แบมเบิร์กเป็นเมืองเพียงไม่กี่เมืองในประเทศเยอรมนีที่มิได้ถูกทำลายโดยลูกระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2
แบมเบิร์ก
มรดกโลก แบมเบิร์ก (อังกฤษ: Bamberg) เป็นเมืองในแคว้นบาวาเรียในประเทศเยอรมนีที่ตั้งอยู่ในอัพเพอร์ฟรังโคเนียบนฝั่งแม่น้ำเรกนิทซไม่ไกลจาก จุดที่บรรจบกับแม่น้ำไมน์ แบมเบิร์กเป็นเมืองเพียงไม่กี่เมืองในประเทศเยอรมนีที่มิได้ถูกทำลายโดยลูกระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2 แบมเบิร์กเป็นที่พำนักของชาวต่างประเทศเกือบ 7,000 คนรวมทั้งกว่า 4,100 คนที่เป็นทหารจากสหรัฐอเมริกา ชื่อเมือง “แบมเบิร์ก” เชื่อว่ามีที่มาจากตระกูลบาเบนเบิร์ก
ประวัติ หลังจากที่จักรวรรดิโรมันเสื่อมโทรมลง ยุโรปก็เข้าสู่สมัยของการโยกย้ายและการตั้งถิ่นฐานของชนกลุ่มต่างๆ ที่รวมทั้งชนเจอร์มานิค บริเวณนี้ก็ไปรวมอยู่ในสังฆมณฑลแบมเบิร์กและกลายมาเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนส่วนใหญ่ที่เป็นชนสลาฟ
ชื่อเมืองแบมเบิร์กที่กล่าวถึงเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 902 เจริญขึ้นไกล้ๆ ปราสาทบาเบนเบิร์ค (Babenberch) ที่แผลงมาเป็นชื่อของตระกูลบาเบนเบิร์ก หลังจากตระกูลบาเบนเบิร์กสิ้นสุดลงแบมเบิร์กก็ตกไปเป็นของตระกูลแซ็กซอน บริเวณนี้มาเปลี่ยนไปนับถือคริสต์ศาสนาโดยการเผยแพร่ศาสนาของนักบวชลัทธิเบ็นนาดิคตินจากแอบบีฟุลดา แบมเบิร์กขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของสังฆมณฑลเวิร์ทซบวร์ก
ในปี ค.ศ. 1007 สมเด็จพระจักรพรรดิไฮนริคที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ก็ทรงย้ายมาตั้งราชสำนักที่แบมเบิร์กและทรงก่อตั้งให้เป็นสังฆมณฑลอิสระจากสังฆมณฑลเวิร์ทซบวร์ก เพื่อเป็นการริดอำนาจของสังฆมณฑลเวิร์ทซเบิร์กลงบ้าง และยังเป็นการสร้างฐานในการเผยแพร่คริสต์ศาสนาให้ไกลยิ่งขึ้นไปในบริเวณทาง ตะวันออกของแบมเบิร์ก ในปี ค.ศ. 1008 หลังจากการเจรจาต่อรองกับทั้งสังฆราชแห่งสังฆมณฑลเวิร์ทซบวร์กและสังฆมณฑลไอคชเสตทท์ผู้ต้องเสียดินแดนบางส่วนให้กับสังฆมณฑลใหม่
หลังจากการกำหนดอาณาเขตของสังฆมณฑลใหม่ได้แล้วสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นที่ 8 ก็พระราชทานพระราชานุมัติในปีเดียวกัน สมเด็จพระจักรพรรดิไฮนริคที่ 2 ก็ทรงจัดให้มีการก่อสร้างมหาวิหารแบมเบิร์กที่ได้รับการสถาปนาเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1012 มหาวิหารได้รับของขวัญต่างๆ จากสมเด็จพระสันตะปาปา
ในปี ค.ศ. 1017 สมเด็จพระจักรพรรดิไฮนริคที่ 2 ก็ทรงก่อตั้งสำนักสงฆ์เบ็นนาดิคตินชื่อแอบบีไมเคิลสเบิร์ก บน “ไมเคิลสเบิร์ก” (Michaelsberg--เนินไมเคิล) เพื่อเป็นสถานที่สำหรับฝึกหัดนักบวช สมเด็จพระจักรพรรดิและพระจักรพรรดินีคุนนิกกุนเดแห่งลักเซมเบิร์ก (Cunigunde of Luxemburg) ทรงอุทิศพระราชทรัพย์เป็นจำนวนมากให้แก่สังฆมณฑลใหม่และทรงมอบอภิสิทธิ์ ต่างๆ ซึ่งทำให้เป็นการเพิ่มอำนาจการปกครองทางฆราวัสจักรให้แก่สังฆราชนอกไปจาก อำนาจทางสังฆจักรที่มีอยู่ เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 8 ประพาสแบมเบิร์กในปี ค.ศ. 1020 พระองค์ก็ทรงยกให้แบมเบิร์กเป็นสังฆมณฑลที่ขึ้นตรงต่อสังฆมณฑลศักดิ์สิทธิ์ ฉะนั้นแบมเบิร์กจึงกลายเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์อยู่ ชั่วระยะหนึ่ง ร่างของสมเด็จพระจักรพรรดิไฮนริคที่ 2 และพระจักรพรรดินีคุนนิกกุนเดยังคงฝังอยู่ที่มหาวิหารที่มีอนุสาวรีย์ตั้ง เด่นอยู่กลางวัด
ตั้งแต่กลางคริสต์ศวคคษที่ 13 เป็นต้นมาสังฆราชแห่งแบมเบิร์กก็มีฐานะเป็น “สมเด็จพระสังฆราช” แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และ มีหน้าที่ปกครองเมืองแบมเบิร์กที่รวมทั้งการดูแลการก่อสร้างขนาดใหญ่ต่างๆ ระหว่างปี ค.ศ. 1248 ถึงปี ค.ศ. 1260 สังฆมณฑลก็ได้ที่ดินของเคานท์แห่งเมรันส่วนหนึ่งเป็นการซื้อขายแต่ส่วนหนึ่งเป็นการเวนคืนเพราะตระกูลที่ปกครองบริเวณนั้นมาสิ้นสุดลง อาณาจักรสมเด็จพระสังฆราชแห่งแบมเบิร์กเดิมประกอบด้วยดินแดนที่ติดต่อกัน (บางรัฐไม่ติดต่อ) ตั้งแต่ชลืสเซลเฟลด์ (Schlüsselfeld) ไปจนถึงทางตะวันออกเฉียงเหนือทางป่าฟรังโคเนีย และยังเป็นเจ้าของอาณาจักรดยุคที่รวมทั้งอาณาจักรดยุคแห่งคารินเทีย และ ซาลซ์บูร์ก, ในนอร์ดเกา (ปัจจุบันอัพเพอร์พาลาทิเนท), ในเทอริงเกีย และบนฝั่งแม่น้ำดานูป แต่หลังจากการปฏิรูปศาสนาสังฆมณฑลแบมเบิร์กก็ลดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่
ข้อมูลรูปภาพร้านอาหาร เอื้อเฟื้อโดย www.aroys.com ศูนย์รวมอาหารในประเทศไทยบนอินเตอร์เน็ต
|