แตงโม ภัทรธิดา น้ำตาชึมนั่งดู MV ชีวิตรักในอดีต ย้ำคือเรื่องจริงไม่กลัวดราม่า
แตงโม ภัทรธิดา น้ำตาซึมหลังนั่งดูชีวิตรักของตัวเองถ่ายทอดลง MV กลับตัวกลับใจ
ผ่านมานานจนคิดว่าตัวเองเข้มแข็ง แต่พอได้มีโอกาสเห็นภาพบรรยากาศชีวิตรักครั้งเก่าที่ถูกถ่ายทอดผ่านมิวสิกวีดีโอเพลง “กลับตัวกลับใจ” ของศิลปิน “แด็กซ์ ร็อกไรเดอร์” ทำเอานางเอกสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ซึ่งหลังจากจบงานเจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดใจว่า
ที่เห็นตนเองน้ำตาซึมก็เป็นเพราะยังไม่เคยชมมิวสิควีดีโอตัวนี้มาก่อน และพอได้ชมครั้งแรกก็เลยทำให้ค่อนข้างอิน เหมือนถูกดึงเข้าไปอยู่ในจุดๆ นั้นอีกครั้ง เพราะส่วนตัวแล้วกว่าจะผ่านเรื่องราวครั้งนั้นมาได้มันก็ยาก แถมทุกอย่างที่เห็นก็คือสถานที่จริง ข้าวของก็เป็นของจริงทุกอย่าง และจากนี้คงจะไม่ถ่ายทอดเรื่องราวนี้ในที่ไหนอีก เพราะที่นี่คือที่สุดท้าย ครั้งสุดท้าย…
ขณะที่ หลายคนเป็นห่วงว่าจะมีฟีดแบคแง่ลบจากแฟนคลับของอดีตคนรัก สาวโม ได้ยืนยันว่าไม่ได้มีความกังวลอะไร เพราะถึงยังไงเรื่องจริงก็คือเรื่องจริง หากจะดราม่าหรือไม่ดราม่า ตนเชื่อว่าจะเป็นผลบวกต่องานชิ้นนี้เช่นกัน
ยอมรับว่าก่อนที่จะรับงานไม่ได้มีการบอกกล่าวกับฝ่ายชายไว้ก่อน แต่เนื่องจากทุกวันนี้ยังใช้ผู้จัดการส่วนตัวคนเดียวกัน ดังนั้นคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะพอทราบบ้างแล้ว และเชื่อว่าคงไม่มีปัญหาอะไรภายหลังแน่นอน
ด้านกระแสข่าว “แก๊งน้ำแข็งใส” รวมตัว เพราะมีคนสังเกตเห็นว่าเจ้าตัวเข้าไปคอมเม้นท์อวยพรวันเกิดของนางเอกสาว “ชมพู่ อารยา” ในอินสตาแกรม แตงโมก็เผยว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาต่างฝ่ายต่างก็มีโอกาสได้เจอกันน้อย หรือพอมีโอกาสได้เจอก็ไม่ได้มีการถ่ายภาพออกมาเผยแพร่ให้แฟนๆ ได้ชมกัน และถึงแม้จะไม่ได้เกาะกลุ่มเหมือนเมื่อสมัยก่อน แต่ทุกคนก็ยังรักกันเหมือนเดิม ไม่ได้มีการทะเลาะอย่างที่เคยมีกระแสข่าวออกมา
ดูเหมือนว่ามิวสิควีดีโอตัวนี้จะค่อนข้างตรงกับชีวิตของเรา ?
“ก็ตรงนะคะไม่ว่าจะเป็นมุมมองไหน แต่ถามว่าแรงหรือตรงไปไหม เอ่อ…จริงๆ แล้วสองอย่างนี้ต้องแยกกันนะ เพราะโมอยากให้ยึดความจริงไว้ดีกว่า เนื่องจากภาพทั้งหมดที่ถูกถ่ายทอดมันก็คือความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริง ณ ปัจจุบันนี้”
เห็นว่าตอนที่ชมมิวสิควีดีโอตัวเราเองก็น้ำตาซึมด้วย ?
