เชียงใหม่เร่งตรวจกลุ่มเสี่ยงโควิด 312 ราย ตรวจแล้ว 132 ราย ไม่พบเชื้อ
กลุ่มเสี่ยงผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่ 312 รายเข้าตรวจโรคแล้ว 132 รายผลตรวจเบื้องต้นเป็นลบ ไม่พบเชื้อ ขณะที่กลุ่มเสี่ยงสูงแม้จะไม่พบเชื้อ ก็ยังต้องกักตัวต่อ 14 วัน และตรวจซ้ำในวันที่ 1 ธ.ค. และวานนี้ยังได้ตรวจเพื่อสำหรับผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าจำนวน 259 ราย ไม่พบชื้อ 85 ราย รอยืนยันผลอีก 174 ราย
สำหรับความคืบหน้าของทีมสอบสวนโรคและค้นหาผู้สัมผัส กรณีพบผู้ป่วยหญิงไทยวัย 29 ปี ติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 42 ของจังหวัดเชียงใหม่ พบผู้สัมผัสทั้งหมด จำนวน 312 ราย ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง จำนวน 90 ราย ผลตรวจยืนยันไม่พบเชื้อ จำนวน 88 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 150 ราย และผู้สัมผัสอื่นๆ จำนวน 72 ราย ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว จำนวน 132 ราย ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด ซึ่งผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจะได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 รอบที่ 2 ในวันที่ 1 ธันวาคม 2563 โดยผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงที่ไม่มีอาการจะต้องกักตัวเพื่อสังเกตอาการจนครบ 14 วัน หากไม่สามารถกักตัวที่บ้านได้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดสถานที่กักกันตนสำหรับผู้สัมผัสใกล้เสี่ยงสูงไว้แล้ว ทั้งนี้ผู้สัมผัสทุกรายจะต้องสังเกตอาการผิดปกติอย่างใกล้ชิด ผู้สัมผัสที่กักกันตนที่บ้านจะมีการประสานงานให้ทางเจ้าหน้าที่โควิดหมู่บ้านเข้าไปดูแลและตรวจประเมินจนครบ 14 วันหลังสัมผัสผู้ป่วย
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ นำรถโมบายเคลื่อนที่พระราชทาน จำนวน 2 คัน และรถโมบายเคลื่อนที่คณะเทคนิคการแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำนวน 1 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ ออกหน่วยเคลื่อนที่ ตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ให้กับเจ้าหน้าที่และพนักงานร้านอาหาร ร้านค้า ในห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงต่ำ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพนักงาน ประชาชนและลูกค้าผู้ใช้บริการ
โดยวานนี้ (30 พ.ย.) มีพนักงานในกลุ่มเสี่ยงต่ำเข้าตรวจหาเชื้อ จำนวน 259 ราย ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ยืนยันไม่พบเชื้อ จำนวน 85 ราย และรอผลอีก 174 ราย โดยการตรวจจะใช้เวลาในการตรวจประมาณ 5 นาที ต่อ 1 คน และจะแจ้งผลการตรวจผ่านเบอร์ SMS ที่ได้ลงทะเบียนไว้
อย่างไรก็ตามทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำให้ทางผู้ประกอบการ ห้างร้าน สถานประกอบการ สถานที่ท่องเที่ยว ตลาด รวมถึงการจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก ต้องเข้มงวดเรื่องมาตรการในการคัดกรองประชาชน ทั้งการลงทะเบียน บริการเจลแอลกอฮอล์ การตรวจวัดอุณหภูมิ และบังคับทุกคนทุกสวมหน้ากากอนามัย จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรการดังกล่าว
ขอขอบคุณข่าวจาก