news

 

เมื่อเวลา 19.00 น. (14 มี.ค.62) ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ถนนชัยพฤกษ์ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายประสิทธิ์ อายุ 45 ปี อาชีพกรรมกรก่อสร้าง และ น.ส.ประหยัด อายุ 31 ปี สัญชาติลาว พร้อมครอบครัวจะยื่นเรื่องต่อ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้เป็นตัวแทนเอาผิดโรงพยาบาลย่านนนทบุรีหลัง เด็กหญิงปริยา บุตรสาววัย 2 ขวบ เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจจากเม็ดมะขามอุดตันหลอดลม ภายหลังเข้ารับการรักษาตั้งแต่คืนวันที่ 11 มี.ค.62 เวลา 19.30 น. ซึ่งเด็กยังพูดวิ่งเล่นได้จนเวลา 17.00 น.ของอีกวันที่ 12 มี.ค.62 เด็กมีอาการโคม่าและเสียชีวิตในเวลา 03.40 น. โดยยังไม่มีคำอธิบายถึงสาเหตุการเสียชีวิต ญาติคาใจทำไมโรงพยาบาลไม่ผ่าตัดเอาเม็ดมะขามออกให้เร็วกว่านี้ ทั้งที่ถึงมือหมอเกือบหนึ่งวันก่อนอาการทรุดหนักจนเสียชีวิต

ที่วัดส้มเกลี้ยง ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี บรรยากาศงานสวดอภิธรรมศพของ เด็กหญิงปริยา หรือ น้องทับทิม บุตรสาววัย 2 ขวบ พ่อและแม่ได้ตั้งสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 3 ทั้งพ่อแม่และญาติยังคงโศกเศร้าเสียใจและทำใจไม่ได้กับการจากไปของน้องที่อายุยังน้อย และในวันพรุ่งนี้ นายประสิทธิ์และภรรยา จะเดินทางเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.นนทบุรี เพื่อขอความเป็นธรรมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นจะเดินทางไปที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ร้องขอให้ทำการชันสูตรพลิกศพใหม่ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่

นายประสิทธิ์ อายุ 45 ปี พ่อน้องทับทิม กล่าวว่า ขณะที่ลูกเกิดเหตุตนไม่ทราบเรื่องราวเพราะว่าตนทำงาน แฟนเป็นคนพาลูกขึ้นแท็กซี่ไปโรงพยาบาลเนื่องจากลูกสาวกินเม็ดมะขามไปครึ่งซีกและอุดหลอดลม พอตนได้รับแจ้งจากแฟนว่าเกิดเหตุดังกล่าวตนก็รีบเดินทางไป รพ.ลูกยังเดินและซนได้ปกติ หมอได้ทำการตรวจเรียบร้อยและให้พากลับบ้าน แต่ตนฟังเสียงลมหายใจของลูกว่ายังหายใจไม่สะดวก ตนและแฟนจึงตัดสินใจให้ลูกอยู่ต่อ คนขับแท็กซี่ยังช่วยพูดกับหมอให้น้องอยู่ต่อ หมอเอกซเรย์ไม่พบเม็ดมะขาม แต่ตนก็ยังไม่กลับนอนดูอาการอีกหนึ่งคืน ช่วงเช้าหมอบอกว่าจะส่องกล้องดู ส่วนตนได้ไปเดินเรื่องเอกสารเพราะทาง รพ.คิดว่าเป็นเด็กหญิงชาวลาว แต่ลูกตนเป็นคนไทยได้สิทธิ์การรักษา จากนั้นตนได้ไปทำงานต่อ

เวลา 14.00 น. วันที่ 12 แฟนบอกว่าหมอเอาลูกเข้าห้องไปเพื่อส่องกล้อง ตอนนั้นลูกยังอาการดีอยู่ แต่เมื่อตนมาถึงโรงพยาบาลหมอได้เอาลูกเข้าห้องผ่าตัดแต่หมอบอกว่าเครื่องมือไม่พอ ให้ย้ายโรงพยาบาลไปที่ศิริราช แต่รอคำตอบจากทาง รพ.ศิริราช ตอน 19.00 น. ทางโรงพยาบาลให้ตนเซ็นว่าถ้าน้องย้ายโรงพยาบาล ระหว่างทางจะไม่รับผิดชอบ ตนจึงไม่ย้ายหลังจากนั้นเวลาประมาณ ตี 3 เครื่องมือในโรงพยาบาลดัง มีการวิ่งตามหาหมอไม่เจอ เรียกอยู่ประมาณ 2 ครั้งหมอจึงตื่นและได้รีบวิ่งเข้าไปในห้องทำการปั๊มหัวใจ ประมาณ 30 นาทีจึงออกมาแจ้งว่าน้องเสียชีวิตแล้ว