“คือโมต้องบอกก่อนนะคะว่าโมกับพี่แด็กเราไม่เคยดูมาก่อนจนกระทั่งวันนี้ เพราะเราเองก็อยากลุ้นว่ามันจะออกมายังไง ซึ่ง…พอได้ดูแล้วเนี่ย มันก็ค่อนข้างอินนะ คือกว่าเราจะผ่านเรื่องราวนั้นมาได้ รวมถึงการตัดต่อภาพต่างๆ มันก็กระชากอารมณ์ด้วย สติมันก็แตกกระเจิงเหมือนกัน เหมือนกับเราถูกดึงกลับเข้าไปอยู่ในจอนั้นอีกครั้ง เนื่องจากว่าทุกอย่างมันคือของจริง สถานที่จริง ข้าวของก็ของจริงหมด ยอมรับค่ะว่าน้ำตาซึม เพราะเราเองก็ได้เห็นความตั้งใจของทุกคนมาตลอด และพอมันออกมาแบบนี้ก็ภูมิใจค่ะ”
มิวสิควีดีโอตัวนี้คือผลงานชิ้นเดียวที่จะถ่ายทอดเรื่องราวของเรา ?
“ใช่ค่ะ จากนี้ก็จะไม่มีการนำเรื่องนี้ไปถ่ายทอดอีก ที่ไหนอีก ที่นี่คือที่แรก ที่เดียว และที่สุดท้ายค่ะ”
เรากลัวกระแสจากทางแฟนคลับของฝ่ายชายไหม เพราะหลายคนก็รอชมอยู่ ?
“เอ่อ…มันไม่มีอะไรต้องกลัวแล้วนะคะเพราะว่ามันคือเรื่องจริง เรื่องจริงก็คือเรื่องจริงค่ะ ถ้าจะให้โมถ่ายทอดด้วยการสร้างเรื่องขึ้นมาใหม่ หรือว่าบิดเบือนเรื่องราว โมก็คงไม่ไปลดคุณภาพงานเขาดีกว่า และถ้าทำแบบนั้นจริงให้โมไปเล่นเป็นอีกตัวละครหนึ่งไปเลยดีกว่าค่ะ”
แสดงว่าเราก็พร้อมรับมือกับกระแสดราม่า ?
“ไม่ว่ามันจะดราม่าหรือไม่ดราม่า มันก็เป็นผลบวกต่อเอ็มวีนะคะ และที่สำคัญหากใครได้ชมเอ็มวีแล้วเขาก็น่าจะมีมุมมองต่อทั้งโมและพี่แด็กในมุมใหม่ๆ มากขึ้นค่ะ”
คิดหนักไหมตอนที่รู้ว่าจะต้องเล่าเรื่องด้วยภาพบรรยากาศเก่าๆ ?
“ตอนแรกไม่ได้คิดหนักค่ะ เพราะว่าเป็นพี่ฟองเบียร์ติดต่อมา ถึงขนาดตอบตกลงทันทีทั้งที่ยังไม่ทราบด้วยว่าเป็นผลงานของใคร แต่สุดท้ายโมก็ตัดสินใจบอกกับพี่เบียร์ว่าโมไม่เล่นแล้วนะ เพราะโมไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิมแล้ว เนื่องจากว่าจิตใจของโมมันเปลี่ยนไป จากนั้นทางทีมงานเขาก็เลยประชุมกันจนได้พล็อตเรื่องใหม่ที่ออกมาเป็นแบบนี้ เป็นการถ่ายทอดที่ตั้งอยู่บนความจริง ซึ่งมันก็คือความรู้สึกของโมในปัจจุบันค่ะ”
เราได้บอกโตโน่ไว้ก่อนไหมว่าเราจะถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตผ่านมิวสิควีดีโอนี้ ?
“โมไม่ได้ติดต่อ โมไม่ได้บอกนะคะ แต่ทุกวันนี้เราใช้ผู้จัดการส่วนตัวคนเดียวกัน เพราะฉะนั้นเขาก็น่าจะทราบอยู่แล้วค่ะ”
กลัวไหมว่ามันจะส่งผลให้เรามีปัญหากับเขา ?
“โมคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรนะคะ เพราะมันก็คือมุมมองหนึ่งของโมและเราเองก็ไม่ได้ทำเรื่องเสียหายให้กับคนอื่นด้วย”
รู้สึกยังไงบ้างที่แฟนคลับบางคนมองว่าไม่เหมาะสม ?
“หลากหลายความคิดเห็นนะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วโมก็ขอรับไว้ทุกแบบ เพราะไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นแบบไหนมันก็สามารถช่วยให้เรานำไปพัฒนาผลงานของเราได้ในอนาคตค่ะ”
ล่าสุดเห็นว่าเราเข้าไปอวยพรวันเกิด ชมพู่ อารยา หลายคนก็เลยลุ้นให้แก๊งน้ำแข็งใสรวมตัว ?
“แก๊งน้ำแข็งใสจริงๆ มันเป็นฉายาที่พี่ๆ หลายคนตั้งให้นะคะเนื่องจากว่าช่วงนั้นเราอยู่ช่องเดียวกัน แต่พอหลังจากนั้นเราต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้มีโอกาสเจอกันบ่อยเหมือนเมื่อก่อน คือยังเจอกันบ้างบางโอกาสทั้งในประเทศไทยและก็ต่างประเทศ เพียงแต่เราไม่ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก หรือโมไม่ได้อวดว่าโมสนิทกับซุป’ตาร์อะไรแบบนั้น สรุปก็คือไม่ได้มีการแตกตัวหรือรวมตัวหรอกค่ะ เพราะเอาจริงๆ มันก็คือเรื่องปกติ ถึงแม้เราจะไม่ได้เกาะกลุ่มเหมือนเดิม แต่เราก็ยังรักกันเหมือนเดิมค่ะ”
เราทราบใช่ไหมว่าก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าคนในแก๊งทะเลาะกัน ?
“เอ่อ…ที่เราไม่ได้ออกมาถ่ายรูปให้เห็นบ่อยๆ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราทะเลาะกันนะคะ โอเคทุกคนอาจจะไม่ได้คิดว่าโมเป็นคนนิสัยดี แต่ทุกคนก็อย่าลืมนะคะว่า ไอซ์ กับ พี่ชมพู่ เขาเป็นคนนิสัยดี เพราะฉะนั้นอยู่ดีๆ เขาจะมาเทโมเรื่องอะไร หรือโมแย่จนต้องถูกเทหรือเปล่า ซึ่งโมยืนยันตรงนี้เลยนะคะว่าพี่ชมกับไอซ์เขาไม่ได้เป็นคนใจร้ายเลย เพื่อนก็คือเพื่อนค่ะ”
จะมีการนัดมีตติ้งรวมกลุ่มกันสักครั้งไหม ?
“ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ คือถ้าหากเรามีโอกาสไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เราก็จะเจอกันตามโอกาสเรื่อยๆ อยู่แล้ว เพียงแค่ไม่ได้ถ่ายรูปก็เท่านั้นเอง”
หลังจากที่เราอวยพรวันเกิดไปพี่ชมพู่เขาได้ตอบกลับไหม ?
“เมื่อวานนี้โมไปถ่ายรายการสามแซ่บค่ะ และก็ได้มีโอกาสอวยพรวันเกิดพี่เขา รวมถึงนำช่อดอกไม้ไปมอบให้เป็นของขวัญด้วย”
ขอขอบคุณข่าวจาก