ล็อกอายุผิว คงความอ่อนเยาว์ให้คุณ
ถ้าเราสามารถหยุดความอ่อนเยาว์ คงความเป็นหนุ่มเป็นสาวได้เหมือนนาฬิกาก็คงดีไม่น้อย
แต่ในชีวิตจริงไม่เป็นเช่นนั้น ผิวพรรณ และระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานเหมือนเข็มสั้นเข็มยาวที่เดินไปเรื่อยๆ ผิวพรรณที่ดูสดใส เมื่อวัยแรกสาวก็ร่วงโรยตามกาลเวลา หนำซ้ำหากดูแลรักษาไม่ดีผิวจะเสื่อมสภาพ ดูแก่ก่อนวัยอันควรได้ง่ายๆ
มร.เกล็นน์ เชนี่ย์ และ มิส เค.ซี.ฮอลลี่ ผู้เปิดประเด็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของยีนแห่งความอ่อนเยาว์ จนได้รับการยอมรับจากหลายประเทศ ลองมาอัพเดทเทรนด์ใหม่ๆ ก่อนเวลาจะพรากความอ่อนเยาว์เราไปมากกว่านี้
สัญญาณความร่วงโรยแห่งวัย เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่เราต้องการคือคงความสดใส ดูอ่อนเยาว์ ทั้งภายในและภายนอก การคงความอ่อนเยาว์จากภายนอก คือผิวพรรณที่ปราศจากริ้วรอยก่อนวัย สัมผัสเรียบเนียน ดูเปล่งปลั่ง ส่วนภายในคือความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า มีพละกำลังทั้งร่างกายและสมอง พร้อมทำกิจกรรมต่างๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น คือร่างกายไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างที่ตั้งใจไว้ สัญญาณแห่งความร่วงโรยแห่งวัยที่สังเกตได้คือ อาการเฉื่อยชา เซื่องซึม หงอยเหงา สูญเสียการควบคุมที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ การแสดงออกของยีนก็จะเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลต่อความรู้สึกอ่อนเยาว์ของร่างกาย ส่วนในด้านของสัญญาณแห่งความร่วงโรยของผิวนั้น ก็ได้แก่ ริ้วรอย โครงสร้างผิวอ่อนแอ ความสม่ำเสมอกันของสีผิว ความชุ่มชื้นของผิวลดลง สภาพผิวไม่เรียบเนียนกระจ่างใส และรูขุมขนกว้างขึ้น
ยืนแห่งความอ่อนเยาว์ ทุกคนคงเคยสงสัยว่า ทำไมคนที่อยู่ในช่วงอายุหรือวัยเดียวกันแต่กลับมีริ้วรอยหรือสัญญาณแห่งความแก่ชราไม่เท่ากัน นี่เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาการทำงานของยีนในร่างกายมนุษย์ที่มีผลต่อความเสื่อมชรา ซึ่งไม่ได้ศึกษาเพียงแค่ 1-2 ยีน แต่ศึกษารายละเอียดลึกซึ้งทั้งกลุ่มยีน จนสามารถระบุการทำงานของยีนแต่ละตัวได้ และพบว่าการทำงานของยีนในร่างกายของแต่ละคนมีการแสดงออกแตกต่างกัน หากเปรียบเทียบกลุ่มยีนกับวงออเครสต้า ถึงแม้แต่ละวงจะบรรเลงเพลงเดียวกันแต่ย่อมมีความไพเราะแตกต่างกัน เนื่องจากยีนแต่ละตัวจะทำหน้าที่ของตนเช่นเดียวกับหน้าที่ของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นในวง หากเครื่องดนตรีเพียงชิ้นเดียวในวงเกิดปัญหา ย่อมส่งผลให้การบรรเลงเพลงขาดความไพเราะ เปรียบเหมือนกับความเสื่อมชราของยีนตัวใดตัวหนึ่งย่อมมีผลต่อความร่วงโรยของผิวพรรณได้ด้วยเช่นกัน
