เปิดแบบอาคารมหาดไทยใหม่ สูง 20 ชั้น ริมเจ้าพระยา ทุ่มงบสร้าง 3 พันล้าน
จากกรณีเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ส่งหนังสือถึงนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอใช้ที่ดินก่อสร้างกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ โดยมีเนื้อหาระบุว่า ด้วยปัจจุบันพื้นที่เกาะกรุงรัตนโกสินทร์ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ ประกอบกับความคับแคบของสภาพพื้นที่โดยรอบ ทำให้ส่วนราชการหลายแห่งย้ายสถานที่ปฏิบัติงานออกไปจากบริเวณเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ โดยในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นส่วนราชการขนาดใหญ่ ก็ประสบปัญหาความคับแคบของสถานที่เช่นเดียวกัน ส่งผลให้การอำนวยความสะดวกต่อการติดต่อราชการ และการปฏิบัติราชการมีจำกัด
ขณะเดียวกันยังมีอาคารสิ่งก่อสร้างบางหลังภายในกระทรวงมหาดไทยบดบังทัศนียภาพของวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการจัดหาที่ดินเพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการของกระทรวงมหาดไทย และอาคารของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ และเพิ่มศักยภาพในการให้บริการประชาชนได้มากขึ้น
โดยที่ดินแปลงนี้เดิมสำนักงานสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ทำหนังสือถึงกรมธนารักษ์ ขอใช้เป็นพื้นที่ก่อสร้างอาคารที่พักสวัสดิการข้าราชการรัฐสภา และกรมธนารักษ์ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่าง 3 หน่วยงาน คือ กรมธนารักษ์, สำนักงานสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้ทำหนังสือลงวันที่ 7 พ.ค. 2562 ถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในขณะนั้น ขอใช้พื้นที่ราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.1989 แขวงบางลำพู เขตคลองสาน กทม. โฉนดเลขที่ 869,870 และ 3400 เพื่อก่อสร้างกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ นายพรเพชร ไม่ขัดข้อง ทำให้กระบวนการพิจารณาทั้งหมดเสร็จสิ้นภายในวันเดียว
ล่าสุดได้มีการเปิดเผยแบบแปลนอาคารของกระทรวงมหาดไทยใหม่ ซึ่งได้ออกแบบเป็นอาคารสำนักงานสูงประมาณ 20 ชั้น 4 อาคาร ถอยร่นจากแม่น้ำ 45 เมตร มีที่จอดรถ มีการสร้างท่าเรือ ประกอบด้วยสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมที่ดิน กรมการพัฒนาชุมชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตั้งอยู่ที่ข้างวัดเศวตฉัตร คลองสาน ตั้งเป้าเริ่มก่อสร้างภายในปี 2563 ใช้งบประมาณประมาณ 3 พันล้านบาท
ขอขอบคุณข่าวจาก