news

 

ตั้งหน้าตั้งตาทำความดีเพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง สำหรับ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” แต่กลับถูกกลุ่มมิจฉาชีพประสงค์ร้าย ปลอมแฟนเพจหลอกเงินคนใจบุญให้โอนเงินนับสิบล้าน ทั้งยังถูกบางกลุ่มแอบอ้างว่าเป็นทีมงาน หากต้องการความช่วยเหลือให้โอนเงินมาให้ก่อน

งานนี้หนุ่ม บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้ออกมาเผยให้ฟังว่า ตอนนี้จับตัวคนร้ายได้เรียบร้อยแล้ว ยอมรับโมโหมากที่พวกคนเหล่านี้หลอกหากินบนความทุกข์ของคนที่อยากให้ และอยากได้รับความช่วยเหลือ ยืนยันจะดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุด

ถามถึงข่าวที่เกิดขึ้นกับบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเรา หลอกเงินให้คนโอนเพื่อช่วยเหลือคนเดือดร้อน?

“ตอนนี้จับตัวคนร้ายได้แล้วนะครับเป็นสองสามีภรรยา เขาปลอมหน้าแฟนเพจผมมาสักระยะหนึ่งแล้ว และรู้สึกว่าจะเปลี่ยนหน้าเลขที่บัญชีผมประมาณ 30-40 ราย คงจะได้เงินไปเยอะ แต่การทำแบบนี้ไม่ใช่มืออาชีพเพราะเขาใช้เลขที่บัญชีเดิมตลอด ทำให้ตรวจสอบง่ายและตามจับได้ไม่ยากเลยครับ”

จะดำเนินคดียังไงบ้าง?

“ต้องถึงที่สุดครับเพื่อไม่ให้ทำเป็นเยี่ยงย่างของคนต่อๆ ไป เพราะคนที่รอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญแล้วเขาต้องมาเจอแบบนี้เขารู้สึกว่ามันท้ออ่ะมันไม่น่าเกิดขึ้น และแฟนเพจผมเป็นการช่วยเหลือโดยตรงและเป็นคนที่เดือดร้อนจริงๆ แต่มีมิจฉาชีพมาทำแบบนี้ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยจริง

ทางผู้ต้องหาได้บอกเจตนาไหมว่าทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้?

“เหมือนเดิมครับ ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ เศรษฐกิจไม่ดี ไม่รู้จะทำงานอะไร หางานมาเป็นปีก็ยังไม่ได้ ทำแบบนี้มันง่ายกว่า คือมันไม่ใช่อ่ะ คนมือเท้าดีก็สามารถไปทำอย่างอื่นได้ ทำแบบนี้มันสิ้นคิดแล้ว”

เห็นก่อนหน้าเราเคยยื่นมือเข้าช่วยผู้ต้องหา?

“อันนี้อีกกรณีหนึ่งมันมีสองกรณี สองผัวเมียคือปลอมหน้าแฟนเพจผม ส่วนอีกกรณีเขาแอบอ้างว่าเป็นทีมงานเดียวกับผมและหลอกเหยื่อถ้าให้ผมช่วยต้องโอนเงินมาให้ ผมเคยช่วยเขาไปสิบๆ ครั้งแล้ว จนรู้สึกว่ามันมากไป จนผมใจแข็งไม่ให้เขา

เขาให้ญาติโทรบอกว่าเขาตาย ผมเลยรู้สึกผิดจึงช่วยค่าทำศพไปหมื่นห้า เราสบายใจว่าทำเต็มที่และสองเดือนต่อมาเขาโทรมาอีก ผมตกใจไหนบอกว่าตายไปแล้ว เขาก็ตกใจว่าเขาลืมว่าโกหกผม เขาร้องไห้บอกว่าไม่รู้เรื่องญาติเป็นคนจัดการผมว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะปกติไม่เกินสิบวันจะโทรมาขอเงินแล้ว นี่หายไปสองเดือน

