ผงะ หนุ่มเซ็กซ์สดอวดรูปไปบริจาคเลือด อ้างกินยาต้าน HIV มา 4 ปี
หนุ่มเซ็กซ์สด-ขายคลิป โชว์ภาพไปบริจาคโลหิต มั่นใจกินยาเพร็พ ต้าน HIV มา 4 ปีแล้ว ไม่มีผล แถมตรวจค่าไตให้ฟรี
โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพจากทวิตเตอร์ของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ไปบริจาคโลหิต โดยเชิญชวนให้คนมีเซ็กซ์แบบไม่ป้องกันมากินยาที่ใช้ในการป้องกันเชื้อ HIV ก่อนการสัมผัสโรค หรือ เพร็พ (PrEP) พร้อมอ้างว่าตนเองกินยาดังกล่าวมาตลอด 4 ปี และไม่พบเชื้อ โดยบอกว่าตนไปบริจาคเลือดมาแล้วแถมยังได้ตรวจค่าไตให้ฟรีด้วย
จากการตรวจสอบพบว่า ชายคนดังกล่าวมีพฤติกรรมเสี่ยงหลายอย่าง เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยบ่อยครั้ง และมีการถ่ายวิดีโอคลิปเพื่อขายกันในกลุ่มไลน์ โดยคิดค่าสมาชิกแรกเข้า 200 บาท และรายเดือน 100 บาทต่อเดือนอีกด้วย
ภายหลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ชายหนุ่มคนดังกล่าว ก็มาทวีตข้อความว่า “ทำไมต้องมาดราม่าเราด้วย เกลียดเราขนาดนั้นเลยหรือ หาว่าเราไม่สมควรไปบริจาคเลือด หาว่าเรากินยาเพร็พแล้วก็ไม่สมควรสด ผมก็รู้นะว่าผมไม่สมควรสด แต่ถ้าคุณไม่พอใจ ไม่ชอบก็ไม่ต้องมามองคลิปผม หรือสนใจในตัวผม ความคิดคนอื่นผมไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้วคุณจะมายุ่งเกี่ยวอะไรกับผมครับ”
“คนไม่รู้อะไรจริงๆ แล้วไปพิมพ์ให้เราเสียหาย ถ้าเราไม่มั่นใจจริงๆ คิดว่าเราจะบริจาคเลือดหรือพวกที่ตัดสินคนจากภายนอกใครว่าเกย์ ทอม ดี้ สาวสอง หรือแม้กระทั่งรักร่วมเพศต่างๆ บริจาคเลือดไม่ได้ บริจาคได้หมดละครับถ้าคุณมีผลการตรวจเลือดก่อนการบริจาคเลือดภายใน 14 วันก่อนบริจาคเลือด ตรวจก่อนให้โอเคนะ”
ด้าน นายภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ เจ้าของเพจชื่อดัง หมอแล็บแพนด้า ระบุว่า แม้กินยาต้าน HIV จึงไม่ควรบริจาคเลือด โดยอธิบายหากคนทั่วไปไปมีเพศสัมพันธ์กับคนติดเชื้อ HIV แบบไม่ใส่ถุงยาง แล้วเกิดได้รับเชื้อ HIV จะยังตรวจไม่เจอในทันที ทางการแพทย์เรียกว่าช่วง “วินโด้วพีเรียด” ซึ่งเครื่องที่ดีที่สุดมีข้อจำกัดในการตรวจหาเชื้อในเลือดเจอที่ 20 ตัว/ซีซี ขึ้นไป
ขณะที่ปัจจุบันยาต้านไวรัส HIV มีประสิทธิภาพดีมาก คนที่กินยาต้านประจำในเลือดจะมีเชื้อไม่ถึง 20 ตัว/ซีซี เพราะยาจะกดเชื้อเอาไว้ เมื่อไปตรวจ ผลตรวจก็เลยเป็นลบ แต่ถือว่ายังมีเชื้อ บางคนที่กินยาต้านอยู่มีความคิดเลยเถิดถึงขนาดที่ว่าไปบริจาคโลหิต เครื่องมันก็ตรวจไม่เจอ แต่คนที่ได้รับเลือดถุงนี้ที่ทุกซีซีมีเลือดอยู่ 10 ตัว ถ้ารับเลือดไป 400 ซีซี ก็แสดงว่าได้รับ HIV ไป 4,000 ตัว
ทั้งนี้ สภากาชาดไทย ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และกำลังตรวจสอบก่อนจะมีแถลงการณ์ เพราะกรณีนี้ถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและมีผลกระทบมาก
ขอขอบคุณข่าวจาก