เปิดบ้านเรือนไทยไม้สัก “เขยโหด 5 ศพ” ทุ่มสร้าง 10 ล้าน ญาติลั่นไม่อยู่-ปล่อยร้าง
ญาติๆ ประกาศไม่ขออยู่ บ้านเรือนไทยไม้สัก เรือนหอของ “เขยโหด 5 ศพ” หลังทุ่มสร้างกว่า 10 ล้านบาท หวั่นพ้นโทษจากคุก…แล้วเผาล้างแค้น
ความคืบหน้ากรณี นายธีรพล หรือ ปุ๊ อายุ 39 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืน 9 มม. ยิงภรรยาตัวเอง และคนในครอบครัวภรรยาเสียชีวิต รวม 5 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ก่อนจะหลบหนีไป เมื่อวันที่ 13 มกราม 2562 ในเขตพื้นที่ สภ.พญาแมน จ.อุตรดิตถ์ และต่อมาถูกจับได้ที่ จ.ระนองนั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว นายธีรพลผู้ต้องหาคดีฆ่ายกครัว 5 ศพ ไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
นายธีรพล บอกว่ามูลเหตุครั้งนี้ มาจากความโกรธแค้นครอบครัวของภรรยา ที่กดดันให้เลิกกัน ทั้งยังไม่ยอมคืนทรัพย์สินให้ โดยในวันเกิดเหตุเป็นการถกเถียงเรื่องการโอนสมบัติกลับคืนมาจริง โดยพ่อตาพูดว่า “อยากได้ให้มาฟ้องเอา” ประกอบกับถูกอ้อม ภรรยาต่อว่า อีกทั้งระหว่างที่เกิดเหตุ นายเอกราช สามีของนางสุ ยังใช้ปืนยิงสวนมาอีกด้วย โดยหลังจากไล่ยิงนายเอกราช และนางสุ เรียบร้อยแล้ว กลับมาพบว่าภรรยายังไม่ตาย ทั้งยังพูดว่า “เอาสิ ถ้าจะยิงก็ยิงเลย” จึงลั่นไกยิงภรรยาอีกครั้ง
>> ตำรวจเปลี่ยนแผน คุม “เขยฆ่า 5 ศพ” ทำแผนหลังสถานี หวั่นญาติรุมประชาทัณฑ์ (มีคลิป)
จากนั้น นายปุ๊จึงขับรถไปทีบ้านของนางน้ำผึ้ง แม่ยาย ซึ่งขณะนั้น นางน้ำผึ้ง นางน้ำผา และเพื่อนบ้านอีก 2 คน คือ นายกุ้งและนายเกียง กำลังนั่งดื่มเบียร์ด้วยกันอยู่ โดยระหว่างที่นายปุ๊ บุกยิงนั้น นายเกียงกระโดดหนีออกนอกหน้าต่าง ส่วนนายกุ้งแกล้งตาย จากนั้นนายปุ๊จึงออกมายิงนางกนกวรรณเป็นศพสุดท้าย
จากนั้น ผู้สื่อข่าวเดินทางจึงเดินทางมาที่บ้านเรือนไทยที่ นายธีรพล สร้างไว้เป็นเรือนหอให้กับตัวเองและภรรยา โดยบ้านเรือนไทยหลังนี้ ตั้งอยู่ภายในหมู่ 1 ซึ่งเป็นที่ดินเดิมของพ่อตา
จากการสังเกตพบว่า บ้านเรือนไทยมีพื้นที่ราว 100 ตารางวา โดยมีเสาจากไม้สักที่ใช้ในการก่อสร้างจำนวน 25 ต้น ภายในบ้านแบ่งออกเป็น ห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 2 ห้อง และห้องพระอีก 1 ห้อง มีการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ อาทิ ตู้โชว์ เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า และเฟอร์นิเจอร์ชุดรับแขกที่ทำด้วยไม้ 1 ชุด เครื่องปรับอากาศจำนวน 2 เครื่อง ซึ่งบ้านหลังนี้ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จไปกว่า 80 เปอร์เซนต์
นายนัน ลุงของนางสาวอ้อม กล่าวว่า นายปุ๊ได้มาสร้างหลังนี้ไว้ตั้งแต่กลางปี 2561 โดยมาบอกพ่อตาว่าจะขอสร้างบ้านหลังใหม่ให้พ่อตา ซึ่งขณะทำการก่อสร้าง ชาวบ้านในละแวกนี้ก็ต่างมาดู สร้างความตื่นตาตื่นใจ เพราะบ้านแถวนี้ไม่มีใครที่จะสร้างบ้านหลังใหญ่โตเท่านี้มาก่อน สำหรับราคาบ้านเรือนไทยหลังดังกล่าว ตนเชื่อว่าอาจมีราคา 10 ล้านบาท โดยนายปุ๊เต็มใจที่จะซื้อและจ่ายด้วยเงินสด เนื่องจากเขาตั้งใจเอาเป็นเรือนหอของตัวเอง และคิดว่าจะอยู่ที่นี่กับภรรยาจนถึงบั้นปลายชีวิต