ล่าสุด ก่อนจะไปแจ้งความจับเขา เขาโกหกว่าแม่เขาตายที่มาเลเซียขอเงินผมสามพันไปนำศพกลับมา ผมใจแข็งไม่ให้ จนกระทั่งรู้ข่าวว่าเขาไปหลอกคุณแม่ที่มีลูกชายพิการตั้งแต่กำเนิด หลอกเงินไปหกพันบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยแจ้งความจับเขาเลยนะ แต่ครั้งนี้โมโหมากที่มาหลอกว่าเป็นทีมงานผม และสามารถทำให้ผมไปช่วยเขาได้ แต่ต้องโอนเงินมาก่อนหกพันบาท

ทางแม่น้องไม่โลภแต่อยากได้ความช่วยเหลือจากผม ก็ไปหาเงินจากหลายวิธีทั้งกู้ยืม รอเงินค่าผู้พิการ สุดท้ายเข้ากลีบเมฆไป จนแม่มาติดต่อผม ผมจึงรีบหาข้อมูล ผมโมโหมากทำกับผม ผมไม่ว่า แต่ทำการคนป่วยพิการไม่ได้เลยผมจึงรีบไปแจ้งความ”

ก่อนหน้านี้ที่ช่วยมีส่งทีมไปตรวจสอบไหม?

“เขาอยู่สตูล ด้วยความที่ผมไม่ได้ตรวจสอบอะไรมากมายถ้าได้ช่วยก็ช่วยไปสองสามพันไม่เป็นไร ผมเคยโบ้ยไปว่าถ้าอยากได้รับความช่วยเหลือให้มาปากโป้งและมาจริงเขาเลยไปอ้างกับคนอื่นว่าเคยมาออกและทำให้คนอื่นมาออกได้ด้วย ถ้าเป็นในกทมหรือรอบๆ ผมจะมีทีมงานที่ไปตรวจสอบได้แต่สตูลมันไกลและเงินไม่มากผมเลยปล่อย”

เขาหลอกมากี่รายแล้ว?

“ที่รู้ๆ คือหนึ่งรายที่มาบอกผม แต่ก่อนหน้านี้ผมไม่ทราบ คือเขามาบอกในเฟซบุ๊กว่ามีทีมงานของคุณบิณฑ์บอกว่าถ้าหากอยากออกรายการให้โอนเงินมาสามพัน ซึ่งเขาโอนไปแล้วแต่คนนั้นหายไป ใช่เราหรือเปล่า คือผมจะเจอข้อมูลแบบนี้เยอะมากแต่ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า

เวลาผมไปออกรายการผมจะพยายามบอกว่าผมไม่มีนโยบายไปขอเก็บเงินใครก่อนจะเข้าไปช่วยเหลือ ทุกเคสผมเป็นคนดูแลเองถ้ามีเบอร์ผมจะโทรไปคุยด้วยตัวเองว่าผมจะเข้าไปช่วยเหลือนะ ไปเมื่อไหร่อะไรยังไง ไม่มีให้ทีมงานโทรไปขอค่าธรรมเนียมการช่วยเหลือสองสามพัน เราไม่เคยทำแบบนั้น เวลาช่วยเหลือเราช่วยเหลืออย่างเต็มที่ไม่มีมาเรียกร้องค่าอะไรก็แล้วแต่”

ย้อนกลับไปถามถึงกรณีแรก มีผู้เสียหายทั้งหมดเท่าไหร่?

“โห น่าจะเป็นร้อยรายนะครับ อาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ ถ้าตีมูลค่าผมว่าหลักล้าน เพราะหน้าแฟนเพจผมมีคนติดตามเยอะ และแต่ละเคสแต่ละรายอย่างต่ำผมว่ามีเจ็ดแปดแสนแน่ๆ บางรายสิบกว่าล้านก็มี เพราะฉะนั้นคนที่มาทำแบบนี้ผมว่าได้เงินเยอะแน่นอนโดยไม่ต้องทำอะไรเลย

เขาโดนจับได้เพราะเวลามีเวลามีเงินโอนเข้าไม่ว่าจะเป็น 200, 300 หรือ 500 เขาก็ไปกดออกทันที ตำรวจเลยเช็คจากธนาคารว่าเขาไปกดตู้ไหนบ่อยสุดจึงไปดักรอตรงนั้น พอเจอตัวก็จับเลย ตัวเงินไม่มีให้เห็นแล้วครับแต่เราสามารถไปย้อนหลังดูสลิปเงินเข้ามาได้ว่ามีมากน้อยขนาดไหน ตอนนี้ทางธนาคารยังไม่ได้แจ้งมาว่าเท่าไหร่”

ตอนนี้ดำเนินการถึงไหนแล้ว?

