วันที่ท่านปรีดี
พนมยงค์ ในพระปรมาภิไธยของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
ประกาศสันติภาพให้แก่ประเทศไทย หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงอย่างเป็นทางการ
1 วัน ถือเป็นหนึ่งในคุณูปการอันใหญ่หลวงต่อประเทศไทยประการหนึ่งที่ท่านปรีดี
พนมยงค์ได้บำเพ็ญไว้ ขณะดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในทางเปิด
และหัวหน้าขบวนการเสรีไทยในทางลับ เป็นการทำให้ประเทศไทยไม่ต้องเป็นผู้แพ้สงคราม
นับแต่วันที่กองทัพญี่ปุ่นยาตราเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อเช้าวันที่
8 ธันวาคม 2484 ท่านปรีดี พนมยงค์ก็นัดหมายบุคคลใกล้ชิดมาหารือกันในตอนค่ำวันเดียวกันทันทีที่บ้านถนนสีลม
บรรลุหลักการจัดตั้งขบวนการกู้ชาติเพื่อต่อต้านศัตรูผู้รุกรานอธิปไตยขึ้นในทันที
เพราะเชื่อว่าโดยรัฐบาลไทย ในขณะนั้นมีแนวโน้มที่จะยอมรับเป็นพันธมิตร
กับผู้รุกรานด้วยความจำเป็น ขบวนการกู้ชาติในชั้นต้นใช้ชื่อว่าองค์การต่อต้านญี่ปุ่น
!
ภารกิจมีอยู่ 2 ประการ ได้แก่ ต่อต้านญี่ปุ่นผู้รุกรานโดยพลังคนไทยผู้รักชาติทั้งในประเทศและต่างประ
เทศ รวมทั้งร่วมมือกับฝ่ายสัมพันธมิตร คืออังกฤษและสหรัฐอเมริกา
และที่สำคัญคือ จะต้องปฏิบัติการเพื่อให้สัมพันธมิตร เห็นและรับรองในเจตนารมณ์อันแท้จริง
ของคนไทยด้วย
เมื่อรัฐบาลไทยประกาศสงครามกับอังกฤษและสหรัฐอเมริกาในวันที่ 25
มกราคม 2485 ภารกิจของขบวนการกู้ชาติก็เพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง คือจะต้องปฏิบัติการ
เพื่อให้สัมพันธมิตรรับรองว่าประเทศไทย จะไม่ตกเป็นฝ่ายแพ้สงคราม
และการผ่อนหนักเป็นเบาหลังสงครามยุติ ที่ตั้งในชั้นต้นของกองบัญชาการ
ของขบวนการกู้ชาติอยู่ที่มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง เนื่องเพราะท่านปรีดี
พนมยงค์ยังคงดำรงตำแหน่ง ผู้ศาสน์การอยู่และอยู่ใกล้กับบ้านพักรับรองของท่านบริเวณท่าช้าง
บ้านพักรับรองที่เคยเรียกขานกันในยุคนั้นว่า ทำเนียบท่าช้าง นั้นปัจจุบันได้รับการจำลองแบบมาสร้างไว้บนเนื้อที่
150 ไร่แบ่งออกมาจากสวนน้ำบึงกุ่มที่มีอยู่ 360 ไร่ เพื่อเป็นหอเกียรติภูมิ
และเกียรติประวัติระลึกถึงวีรกรรม ของสมาชิกขบวนการเสรีไทย อันเป็นดำริเริ่มต้นจากทายาทสมาชิก
ขบวนการเสรีไทยและสมาชิกขบวนการเสรีไทย ที่ยังเหลืออยู่ตั้งแต่เมื่อวันที่
16 สิงหาคม 2533 โดยได้รับความร่วมมืออย่างดี พอสมควรจากกรุงเทพมหานครในยุคนั้น
เพิ่งจะสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา |