พิพิธภัณฑ์มินิเดจิมะปรับปรุงดัดแปลงจากโกดังเก่าและเปิดให้เข้าชมเมื่อปีพ.ศ.2549 ภายใต้สโลแกน การกำเนิดใหม่อีกครั้งของเดจิมะ
พิพิธภัณฑ์มินิเดจิมะ (Mini Dejima)
หลังจากเกิดกบฏชิมมาบาระในปีพ.ศ. 2180 ซึ่งก่อโดยชาวคริสต์และชาวนาในนางาซากิเข้าร่วม จนนำไปสูการปราบปรามผู้นับถือศาสนาคริสต์อย่างรุนแรงโหดร้ายทารุณ หลังจากนั้นญี่ปุ่นก็ประกาศปิดประเทศ จนกระทั่ง 200 ปีกว่าต่อมาจึงเริ่มมีการติดต่อกับชาวยุโรป แต่ญี่ปุ่นก็ออกกฏจำกัดบริเวณให้พ่อค้ายุโรปติดต่อค้าขายกับพ่อค้าชาวญี่ปุ่นผ่านทางชุมชนเล็ก ๆบนเกาะเดจิมะซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ เดิมถมขึ้นให้กับพ่อค้าชาวโปรตุเกสติดท่าเรือนางาซากิ หลังเหตุการณ์กบฏชิมมาบาระ ชาววโปรตุเกสถูกขับไล่ออกไป จนกระทั่งการเปิดประเทศครั้งใหม่ จึงให้พ่อค้าชาวดัตช์เข้าไปอยู่แทน ผู้ที่จะเข้าไปได้มีแต่ขุนนาง นักปราชญ์ พ่อค้าและนางบำเรอเท่านั้น แต่ก็เป็นเพียงช่องทางเดียวที่ญี่ปุ่นติดต่อกับชาวยุโรป วิทยาการและวัฒนธรรมตะวันตกจึงเริ่มแทรกซึมเข้าญี่ปุ่นผ่านช่องทางนี้นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จึงมีแบบจำลองชุมชนบนเกาะเดจิมะในอดีตให้ได้ชม เป็นชุมชนเล็ก ๆ มีคูน้ำและกำแพงล้อมรอบ อาคารสิ่งปลูกสร้างภายในนั่นนับจำนวนหลังได้ มีทางเข้าออกเพียงด้านเดียว
Mini Dejima เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าชมมาก เพิ่งปรับปรุงดัดแปลงจากโกดังเก่าและเปิดให้เข้าชมเมื่อปีพ.ศ.2549 ภายใต้สโลแกน “การกำเนิดใหม่อีกครั้งของเดจิมะ” มีอาคารแสดงนิทรรศการหลายหลัง โรงภาพยนตร์ บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของอาณาจักรดัตช์แห่งนี้ ผู้ที่มีบทบาทในการนำวิทยาการสมัยใหม่เข้ามาในญี่ปุ่น มีข้าวของเครื่องใช้ ตัวอย่างสินค้าที่ค้าขายกันในสมัยก่อน ตลอดจนภาพวาดแสดงการดำรงชีวิตของพ่อค้าชาวยุโรปที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรเล็ก ๆ แห่งนี้
ห่างจากพิพิธภัณฑ์มินิเดจิมะไปนิดเดียวก็ถึงท่าเรือเดจิมะ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับท่าเรือนางาซากิอันใหญ่โตทันสมัย มีเส้นทางรถไฟสายแรกที่โธมัส โกลฟเวอร์เป็นผู้ที่สร้างขึ้นเพื่อขนส่งสินค้าที่ขนถ่ายจากเรือไปยังส่วนต่าง ๆ ของญี่ปุ่น
การเดินทาง ไป Mini Dejima นั่งรถรางสาย 1 ลงที่สถานี Dejima
เวลาเปิดให้เข้าชม 08.00-18.00น.(เข้าก่อน 17.40 น.)
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 200 เยน ท่าเรือเดจิมะ มีร้านค้าร้านอาหารตั้งอยู่ภายในหลายร้าน
ข้อมูลรูปภาพร้านอาหาร เอื้อเฟื้อโดย www.aroys.com ศูนย์รวมอาหารในประเทศไทยบนอินเตอร์เน็ต
|