เปิดใจ 3 พ่อแม่ลูกหมดสติคาเก๋ง อยากให้เคสนี้เป็นอุทาหรณ์ทุกคน
3 พ่อแม่ลูกหมดสติคารถยนต์ เปิดใจอยากให้เป็นเคสอุทาหรณ์ให้คนใช้รถทางไกล แพทย์ระบุสาเหตุที่แท้จริงของอาการทั้งหมด
จากกรณี 3 พ่อแม่ลูกประสบเหตุหมดสติระหว่างทางขับรถยนต์ บนทางด่วนบูรพาวิถี ฝั่งขาเข้าเมืองชลบุรี มีอาการเกร็งและร่างกายสั่นเทา อีกทั้งน้ำลายฟูมปาก ตาค้าง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าให้ความช่วยเหลือและรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลได้ไว้ทันท่วงที
ต่อมาได้ประสานส่งต่อไปยัง รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยในเบื้องต้นแพทย์ได้ตรวจดูอาการผู้ป่วยแล้ว น่าจะเกิดจากการสูดดมแก๊สจากท่อไอเสียที่เข้าไปในรถยนต์เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดอาการหมดสติ ตามข่าวที่รายงานไปแลวนั้น
ล่าสุดแพทย์ให้การรักษาในเบื้องต้นก่อนนำเข้ารักษาด้วยออกซิเจนความดันสูง (Hyper baric Oxygen Therapy / HBOT) เป็นการบำบัดด้วยวิธีหายใจด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% ภายในห้องปรับบรรยากาศสูง (Hyperbaric Chamber หรือ ห้องแชมเบอร์ เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกายของผู้ป่วยได้มากกว่าภาวะปกติที่ความดันบรรยากาศปกติหลายเท่า
โดยการรักษานี้เป็นการรักษาเสริมหรือเพิ่มเติม อีกวิธีหนึ่งที่ใช้ร่วมกับการรักษาทางอายุรกรรมและศัลยกรรม เป็นการเพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกายใช้เวลาในการรักษาภายในห้องปรับบรรยากาศ ประมาณ 2 ชั่วโมง ล่าสุดอาการของ 3 พ่อแม่ลูกพ้นขีดอันตรายแล้ว
>> หวิดสลด เก๋งมีกลิ่นไหม้-พ่อประคองรถจอดทัน ก่อนหมดสติไปทั้งพ่อแม่ลูก
นายธนัยนันท์ อายุ 31 ปี เปิดเผยว่า ตนอยากให้กรณีที่เกิดขึ้นกับตนเองเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนน ส่วนสาเหตุคงต้องให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสืบค้นต่อไป ตอนเกิดเหตุตนได้กลิ่นลักษณะคล้ายควันจากท่อไอเสียภายในรถ แต่ก็ยังฝืนขับรถต่อไป เกือบประมาณ 1 ชั่วโมง กระทั่งรู้สึกตัวว่าจะไม่ไหวแล้ว จึงได้จอดรถเข้าข้างทาง ก่อนจะสะกิดเรียกภรรยานั่งข้างๆ หลังจากนั้นตนก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย
ขณะที่ น.ส.จิตรารัตน์ อายุ 26 ปี ภรรยา กล่าวว่าในขณะเกิดเหตุได้กลิ่นคล้ายกลิ่นก๊าซ แต่ไม่ทราบว่าก๊าซอะไร ทำให้รู้สึกเหมือนขาดอากาศหายใจจนหมดสติไปโดยไม่รู้สึกตัว ตื่นขึ้นมาอีกทีมานอนอยู่โรงพยาบาลบางปะกงแล้ว ส่วนลูกสาวนั้นนอนหลับอยู่ก่อนแล้วที่เบาะด้านหลัง นับว่ายังโชคดีที่สามียังประคองสติเอาไว้ จึงได้ขับรถเข้าข้างทางก่อน มิเช่นนั้นไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น
นายแพทย์ธวัชชัย ศานติพัฒน์ แพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ กล่าวว่า ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว โดยวันที่เกิดเหตุ ผู้ป่วยหญิงมีอาการชัก หมดสติ เมื่อได้สติกลับคืน ก็รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน มีอาการอ่อนแรง
ส่วนผู้ป่วยชาย อายุ 31 ปี รู้สึกคลื่นไส้อาเจียน และผู้ป่วยเด็กหญิง อายุ 7 ปี หมดสติอยู่ในรถ ผลตรวจสอบทั้ง 3 คน มีสารคาร์บอนมอนอกไซด์ไปเกาะเม็ดเลือด ทำให้เลือดไปส่งตามร่างกายไม่ได้ ผู้ป่วยจึงหมดสติไป ขณะที่ล่าสุดทุกคนรู้สึกตัวดี รับประทานอาหารได้ แพทย์จะประเมินอาการอีกครั้ง น่าจะอนุญาตกลับบ้านได้เร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตามข้อแนะนำสำหรับใครที่สูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ควรจะต้องถึงมือแพทย์ภายใน 6 ชั่วโมง แพทย์จะมีการตรวจผ่าน ห้องความดันบรรยากาศสูง เป็นเครื่องตรวจสอบโดยเฉพาะ จะสามารถไล่ความดันคาร์บอนมอนอกไซด์ออกจากร่างกายได้
ขอขอบคุณข่าวจาก