news

 

ชายผู้ลี้ภัยถูกยกย่องให้เป็นวีรบุรุษในเหตุกราดยิงมัสยิด 50 ศพที่นิวซีแลนด์ หลังเขาเข้าขัดขวางคนร้าย ไม่ให้เกิดความสูญเสียมากกว่านี้ ทั้งที่มีแค่เครื่องรูดบัตรเครดิตถือติดมือไป

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจและยกย่องวีรกรรมของชายผู้ลี้ภัย ที่กลายเป็นฮีโร่ในเหตุโศกนาฏกรรมกราดยิงมัสยิด 50 ศพในเมืองไครสต์เชิร์ช กับการเข้าขัดขวางคนร้ายในก่อเหตุ เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียเพิ่มขึ้นไปกว่านี้ แม้ว่าตัวเองเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดก็ตาม

“อับดุล อาซิซ” ผู้ลี้ภัยชาวอัฟกานิสถาน อายุ 48 ปี ผู้ที่ถูกยกย่องให้เป็นวีรบุรุษในเหตุการณ์กราดยิง 50 ศพ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 มี.ค.) ในเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก เขาคือคนที่เผชิญหน้ากับ “เบรทตัน ทาร์แรนท์” ผู้ก่อเหตุที่ด้านนอกมัสยิดแห่งที่ 2 ที่คนร้ายได้ก่อเหตุ

อาซิซ ได้เล่าให้กับสำนักข่าวเอเอฟพีฟังว่า ตอนเกิดเหตุเขาอยู่ด้านนอกมัสยิด เห็นมือปืนที่กำลังเข้าก่อเหตุ เขาจึงวิ่งติดตามไป ทั้งที่ในมือของเขามีแค่เครื่องอ่านเครดิตการ์ดที่ถือเอาไว้เท่านั้น ปรากฏว่าระหว่างทางเขาเห็นอาวุธปืนลูกซองพกสั้นของคนร้ายที่โยนทิ้งไว้ หลังจากที่ทำการยิงจนกระสุนหมด เขาจะหยิบปืนไร้กระสุนขึ้นมา แล้วเข้าทุบกระจกรถของคนร้ายให้แตก กลายเป็นจุดสังเกตทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไล่ล่าได้

“ช่วงเวลานั้นคุณไม่มีเวลาคิดอะไรมากหรอก แต่ถ้าหากจะต้องคิด ก็คิดทำในสิ่งที่คุณควรจะทำ ผมก็แค่อยากจะช่วยชีวิตคนอื่นให้ได้มากที่สุด แม้ว่าผมอาจจะต้องแลกชีวิตตัวเองไปด้วยก็ตาม” อาซิซ กล่าว

ในช่วงที่เกิดเหตุ อาซิซ กับ ลูกชาย 4 คน เข้าพิธีละหมาดอยู่ภายในมัสยิดแห่งที่ 2 ที่เกิดเหตุ เมื่อเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ทุกคนนึกว่าใครมาเล่นพิเรนทร์จุดประทัดในละแวกนี้ อาซิซจึงได้ออกไปหาตัวการที่นอกมัสยิด โดยที่ในมือถือเครื่องอ่านเครดิตการ์ดไปเท่านั้น ก่อนเขาจะเผชิญหน้ากับคนร้ายที่ด้านนอก

“เอาจริงๆ นะ ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นคนดีหรือคนร้าย กระทั่งเขาเริ่มท่องคำปฏิญาณตนขึ้นมา ผมก็รู้ทันทีว่าเขาไม่ใช่คนดีแน่ๆ”

ร่องรอยกระจกรถที่แตกเพราะ อาซิซ ได้ทำการทุบเอาไว้นั้น กลายเป็นสัญลักษณ์ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ติดตามคนร้ายได้ในเวลาต่อมา และเมื่อเหตุการณ์เริ่มสงบลง อาซิซ ได้ย้อนกลับไปที่มัสยิด ภาพที่เขาเห็นเหมือนเป็นฝันร้าย ร่างไร้วิญญาณของผู้คนเต็มไปหมด ทั้งคนรู้จักและเพื่อนสนิทของเขาต้องเสียชีวิตลง แต่ยังเคราะห์ที่ลูกๆ ของเขาทั้งหมดปลอดภัยดี

นอกจากนี้ กว่าจะกลายเป็นฮีโร่ได้ อาซิซ ยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยว่าเขาอาจจะเป็นหนึ่งในคนร้ายที่ก่อเหตุ เนื่องจากเขาได้ถือปืนเอาไว้ ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมาในที่สุด หลังจากที่พบว่าเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ


ขอขอบคุณข่าวจาก