ เกจิดังภาคอีสาน เผยข้อห้ามไม่ให้เก็บกระดูกผีตายโหงก็เพื่อลดอาถรรพ์ตามความเชื่อโบราณ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในกุศโลบายให้ญาติมีเวลาทำใจต่อการจากไป
(26 มี.ค.) เวลา 16.00 น. นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานฌาปนกิจศพ นางเรียน ธารวาวแวว ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ที่เมรุวัดดงกระยอมอุดมคุณ ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ และทำการฌาปนกิจศพ นายวิรุฬห์ ตะก้อง ผู้เสียชีวิตจากเหตุรถทัวร์มรณะเป็นรายสุดท้าย ที่เมรุวัดชัยสุนทร อ.เมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า โดยมีญาติพี่น้องเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
ด้าน พระราชศีลโสภิต หรือหลวงปู่หนูอินทร์ เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธมงคล เกจิชื่อดังภาคอีสาน กล่าวว่าการเผาแบบกองฟอนนั้นหายไปนานแล้วเพราะความเจริญ แต่ในอดีตก็จะเผากันแบบนี้ แต่ทุกวันนี้มีเมรุเผาศพก็เลยไม่ต้องเผากองฟอน ซึ่งในกรณีเมื่อวานนี้ที่มีการเผาศพเหยื่อรถทัวร์มรณะบนกองฟอน 14 ศพ เนื่องจากเมรุที่จะเผาไม่พอ จึงได้ตัดสินใจเผากลางแจ้ง แต่ในครั้งโบราณกาลตามความเชื่อจริงๆนั้น คนที่ตายโหหรือตายผิดปกตินั้น จะไม่นิยมเอาเข้าบ้าน แต่จะเอามาไว้ที่วัด เพราะถือว่าเป็นผีที่เฮี้ยนและแข็ง
“การเผาพร้อมกันนอกจากจะเป็นความสะดวกแล้ว ก็ยังเป็นการแก้เคล็ดตามความเชื่อของคนโบราณ โดยเฉพาะเหตุผลของการไม่ให้เก็บกระดูกนั้น จริงๆแล้ว เพราะเกรงว่ามีความร้อนในกองฟอน จึงต้องใช้เวลาให้เพลิงที่เผาเถ้ากระดูกสงบก่อน อีกทั้งก็เป็นกุศโลบายของคนโบราณเพื่อให้เวลาแก่ญาติผู้เสียชีวิตได้ทำใจ มีความเข้มแข็งที่จะอยู่ต่อไปด้วย”
นายสุรพัฒน์ สุชัย กำนันตำบลห้วยโพธิ์ กล่าวว่า ถือเป็นความเชื่อสมัยโบราณ เมื่อทำการเผาศพบนกองฟอนต้องรอ 3 วัน ถึงจะทำการเก็บกระดูกไปทำบุญต่อไปได้ ซึ่งทางญาติของผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ส่วนสภาพจิตใจของญาติผู้เสียชีวิตก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากชาวบ้านได้ช่วยกันมาให้กำลังใจกันตลอดทั้งวัน แต่คงใช้เวลาในการปรับสภาพจิตใจให้ดีขึ้นมา ส่วนคนขับรถทัวร์ก็อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะคนขับเสพยาบ้าในขณะขับรถ และขับรถโดยประมาท จึงทำให้เกิดความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่
ทั้งนี้ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการตรวจสอบรายละเอียดผู้รับสินไหมทดแทนจากประกันภัยรถยนต์ ซึ่งหลักการจะเป็นการจ่ายให้กับทายาทโดยธรรม โดยเฉพาะพ่อแม่ หรือลูกของผู้เสียชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่ หากไม่มีก็จะเรียงลำดับไปตามชั้นของทายาท และชัดเจนว่าจะจ่ายให้กับผู้เสียชีวิตรายละ 650,000 บาท
ขณะที่ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีทีมงานสอบสวนของจังหวัดนครราชสีมา เข้ามาสอบปากคำญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 18 คน รวมไปถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งในส่วนของค่าความเสียหายในการเรียกร้องเป็นเรื่องของคดีแพ่ง แต่ในส่วนของอาญา ทั้งคนขับรถ และผู้ประกอบการ ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ขอขอบคุณข่าวจาก