รัชกาลที่ 9 เสด็จเยือนเชียงราย

รัชกาลที่ 9 เสด็จเยือนเชียงราย





รัชกาลที่ 9 เสด็จเยือนเชียงราย

ภาพเหตุการณ์ที่ยังคงจารึกในหัวใจของประชาชนชาวเชียงรายโดยที่กาลเวลาไม่สามารถลบเลือนไปได้ คงจะไม่มีเหตุการณ์ไหนสำคัญเท่าครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จประพาสหัวเมืองฝ่ายเหนือเป็นครั้งแรก ซึ่งระยะเวลานั้นก็ผ่านล่วงมานานแล้ว ในวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2501

(ภาพนี้ชาวบ้านที่รอรับเสด็จได้ถวายสิ่งของ และดอกไม้ เอื้อเฟื้อภาพโดย ร้านทองทรรศนีย์ แม่จัน)

ภายในตัวเมืองและหลายๆอำเภอรอบนอกดูจะคึกคักเป็นพิเศษ หลังจากที่ได้ทราบข่าวว่าพระองค์ท่านจะเสด็จมายังจังหวัดเชียงรายแห่งนี้ ตามถนนหนทางสายหลักต่างๆ แน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่รอรับเสด็จ พร้อมทั้งยังมีการประดับประดาด้วยซุ้มต่างๆ เพื่อแสดงความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ และภายในตัวเมืองนั้นยิ่งแน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่ต่างจับจองที่เพื่อเข้าเฝ้าพระองค์ท่านให้ใกล้ที่สุด โดยเฉพาะบริเวณอาคารศาลากลางจังหวัดหลังเดิมที่เป็นที่ประทับของพระองค์ท่าน

หลังจากพระองค์ท่านเสด็จมาถึงได้ทรงทักทายพสกนิกรตามรายทางที่ต่างเข้าเฝ้าอย่างเนื่องแน่น จากนั้นจึงได้เสด็จสู่พลับพลาที่ประทับบริเวณศาลากลาง (หลังเก่า) ซึ่งมีพสกนิกรมากมายคอยชมพระบารมี สำหรับประชาชนทั่วไปคงจะไม่มีสิ่งใดบรรยายความรู้สึกได้ดีถึงความปลื้มปิติที่ได้ยลพระพักตร์ของพระองค์ท่าน ทำให้ความเหน็ดเหนื่อยในการเดินทางรอนแรมมาจากอำเภออื่นนั้นหายเป็นปลิดทิ้ง โดยเฉพาะการที่พระองค์ท่านทรงทักทายพสกนิการด้วยความห่วงใย จนเส้นเชือกที่ขึงไว้นั้นไม่สามารถขวางกั้นความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ท่านได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงประทับแรมศาลากลางจังหวัดเชียงราย แล้วเสด็จพระราชดำเนินต่อไปยังชายแดนแม่สาย ในวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2501 และในวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2501 ทรงเสด็จพระราชดำเนินต่อไปยังอำเภอพะเยา (ปัจจุบันเป็นจังหวัดพะเยา) เพื่อเยี่ยมเยือนพสกนิกรต่อไป

ถึงแม้ว่ากาลเวลาจะผ่านมานานกว่า 50 ปี หลายสิ่งแปรเปลี่ยนไป แต่ภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2501 ยังคงอยู่ในหัวใจของพสกนิกรชาวเชียงราย คุณยาย ประนอม ตรีวรรฒวงศ์ กล่าวถึงความรู้สึกในวันนั้นว่า ตนดีใจมาก เมื่อทราบข่าวดังนั้นในวันที่พระองค์เสด็จมาจึงไม่เป็นอันทำอะไรคิดอยู่เพียงอย่างเดียวว่าอยากเป็นคนแรกที่มาถึงบริเวณศาลากลางจังหวัด และ อยากอยู่ด้านหน้าเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดพระองค์ท่านมากที่สุด หลังจากจบประโยคคุณยายประนอมก็บรรยายภาพเหตุการณ์ในวันนั้นราวกับกาลเวลา หมุนย้อนกลับสู่วันนั้นอีกครั้ง พอพระองค์ท่านมาถึงทุกคนต่างแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่ง บางคนก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปูเพื่อให้พระองค์ท่านได้ทรงก้าวประทับ ซึ่งพระองค์ท่าน ก็เมตตาเป็นล้นพ้นได้ทรงทักทายพสกนิกรโดยไม่ถือพระองค์ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่พระองค์ท่านทั้งสองทรงตรัสถามทุกข์สุขด้วยความเมตตายิ่ง คุณบุษรา มาลารัตน์และคุณอมรรัตน์ ดารายน ผู้ซึ่งมีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระองค์ท่านกล่าวว่า เป็นความรู้สึกปลาบปลื้มใจที่ได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์ท่านทั้งสองถึงแม้ว่าเวลานั้นทั้งสองยังเป็นเด็กอยู่ก็ตามแต่ความทรงจำที่มีต่อพระองค์ท่านไม่เคยลบเลือนหายไปเลย ซึ่งคุณอมรรัตน์ ได้เล่าให้ฟังว่า ในตอนนั้นป้ามีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอเทิง พอได้ข่าวว่าพระองค์ท่านจะเสด็จมาต่างก็พากันดีใจ หลายคนในหมู่บ้านจึงเดินทางมายังตัวจังหวัด แต่ในขณะนั้นรถรายังไม่ค่อยมีและถนนหนทางยังเป็นดินลูกรังการเดินทางจึงต้องใช้เกวียนเป็นพาหนะ ซึ่งการเดินทางก็ต้องใช้เวลากว่าสามวันเลยทีเดียว แต่พอเห็นพระองค์ท่านเท่านั้นเอง ความเหนื่อยก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง คุณป้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม

*ภาพทั้งสองพระองค์ทรงทักทายพสกนิกรที่มารับเสด็จ เอื้อเฟื้อภาพโดย คุณเศรณีย์ พนัชธาดา

*ภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จยังศาลากลาง(หลังเก่า)จังหวัดเชียงราย เอื้อเฟื้อภาพโดย ร้านทองทรรศนีย์ แม่จัน

*ทรงทักทายพสกนิกรที่อำเภอแม่จัน เอื้อเฟื้อภาพโดย ร้านทรงทรรศนีย์

*ทั้งสองพระองค์ขณะทรงประทับบนที่ว่าการอำเภอแม่สายเพื่อให้พสกนิกรชาวแม่สายได้ชมพระบารมี เอื้อเฟื้อภาพโดย ร้านทองทรรศนีย์ แม่จัน

ขอขอบคุณ oldchiangrai.com





Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>