นายนัน กล่าวต่อว่า ภายในบ้านมีห้องนอนถึง 3 ห้อง นายปุ๊ตั้งใจว่าห้องแรกจะให้พ่อตาแม่ยายนอน ห้องที่สองเป็นเจ้าตัวกับนางสาวอ้อมนอน ส่วนอีกห้องตั้งใจให้น้องมด ลูกชายติดภรรยาของอ้อมนอน เพราะเขารักลูกติดค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ ช่วงที่มีปัญหารุนแรงกับนางสาวอ้อม ทรัพย์สินที่นายปุ๊ทวงคืนไปส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ สร้อยคอทองคำ แต่บ้านหลังนี้ ตนไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงว่าเขาจะเอาคืน ซึ่งทางญาติยังไม่มีการพูดคุยกันว่าทรัพย์สมบัติตรงนี้จะยกคืนให้ครอบครัวนายปุ๊หรือไม่ เพราะเหตุเพิ่งเกิดขึ้น คงต้องคุยกันอีกครั้งหลังจัดงานฌาปนกิจศพ
อย่างไรก็ตาม หากครอบครัวของนายปุ๊อยากได้ทรัพย์สินคืน ทางญาติก็ยินดีจะคืนให้ ไม่มีใครอยากมีจิตใจอยากได้ของนายปุ๊แล้ว เพราะเงินที่นายปุ๊นำมาสร้างบ้าน ตนไม่มั่นใจว่าเป็นเงินบริสุทธิ์หรือไม่ อีกทั้งเมื่อเกิดเหตุดังกล่าว ก็ไม่มีใครอยากมาอยู่บ้านหลังนี้อีก เนื่องจากเกรงว่านายปุ๊จะสั่งคนมาเผาหรือเอาระเบิดมาปา ญาติพี่น้องต่างก็ต้องหวาดระแวง เพราะชีวิตทุกคนมีค่ามากกว่าบ้านหลังนี้
ขณะที่ นางกล่อม (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า เมื่อก่อนนี้บ้านของนายวิรัตน์ เป็นเพียงบ้านไม้หลังเก่า กระทั่งช่วงนายปุ๊มาสร้างบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัวนี้ได้ราว 3-4 เดือนแล้ว โดยยกบ้านเรือนไทยมาประกอบในที่ดินเดิม ซึ่งตนรู้จักนายปุ๊ แต่เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนนิสัยไม่ดี หากเดินเข้ามาในชุมชนก็มีแต่คนเกรงกลัว นิสัยห้าว หากยิ่งดื่มสุราก็มักจะอาละวาด ด่าคนนั้นคนนี้ทำนองว่า “ใครนินทากู เดี๋ยวกูจะยิงปาก”
โดยเขามีนิสัยเหมือนคนบ้า ชอบถือปืนตลอดเวลา บางคนแค่มองนายปุ๊เดินผ่านไปมา นายปุ๊ก็จะพูดตะคอกใส่ว่า “มองอะไรกัน มีปัญหาอะไร” ทั้งที่เป็นไม่รู้จักกัน โดยช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา แถวบ้านตนมีการจัดงานเลี้ยง และพบว่ามีบ้านที่กินเลี้ยงเสียงดัง จุดประทัดและเปิดเพลงร้องกัน ทำให้นายปุ๊ไม่พอใจ โยนลูกบอลปาใส่บ้านนั้น และยิงปืนขึ้นฟ้า
นางกล่อม กล่าวต่อว่า ภายหลังจับกุมตัวนายปุ๊ได้แล้ว ชาวบ้านแถวนี้ต่างก็รู้สึกดีใจ เพราะช่วงเกิดเหตุ ถึงตอนเย็น ทุกคนต่างก็ปิดบ้านหนี เกรงว่าเขาจะกลับมาก่อเหตุอีก ตอนนี้ตนเองก็อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการลงโทษประหารชีวิต แล้วหากญาตินายปุ๊จะไปประกันตัว ตนคิดว่าชาวบ้านแถวนี้ คงออกไปทำมาหากินกันไม่ได้แล้ว เพราะกลัวนายปุ๊มาก
ขอขอบคุณข่าวจาก