เขาหวงซันเขาหวงซันกับความเชื่อทางศาสนามีความเกี่ยวเนื่องกันอย่างแนบแน่น
เขาหวงซัน
เขาหวงซัน เป็นเทือกเขาที่ทอดตัวอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลอันฮุย ทางตะวันออกของสาธารณรัฐประชาชนจีน (ข้อมูล มรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ ปี 1990)อาณาเขต : ประมาณ 1,200 ตร.กม.
เขาหวงซันมีชื่อเก่าว่า อีซัน คำว่า อี หมายความว่าสีดำ การที่ภูเขาหวงซันได้ชื่อนี้ก็เพราะว่า หินบนภูเขาเป็นสีดำ ภายหลังในสมัยราชวงศ์ถัง รัชสมัยถังเทียนเป่าปีที่ 6 (ค.ศ.747) วันที่ 16 มิถุนายน เปลี่ยนชื่อเป็น ‘หวงซัน’ ซึ่งแปลว่า ‘ภูเหลือง’ ตามตำนานของกษัตริย์เหลือง ที่มาประทับบนเขานี้เพื่อบำเพ็ญตบะเป็นเซียน ในวันนี้จึงกลายเป็นวันเกิดของ เขาหวงซันในที่สุด เทือกเขาหวงซัน อยู่ในเขตอากาศโซนร้อนแถบเอเชีย ยอดเขามีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,864 เมตร เนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศเป็นเขาสูงหุบลึก สภาพอากาศที่ตีน เขาและบนยอดเขามีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกัน ประกอบกับรัศมีการส่องของแสงอาทิตย์มายังเนินเขาทางทิศเหนือและใต้ ก็แตกต่างกันอย่างมาก ทำให้เกิดทัศนียภาพทะเลเมฆและหมอก ความชื้นสูง ปริมาณน้ำฝนสูง ซึ่งกลายเป็นลักษณะเฉพาะทางภูมิศาสตร์ของเขาหวงซัน ภายในอาณาบริเวณร่วม 1,200 ตร.กม. มีพื้นที่กว่า 154 ตร.กม.ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น ‘หวงซัน 500 ลี้’ ซึ่งเป็นดินแดนสุดยอดของเขาหวงซัน อุดมด้วยความงามทั้ง 4 ประการ ได้แก่ ‘สนประหลาด(สนหวงซาน) หินพิสดาร มหัศจรรย์ทะเลเมฆ และแหล่งน้ำพุร้อน’ ที่ถือเป็นชื่อเสียงของเขา หวงซันแห่งนี้
แหล่งวัฒนธรรมความเชื่อทางศาสนา เขาหวงซันกับความเชื่อทางศาสนามีความเกี่ยวเนื่องกันอย่างแนบแน่น จากบันทึกในสมัยราชวงศ์ถัง ที่กล่าวถึงตำนานในศาสนาเต๋า ที่กล่าวถึงการขึ้นเขามากลั่นยาอายุวัฒนะ หรือ การบำเพ็ญพรตเพื่อเป็นเซียนของกษัตริย์เหลือง รวมไปถึงนักพรตเต๋าอีกหลายท่าน ตำนานหลายเรื่องได้กลายเป็นที่มาของชื่อยอดเขาต่างๆบนเขาหวงซันในปัจจุบัน
อารามเต๋าเก่าแก่ที่อยู่บนเขาหวงซัน คือ อารามฝูชิว อารามจิ่วหลง เป็นต้น ในปลายสมัยราชวงศ์ซ่ง นักพรตจางอิ่นขึ้นเขาหวงซันมาบำเพ็ญพรต ยังได้ริเริ่มก่อสร้างลานเต๋าซงกู่ขึ้น จนเมื่อปลายสมัยราชวงศ์หมิง ก็ไม่มีร่องรอยของกิจกรรมของศาสนาเต๋าบนเขาหวงซันอีกเลย
ด้านศาสนาพุทธนั้น เข้ามาสู่ดินแดนเขาหวงซันเมื่อสมัยราชวงศ์ใต้(ราชวงศ์ใต้ราชวงศ์เหนือ ค.ศ.420-589) มีการสร้างวัดพุทธถึง 100 กว่าแห่ง โดยในจำนวนนี้มี วัดเสียงฝู วัด ฉือกวง และวัดชุ่ยเวย และวิหารจื้อปอฉาน เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง
นอกจากนี้ยังมีมรดกทางด้านศิลปะวรรณกรรม ที่กล่าวถึงคุณค่าความงามตามธรรมชาติของเขาหวงซัน โดยเฉพาะช่วงเวลาราว 1,200 ปี นับตั้งแต่ยุคเฟื่องฟูของสมัยราชวงศ์ถัง(ค.ศ.618-907) มาจนถึงราชวงศ์ชิงตอนปลาย มีการสร้างผลงานการประพันธ์ของกวี และงานศิลปะภาพเขียนในแต่ละยุคสมัยอย่างต่อเนื่อง ศิลปะแขนงภาพเขียนทิวทัศน์มีอยู่ จำนวนมากจนรวบรวมเป็นกลุ่ม ‘ภาพเขียนสายหวงซัน’
แหล่งน้ำพุร้อน สนประหลาด และขุนเขาในม่านเมฆ คำขวัญคู่เขาหวงซัน มรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ อันดับที่ 7 ของจีน
กล่าวกันว่าคู่รักที่มาเยือนเขาหวงซัน จะนำกุญแจมาด้วยคู่ละ2 อัน เมื่อขึ้นถึงยอดเขาจะคล้องแม่กุญแจไว้กับโซ่บนยอดนั้น แล้วโยนลูกกุญแจลงเขาไป เหมือนกับเป็นการให้ คำมั่นสัญญาระหว่างกันว่า ความรักของหนุ่มสาวจะยืนยงตลอดไป ถึงแม้ในความเป็นจริง คู่รักหลายคู่เมื่อลงจากหวงซันจะต้องมีอันจากพรากและเลิกร้างกันไป แต่เรื่องโรแมนติกนี้ยังเป็นที่นิยมปฏิบัติกันสืบมา ในกลุ่มคู่รักชาวจีนและชาว ต่างประเทศ ราวกับประเพณีที่อยู่คู่กับเขาหวงซันไปแล้ว และด้วยมนตร์ขลังของม่านเมฆ ไออุ่นของน้ำพุร้อน ฉากทิวไม้งามและหินประหลาดน่าฉงน และอำนาจของลมเย็นยะเยือก ที่ก่อตัวขึ้นเป็นบรรยากาศความโรแมนติกบนภู สูงนั่นก็เช่นกัน ที่ชวนให้ผู้มาเยือนหวงซันเคลิบเคลิ้มในห้วงรักไม่เสื่อมคลาย...
ข้อมูลรูปภาพร้านอาหาร เอื้อเฟื้อโดย www.aroys.com ศูนย์รวมอาหารในประเทศไทยบนอินเตอร์เน็ต
|