สุดรันทดแม่ป่วยมะเร็ง-ลูกชายวิกลจริต เคราะห์ซ้ำบ้านทรุดหลังคารั่ว ไม่เคยมีน้ำไฟใช้
ชีวิตรันทดซ้ำๆ แม่ป่วยมะเร็งเต้านม ลูกชายคนโตวิกลจริต ลูกคนเล็กต้องคอยดูแลแม่ ชีวิตนี้หวังเพียงมีบ้านให้ซุกหัวนอน
จากกรณีกู้ภัยสุโขทัยโพสท์ข้อความขอระดมความช่วยเหลือ น.ส. วิภา เนียมแนบ อายุ 53 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 408/1 ม. 13 ต. บ้านกล้วย อ.เมือง จ.สุโขทัย ป่วยเป็นมะเร็ง อาศัยเพิงไม้ที่ทรุดโทรม เสาบ้านเก่าผุพังและตัวบ้านเริ่มเอียง หลังคาสังกะสีก็รั่วทั่วทั้งบ้านพื้นบ้านก็ผุพัง ไม่มีทางเข้าออกต้องอาศัยทางเข้าออกจากเจ้าของที่ข้างบ้าน อาศัยอยู่กับลูกสองคน ลูกชายคนโต คือ นายจำรัส อายุ 30 ปี ติดยาเสพติดจนสติไม่ดี วิกลจริต ลูกชายคนที่สองคือ นายสถาพร กาวีวน อายุ 26 ปี ทหารเกณฑ์ที่เพิ่งปลดประจำการ และเป็นคนดูแลแม่ที่เป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 2 และเป็นคนหาน้ำหาข้าวเลี้ยงครอบครัวมีรายได้เพียงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปสำรวจสภาพบ้าน พบว่าภายในบ้านเป็นพื้นไม้เก่าผุพังจนไม่สามารถเข้าไปอาศัยอยู่ได้ หลังคาสังกะสีรั่ว เสาบ้านพุและเอียงจนบ้านเอียงตามสภาพจนเกือบจะพังแล้ว ห้องส้วมก็ใช้สั่งกะสีเก่ามาล้อมไว้พอใช้ได้ ซึ่งสภาพบ้านรอวันผุพัง ป้าวิภา เล่าว่าตนเองและครอบครัวมาสร้างบ้านอยู่ตรงนี้ประมาณ 20 ปีแล้ว หลังจากสามีเสียไปก็อยู่กับลูกที่บ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นที่สาธารณะ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำ ไม่มีบ้านเลขที่ ชีวิตอยู่ด้วยความลำบาก ต้องรองน้ำฝนมากินมาใช้ แต่ช่วงนี้แล้งมากน้ำที่รองไว้ไม่มีเหลือ ล่าสุดแม้น้ำจะกินดื่มยังไม่มี
ป้าวิภา บอกว่าก่อนที่จะป่วย ตนเคยมีรายได้จากการรับจ้างรายวัน แต่ตอนนี้ต้องพึ่งลูกชายที่เคยตั้งความหวังจะเป็นทหาร แต่ท้ายสุดต้องมาดูแลแม่ ลูกชายคนโตก็ติดยาจนเสียสติ ซ่อนตัวอยู่แต่ในป่า ตอนกลางคืนถึงจะกลับมานอนที่แคร่ในกระต๊อบข้างบ้าน บางครั้งคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของ จนถึงขนาดบีบคอตนบังคับเอาเงินบ่อยๆ วอนผู้ใจบุญช่วยซ่อมหรือสร้างบ้านให้พออยู่อาศัยได้ก็พอ
เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป พระครูขันติพลธาดา เจ้าอาวาสวัดลัดทรายมูล พร้อมคณะได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม และของจำเป็นในการดำรงชีพมามอบ รวมถึงผู้ใจบุญกลุ่มรถซิ่งสุโขทัยร่วมกับร้านขายถังน้ำพลาสติก นำแทงก์น้ำขนาด 1000 ลิตร มามอบให้ป้าวิภา เพื่อใส่น้ำไว้ใช้ต่อไป
ป้าวิภา กล่าวว่าในชีวิตนี้หวังเพียงอยากมีบ้านใช้เป็นที่ซุกหัวนอน หากผู้ใจบุญมีเมตตา ช่วยสร้างบ้านหรือซ่อมแซมบ้านให้อยู่ในสภาพที่ดีเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ป้าวิภา กล่าวด้วยน้ำตาขอบคุณความห่วงใยจากทุกหน่วยงานที่เข้ามาให้การช่วยเหลือ เนื่องจากป้าวิภาไม่มีโทรศัพท์และสมุดธนาคาร มีแต่ของลูกชายคนเล็ก หากผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ นายธนพงศ์ บุญเรือง นายอำเภอเมืองสุโขทัย
ขอขอบคุณข่าวจาก