ประกันชีวิต คืออะไร?ประกันชีวิต คือ การเฉลี่ยความเสียหาย ที่จะเกิดขึ้นจากคนหนึ่งไปยังอีกหลายๆ คน โดยมีผู้รับประกันภัย ทำหน้าที่กระจายความเสี่ยง ระหว่างผู้เอาประกันทั้งหมด ด้วยการให้ผู้เอาประกันจ่ายเงินจำนวนหนึ่งในรูปของ "เบี้ยประกัน" ให้แก่ผู้รับประกันไว้เป็นเงินกองกลาง เมื่อผู้เอาประกันได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เอาประกัน ผู้รับประกันก็จะนำเงินกองกลางนั้นไปชดใช้ตามจำนวนที่ได้ตกลงกันการประกันชีวิตแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ1. ประเภทสามัญ (Ordinary Life Insurance) คือการประกันชีวิตที่มีจำนวนเงินเอาประกันภัยค่อนข้างสูง เหมาะสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางหรือสูง โดยทั่วไปกำหนดชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายปี รายหกเดือน หรือรายสามเดือน การพิจารณารับประกันชีวิต มีทั้งแบบตรวจสุขภาพ และไม่ต้องตรวจสุขภาพ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินเอาประกันภัยและอายุเป็นสำคัญ2. ประเภทอุตสาหกรรม (Industrial Life Insurance) คือการประกันชีวิตที่มีจำนวนเงินเอาประกันภัยค่อนข้างต่ำ จึงไม่มีการตรวจสุขภาพ การพิจารณารับประกันชีวิตอาศัยข้อมูลจากคำแถลงในใบคำขอเอาประกันภัย โดยทั่วไปกำหนดชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายเดือน อาจมีเงื่อนไขกำหนดระยะเวลารอคอยก็ได้ ระยะเวลารอคอย (Waiting Period) คือระยะเวลาที่กำหนดไว้เพื่อพิสูจน์สุขภาพของผู้เอาประกันภัย หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาดังกล่าว บริษัทประกันชีวิตไม่ต้องจ่ายเงินเอาประกันภัย โดยทั่วไปกำหนดไว้ 180 วัน 3. ประเภทกลุ่ม (Group Life Insurance) คือการรับประกันชีวิตบุคคลหลายคน ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยฉบับเดียว โดยพิจารณาถึงความเสี่ยงภัยของบุคคลในกลุ่มทั้งหมด ด้วยอัตราเฉลี่ย ไม่ว่าจะเป็นอายุ เพศ หน้าที่การงาน หรือจำนวนเงินเอาประกันภัย และใช้เบี้ยประกันภัยอัตราเดียวกับบุคคลทุกคนในกลุ่มนั้น ๆ การประกันภัยประเภทนี้ อัตราดอกเบี้ยประกันภัย จะถูกกว่าการประกันภัยประเภทอื่นๆ เหมาะสำหรับพนักงาน ในบริษัทต่าง ๆ ส่วนมากจะใช้ในการท่องเที่ยว กรุ๊ปทัวร์ การเที่ยวเป็นหลุ่ม เป็นหมู่คณะ ประกันชีวิตแบ่งออกได้เป็น 5 แบบ1. แบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance) คือการประกันชีวิต ที่บริษัทตกลงว่าจะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ ให้แก่ผู้รับประโยชน์ ถ้าหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 1 ปี 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี สัญญาประกันชีวิตแบบนี้ มีลักษณะเป็นการให้ความคุ้มครองการเสี่ยงภัย อันเกิดจากการ เสียชีวิตแต่เพียงอย่างเดียว ไม่มีการสะสมทรัพย์รวมอยู่ด้วย จึงมีลักษณะเช่นเดียวกับสัญญาประกันอัคคีภัย เมื่อครบกำหนดสัญญาแล้วจึงไม่มีมูลค่าใด ๆ คืนให้แก่ผู้เอาประกัน2. แบบตลอดชีพ (Whole life Insurance) คือการประกันชีวิต ที่บริษัทตกลงว่าจะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ ให้แก่ผู้รับประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต โดยไม่คำนึงว่าจะเสียชีวิตเมื่อใด แต่ถ้าหากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่จนถึงอายุ 99 ปี บริษัทประกันชีวิตก็จะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ ให้แก่ผู้เอาประกันภัย 3. แบบสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance) คือการประกันชีวิต ที่บริษัทตกลงว่าจะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ ให้แก่ผู้รับประโยชน์ ถ้าหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือจ่ายเงินให้แก่ผู้เอาประกันภัย ถ้าหากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่ในวันที่สัญญาครบกำหนด 4. แบบเงินได้ประจำ (Annuities Insurance) คือการประกันชีวิต ที่บริษัทตกลงว่าจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเป็นประจำ ให้แก่ผู้เอาประกันภัย เมื่อผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่ในวันที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยทั่วไปเงินได้ประจำ จะจ่ายเป็นปีทุกๆ ปี จนครบตามเงื่อนไขของสัญญา สัญญาประกันชีวิตแบบนี้ เหมาะกับผู้เอาประกันภัยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสะสมทรัพย์ ไว้เป็นค่าใช้จ่ายหลังจากที่เกษียณอายุการทำงานแล้ว 5. แบบควบการลงทุน (Unit linked) เป็นการทำประกันชีวิต โดยได้ความคุ้มครองค่าความสามารถ และในขณะเดียวกันก็ไม่เสียโอกาสในการลงทุน ในกองทุนรวมที่ทางบริษัทประกันคัดสรรมาให้ผู้เอาประกัน ได้เลือกลงทุนตามความเสี่ยงที่ผู้เอาประกันรับได้ โดยตัวแทนที่ทำหน้าที่นำเสนอขายแบบประกันนี้ จะต้องมีใบอนุญาตSingle Licenseจาก กลต.ด้วย |
:: อ่านข่าว |
|
:: รวมของฟรี |
|
เล่นเกมส์ l กลอน l ดูดวง l แชท l ฟังวิทยุออนไลน์ l อาหาร l ดูทีวีออนไลน์ l เรื่องตลก l เรื่องผี l หาเพื่อน l วันสำคัญ l อีการ์ด l ทำนายฝัน l ท่องเที่ยว l รถยนต์ |
:: ซาบซ่าส์ |
:: ลิงค์แนะนำ |
|
||||||||