news

 

(4 ส.ค.62) เมื่อเวลา 20.55 น. ร.ต.อ.นเรศ สุดสาคร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ว่า เกิดเหตุรถยนต์กระบะวิ่งชนขอบปูนไหล่ทางใต้สะพานลอยข้ามถนน รถกระเด็นลงข้างทางฟาดต้นไม้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บสาหัส 2 รายบนถนนแสงชูโต บ้านพุเลียบ หมู่ 2 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งรีบประสานแพทย์เวรจาก รพ.พหลพลพยุหเสนา ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ

ในที่เกิดเหตุ เป็นเส้นทางถนนแสงชูโตออกจากตีวเมืองกาญจนบุรีมุ่งหน้าอ.ไทรโยค เริ่มเกิดจากขอบปูนไหล่ทางใต้สะพานลอยข้ามถนนแสงชูโตพื้นที่ บ้านพุเลียบ พบรถยนต์กระบะ เชพโรเล็ต 4 ประตู สีขาว จอดอยู่หน้ารถเกยกับต้นไม้ข้างทางสภาพรถหลังคาเปิด ตัวถังด้านซ้ายยุบทั้งแถบ พบศพ นางนงค์นุช อายุ 36 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ สภาพเลือดออกศีรษะและคอหมุนได้รอบ และยังพบว่าตั้งครรภ์ 6 เดือน

ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 คน คือ นายกฤษฎา อายุ 40 ปี สามีผู้ตายที่เป็นคนขับรถมีอาการศีรษะแตก และบาดแผลที่ใบหน้า ส่วนอีกคนคือ เด็กชายกฤษนัย อายุ 3 ปี บุตรชายที่มีบาดแผลที่ศรีษะและหมดสติ โดยเจ้าหน้าที่มูบนิธิพิทักษ์กาญจน์ช่วยเหลือนำส่ง รพ.พหลพลพยุหเสนา ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายกฤษฎาอาการปลอดภัย ส่วนเด็กชายกฤษนัยมีอาการเลือดคลั่งในสมองต้องทำการผ่าตัดช่วยชีวิตด่วน

จากการสอบสวน ทราบว่านายกฤษฎาเป็นเสี่ยเจ้าของรถสิบล้อที่รับจ้างขับขนสินค้าส่งโรงงานกระดาษที่ชลบุรี ก่อนหน้านี้ นายกฤษฎาและครอบครัวมาจาก จ.ชลบุรี มาร่วมงานทำบุญร้อยวันบิดา เมื่อเสร็จงานทำบุญก็จะเดินทางกลับชลบุรี โดยจะเดินทางไปไทรโยคเพื่อไปรับญาติลูกพี่ลูกน้องเพื่อไปทำงานที่ชลบุรีด้วยกัน ช่วงก่อนเกิดเหตุมีฝนตกปรอยๆ นายกฤษฎาคงขับรถมาด้วยความเร็วพอสมควร เมื่อถึงที่เกิดเหตุไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้รถกระบะเสียหลักพุ่งเจ้าข้างทางชนฟุตปาธและวิ่งชนขอบปูนใต้สะพานลอยด้วยความแรง จึงทำให้รถลอยเหินพุ่งลอดสะพานพุ่งลงข้างทาง ตัวถังด้านซ้ายครูดเบียดเสาไฟฟ้าปูนที่ตั้งห่างจากสะพานลอย 3 เมตร รถเสียหลักไปข้างหน้าพุ่งชนกับต้นไม้ข้างทางที่ห่างจากเสาไฟ 4 เมตร ทำให้รถหยุดเกยต้นไม้ ด้วยความแรงที่ชนปะทะต้นไม้ทำให้ตัวของพ่อแม่คนถูกแรงเหวี่ยงจนร่างพุ่งออกจากตัวรถ ส่วนลูกชายติดอยู่ในรถ คาดว่า นางนงค์นุชคงพุ่งเอาศีรษะลงพื้นที่ดินจึงคอหักเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ

หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร.ต.อ.นเรศ ได้ตรวจสอบและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุแล้วเดินทางไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บที่ รพ. แต่ยังไม่สามารถให้ปากคำได้ ดังนั้นจึงรอให้อาการดีขึ้นก่อน จากนั้นจึงจะสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นคาดว่า ฝนตกถนนลื่น หรือ คนขับหลับในจึงต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป


ขอขอบคุณข่าวจาก