ตำรวจงัดวงจรปิดกู้ศักดิ์ศรี โจ๋แหกด่านตายคาถนน แม่มั่นใจ “ลูกฉันเป็นคนดี”
4 เดือนปริศนาแคลงใจยังไม่คลี่คลาย แม่เด็กชายวัย 16 ควงทนายรณณรงค์ร้องกองปราบ คดีลูกชายโดนตำรวจไล่ พุ่งชนกำแพงตายเงียบหายไป ด้านตำรวจจ่องัดวงจรปิดกู้ศักดิ์ศรี
นางจารีย์ อายุ 41 ปี และ นายลำไพ อายุ 61 ปี ชาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมด้วย ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อกองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังคดีของลูกชาย นายอนุชา อายุ 16 ปี พร้อมด้วย นายเอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี เพื่อนนั่งซ้อนท้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.บ้านโป่ง จนประสบอุบัติเหตุแหกโค้ง ชนกำแพงสุสาน ส่งผลให้นายอนุชาเสียชีวิต ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2561
พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย อินทร์ปรีชา ผกก. สภ.บ้านโป่ง เปิดเผยว่า ในส่วนของคดีหลังจากเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน พร้อมด้วยทีมสหวิชาชีพได้สอบปากคำนายเอ ซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว รวมทั้งได้มีรวบรวมหลักฐานแวดล้อม จากล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ตั้งแต่บริเวณหน้าวัดบ้านโป่ง จนถึงจุดเกิดเหตุ
โดยได้ประสานไปยังกองพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดราชบุรี เพื่อตรวจสอบสภาพจุดเกิดเหตุ และสภาพรถที่ถูกชน รวมทั้งในส่วนของกองพิสูจน์หลักฐานภาค 7 เพื่อทำการตรวจสอบด้านวิศวกรรม ซึ่งคาดว่าจะทราบผลได้ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้
นอกจากนั้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ส.ต.ท.ธนกฤต ในข้อหาทำร้ายผู้อื่น เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บแล้ว โดยขณะนี้ กำลังรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐานภาค 7 เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี ซึ่งหากผลชี้ชัดว่า ส.ต.ท.ธนกฤต กระทำผิดจริง พนักงานสอบสวนจะส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐต่อไป
โดยจากการสอบสวน ส.ต.ท.ธนกฤต ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะเตรียมปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร บริเวณหน้าโรงเรียนวัดบ้านโป่ง พร้อมครูอาสาจราจร ได้ยินเสียงเบิ้ลเครื่องท่อรถจักรยานยนต์ดังมาจากในวัดบ้านโป่งหลายครั้ง จึงได้ขี่รถเข้าไปตรวจสอบ
จนกระทั่งพบกับนายอนุชาและเพื่อนบริเวณซุ้มประตูวัด จึงได้ขี่รถขวางไว้ พร้อมแจ้งให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ แต่นายอนุชากลับบิดรถหลบหนีไปด้วยความเร็ว พฤติกรรมส่อมีพิรุธ จึงตัดสินขี่ไล่ตาม สุดท้ายนายอนุชาขี่รถเสียหลักไปเอง พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ถีบรถตามที่ถูกกล่าวอ้าง
ขอขอบคุณข่าวจาก