ผลแพทย์แจ้งว่าเม็ดมะขามไปอุดหลอดลมจึงขาดออกซิเจนไปประมาณ 20 นาที เมื่อวานตนได้ไปแจ้งความ วันนี้เดินทางไปศูนย์ดำรงธรรมและโทรหาทนายรณรงค์ และหน่วยงานรัฐที่พอจะช่วยตนได้ วันไปรับศพน้องตนไม่ได้เตรียมอะไรไปแต่หมอก็ให้รับศพออก วันนี้ตนจะร้องเอาผิดหมอเจ้าของไข้ที่ปล่อยปะละเลยทำให้ลูกตนเสียชีวิต ทาง รพ.ไม่มีการรับผิดชอบอะไร ขอเอกสารอาการและการรักษาก็ไม่ให้ ตนคิดว่าลูกตนไม่สมควรจะเสียชีวิต เพราะถ้าหมอทำหน้าที่อย่างเต็มที่ พยาบาลไม่เล่นโทรศัพท์จนเกินเหตุ ต้องตามหาหมอเจอ หมอจะหนีคนไข้ได้ยังไงคนไข้ยังโคม่าอยู่ ช่วงแรกตนกับแฟนจะเอาลูกไป รพ.เอกชนแต่หมอมากล่อมเราให้อยู่ แต่หมอไม่ทำอะไรเลย

น.ส.ประหยัด อายุ 31 ปี สัญชาติลาว แม่น้องทับทิม กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ในครัว และเปิดประตูหลังบ้านไว้ ลูกก็เดินไปเดินมาและไปเก็บเม็ดมะขามมา 1 เม็ด ตนไม่รู้ว่าลูกไปหยิบมาจากไหน หลังเกิดเหตุตนได้พาลูกไปคลินิก แต่ไม่มีหมออยู่ทางคลินิกให้ไปโรงพยาบาล ตนจึงนั่งแท็กซี่ไปโรงพยาบาล เด็กมีอาการเหนื่อยตนบอกแท็กซี่ให้ไป รพ.ที่ใกล้ที่สุด คนขับแท็กซี่ไปเดินเรื่องให้ ถามถึงชื่อตนและเด็ก ซึ่งตนเป็นสัญชาติลาว แต่ลูกเป็นสัญชาติไทย แต่ทาง รพ.ลงสัญชาติให้เด็กเป็นสัญชาติลาว จากนั้นพยาบาลได้เอาเด็กไปวัดความดันและลูกตนได้อาเจียนออก อาการก็ดีขึ้นแต่ตนกังวล พยาบาลบอกว่าไม่ต้องกังวลเพราะตัวยังไม่เขียว หลังจากนั้นพยาบาลได้เอาลูกตนไปเอกซเรย์แต่ไม่พบเม็ดมะขาม แต่ตนเห็นว่าลูกยังหายใจไม่สะดวกจึงให้รักษาต่อ ส่วนเม็ดมะขามที่แตกนั้นเป็นเม็ดมะขามคั่ว น้องกัดแตกครึ่งหนึ่ง

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า ทางทีมงานได้แจ้งตนว่ามีเคสนี้เกิดขึ้นตนจึงได้สอบถามว่าเกิดขึ้นนานหรือยัง ปรากฎว่าศพน้องยังตั้งอยู่ที่วัด ตนได้ให้ไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมแต่ไม่ทัน ตนจึงได้ให้ครอบครัวนี้มาหาตนเพื่อสอบถามว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร หลังดูรายละเอียดพบว่าน้องมา รพ.ตั้งแต่วันอาทิตย์ตอน 19.30 น. และรักษาตัวจนมาเสียชีวิตเวลา 03.00 น.วันจันทร์ แสดงว่าอยู่โรงพยาบาลเป็นจำนวนหนึ่งวันเต็มและเด็กก็ยังสิ่งเล่นได้ปกติ สาเหตุอะไรทำให้เด็กเสียชีวิต คงต้องไปถามที่ รพ.ว่าเกิดอะไรขึ้น ทางญาติมีสิทธิ์ที่จะทราบสาเหตุการตาย ตอนนี้ศพเด็กแช่เย็นอยู่จะต้องทำการชันสูตรใหม่ สาเหตุการตายที่แจ้งในใบมรณบัตรคือเม็ดมะขามติดหลอดลมจนเสียชีวิต ตนไม่ทราบว่าในการรักษาเกิดอะไรขึ้น ต้องดูในขั้นตอนการรักษามีอะไรผิดผลาดไหม ล่าช้าไหม หรือมีปัจจัยอื่น นั่นแปลว่ากระทรวงสาธารณสุขจะต้องตรวจสอบเรื่องนี้ พรุ่งนี้จะให้ทำตามขั้นตอนร้องศูนย์ดำรงธรรม และไปถามความคืบหน้าที่ รพ.หลังจากนั้นจะเอาศพน้องไปชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตรใหม่อย่างละเอียด


ขอขอบคุณข่าวจาก