news

การแข่งขันเซปักตะกร้อ ในกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่บูชอน ยิมเนเซียม เป็นการชิงชัยในประเภททีมเดี่ยวชาย รอบชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทย พบศึกหนัก ทีมชาติเกาหลีใต้ เจ้าภาพ

ซึ่งช่วงเช้าในการแข่งขันประเภททีมเดี่ยวหญิง ไทยก็เป็นฝ่ายชนะเกาหลีใต้ คว้าเหรียญทองไปก่อนแล้ว โดยเกมนี้ทีมนักหวดลูกพลาสติกไทย ส่ง พรชัย เค้าแก้ว , สิทธิพงศ์ คำจันทร์ และ ภัทรพงศ์ ยุพดี ลงเล่นเป็น 3 คนแรก

เกมแรกทีมชาติไทยออกสตาร์ทได้ดีกว่าขึ้นนำไปก่อน 8-3 แต้ม แต่ “ยาว ปืนใหญ่” สิทธิพงศ์ ตัวเสิร์ฟของเราเกิดฟอร์มช็อตดื้อๆ เสิร์ฟเสียหลายลูกติดกัน ทำให้เกาหลีใต้ไล่มาตีเสมอ 10-10 อย่างไรก็ดีช่วงปลายเกม สิทธิพงศ์ คืนฟอร์มโหด แถมยังได้ พรชัย ที่ฟาดทำคะแนนได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ทำให้เกมแรกเราชนะไปได้ก่อน 21-16 แต้ม

เกมที่สอง ทั้งสองทีมเริ่มต้นได้อย่างสูสี ทำคะแนนคู่คี่กันตลอด จนถึงช่วงคะแนน 8-8 เกิดเหตุการณ์ที่ทำเอาแฟนกีฬาชาวไทยหงุดหงิด เมื่อ พรชัย กระโดดฟาดลงอย่างชัดเจน ลูกห่างจากเส้นสนามเป็นคืบ แต่ผู้ตัดสินชาวอินโดนีเซีย กลับตัดสินว่าไทยฟาดออกหน้าตาเฉย ท่ามกลางความงุนงงของนักกีฬาไทยและกองเชียร์ในสนาม

แต่สุดท้าย ทีมชาติไทยก็ไม่เสียสมาธิ เกาหลีใต้ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของเราได้ ไล่ฟาดทำคะแนนได้อย่างต่อเนื่อง เอาชนะไปได้อีก 21-14 คว้าเหรียญทองที่ 11 ให้ทัพนักกีฬาไทยในอินชอนเกมส์ และกวาดเรียบ 4 เหรียญทองที่สมาคมเซปักตะกร้อแห่งประเทศไทยส่งเข้าแข่งขันและตั้งเป้าหมายไว้ได้สำเร็จ

อนึ่ง สำหรับเหรียญทอง 2 เหรียญที่ พรชัย เค้าแก้ว ตัวฟาดจอมเก๋าวัย 32 ปี ได้ในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ จากประเภททีมชุดและทีมเดี่ยว ทำให้เขากลายเป็นเจ้าของ 8 เหรียญทองในเอเชียนเกมส์ ทำลายสถิติของ “โจ้” สืบศักดิ์ ผันสืบ ที่ทำไว้ 7 เหรียญทองลงอีกด้วย


ขอขอบคุณข่าวจาก