ปัจจัยที่ส่งผลร้ายต่อการทำงานของยีน ปัจจัยที่เป็นตัวเร่งให้ยีนทำงานผิดปกติ ส่วนหนึ่งเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น ไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล โดยไลฟ์สไตล์ที่ส่งผลกระทบต่อความร่วงโรยของผิวอย่างร้ายแรง นั่นก็คือ การสูบบุหรี่ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผิวดูแก่ก่อนวัยแล้ว การสูบบุหรี่ยังเข้าไปทำลายสุขภาพและเป็นตัวการในการสร้างสารอนุมูลอิสระออกมาทำลายเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงการออกกำลังกายกายและการรับประทานอาหาร สิ่งเหล่านี้ล้วนสามารถส่งผลต่อการทำงานของยีนในร่างกายคนเราได้ทั้งสิ้น และอีกประการที่สำคัญคือแสงแดด ที่ไม่เพียงแต่จะทำลายโปรตีนบนผิวเท่านั้น แสงแดดยังเข้าไปทำลายถึงระดับเซลล์และส่งผลต่อการแสดงออกของยีน โดยหากเปรียบเทียบเม็ดสีผิวที่ได้รับผลกระทบจากแสงแดดระหว่างคนเอเชียกับคนยุโรป จะพบว่าคนเอเชียจะมีเม็ดสีที่แข็งแรงกว่าจึงทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์กว่า แต่จะเกิดฝ้า กระได้ง่ายกว่า ส่วนคนในโซนยุโรป ปัญหาที่พบคือริ้วรอย ผิวเหี่ยวย่น
กลุ่มอาหารที่เข้าไปช่วยบำรุงการทำงานของยีน อาหารเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การทำงานของยีนคงประสิทธิภาพดี ดังนั้นเราจึงควรบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้หลากสี เช่น สีส้ม สีแดง สีเหลือง สีเขียว อย่าเน้นไปที่สีใดสีหนึ่งเพียงอย่างเดียว เพราะทุกอย่างมีประโยชน์หมด มีการค้นพบว่า คนที่ทานผักผลไม้สม่ำเสมอจะมีผิวที่ดูชุ่มชื้นและเต่งตึงมากกว่าคนที่ไม่ได้ทาน นอกจากนี้เราไม่ควรบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบที่มีน้ำตาลมากเกินไปเพราะน้ำตาลจะเข้าไปทำลายเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ และลดประสิทธิภาพการทำงานของยีน รวมถึงการทานเนื้อสัตว์หรืออาหารจานด่วนก็ส่งผลให้ผิวพรรณและสุขภาพดูแก่ก่อนวัยและมีเปอร์เซ็นต์การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูงด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่า สารสำคัญในชาเขียวช่วยเร่งการทำงานของอีสาลติน เสริมสร้างโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ยกกระชับ และเต่งตึง รวมถึงสารแคโรทีนอยด์ที่อยู่ในพืชผักผลไม้หลากสี ช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดได้
ล็อกผิวให้สวยสมวัย สิ่งที่ผู้มีปัญหาเรื่องผิวพรรณกังวลหลักๆ จะมีอยู่ประมาณ 5-6 ประการ ซึ่งผู้หญิงสมัยใหม่ก็รู้จักดูแลตัวเองอยู่แล้ว จากการสอบถามบรรดาแพทย์ ทำให้ทราบว่า สภาพผิวที่จัดว่าเป็นผิวที่สวย คือ ... - ต้องไม่มีริ้วรอยเหี่ยวย่น - ผิวดูกระจ่างสดใส สีผิวสม่ำเสมอกัน ไม่มีจุดด่างดำ - ขนาดรูขุมขนที่ไม่ใหญ่ ดูเล็กละเอียดเรียบเนียน - ผิวหน้ามีความชุ่มชื้น ไม่แห้งหรือมันเกินไป
|