“ตอนนี้กำลังฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการครับในข้อหา พรบ.คอมพิวเตอร์ครับ เป็นการปลอมแปลง”

พอเจอเหตุการณ์แบบนี้บั่นทอนจิตใจเรามากไหม?

“ไม่บั่นทอนการทำงานของผมนะ แต่คนที่บริสุทธิ์ใจที่จะช่วยเขาคงรู้สึกว่ามันไม่น่าเจอเคสแบบนี้ เพราะเขาต้องการให้ความช่วยเหลือ แต่พอมาเจอพวกมิจฉาชีพเราก็รู้ว่าจิตใจเขาเป็นยังไง เหมือนเราไปทำบุญที่วัดหนึ่งและเรารู้สึกว่าพฤติกรรมบางอย่างของพระไม่น่าทำเลย มันก็อารมณ์ประมาณนั้น ผมเข้าใจคนที่อยากจะช่วยเหลือจริงๆ”

ตอนนี้มีมาตรการป้องกันอะไรพิเศษหรือเปล่า?

“ก็ปรึกษาหารือมาเยอะอยู่แต่คงยังไม่มี หน้าแฟนเพจจริงผมคนติดตามจะเยอะ แต่แฟนเพจปลอมคนติดตามจะน้อย ที่ผมจะลงมีแต่การช่วยเหลือทั้งนั้น แต่เฟซบุ๊กปลอมลงรูปโป๊ก็มี ฝรั่งยังมาด่าผมว่าส่งรูปโป๊ไปให้เขา แต่จริงๆ มันไม่ใช่ผม ผมไม่ใช่คนแบบนั้น แฟนเพจจริงผมดูง่ายนิดเดียวหลังจากชื่อผมจะมีเครื่องหมายถูกสีน้ำเงินอยู่ สังเกตง่ายๆ เลยครับ”

ทราบได้อย่างไรว่าโดนปลอมเฟส?

“มีคนส่งมาให้ผมเยอะมากครับ เราดูแล้วถ้าไม่ใช่ก็บอกว่าปลอมครับ แต่ไม่ถึงกับจะต้องไปจัดการเพราะรู้สึกว่าเขายังไม่ได้ไปสร้างความเสียหายอะไร จนกระทั่งมีการปลอมเลขที่บัญชีทำให้ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้ ถ้าปลอมแล้วไปคุยกับคนอื่นผมไม่รู้สึกอะไรแต่นี่ปลอมเพื่อหลอกเงินคนอื่นผมยอมไม่ได้”

ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้แต่ละเดือนเยอะแค่ไหน?

“ก็พอสมควรนะ เดือนละประมาณสี่แสนกว่าบาท เดือนนึง 6-7 เคส เคสละสองหมื่น ผมยังดูแลคนชราที่ถูกลูกหลานทอดทิ้งมาดูแลที่ศูนย์มุทิตารายละหนึ่งหมื่นห้าประมาณสิบกว่าราย และต้องดูแลฟาร์มโค วัว ควาย ที่คนไปไถ่ชีวิตมาและไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหนก็เอามาให้ผม ผมก็ไปทำฟาร์มที่สระแก้วต้องดูแลเดือนคงแสนกว่าบาท

แต่ผมโชคดีที่มีคนนั้นคนนี้มาช่วยเหลือผมบ้างทำให้ผมได้ดำเนินต่อไปยังไม่ต้องไปขอร้องใครมาช่วยเหลือเพราะผมไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่ไหวผมคงต้องหยุดแต่นี่ยังไหวอยู่เลยต้องทำต่อไป”


ขอขอบคุณข่าวจาก