คุณสมบูรณ์มากไป...หรือเปล่า??
ทั้ง ๆ ที่ทราบกันอยู่ว่าคนเรากินอะไรต่อมิอะไรมากเข้าก็ต้องอ้วน อ้วนแล้วต่อไปก็ต้องเผละ เผละแล้วก็ต้องไม่สวย ไม่สวยแล้วใครเล่าจะมอง ก็เห็นได้แต่บ่นกันไปแต่เรื่องอดใจยับยั้งการกินมันเป็นคนละเรื่องกัน หรืออีกทีเราก็คิดว่าตัวเราเองหรือก็อดอาหารจะแย่อยู่แล้ว แต่ทำไมไม่ยักผอมเหมือนคนอื่นเขาเสียที เรื่องนี้มันต้องมีความผิดพลาดเกิดขึ้นแน่ ๆ อย่างหนึ่งก็คือ คุณยังเป็นนักกินอยู่นั่นเอง แต่คุณเป็นนักกินประเภทไหน มีผลการวิจัยของ ดร.ไซมอนซัน ได้ค้นคว้าเรื่อง ไดเอทของมนุษย์ผู้หญิงเราโดยเฉพาะ มีข้อชวนให้คิดมากมายดังต่อไปนี้...
ก่อนที่คุณคิดจะลดความอ้วน คุณควรยอมรับความจริงชั้นแรกเสียก่อนว่า คุณเป็นนักกินประเภทไหน แล้วคุณจะค่อย ๆ แก้นิสัยการกินได้สำเร็จ จากนั้นก็ได้แบ่งสาเหตุแห่งการอ้วนของนักกินอย่างเรา ๆ ไว้ดังนี้
1. พวกหนักไปทางมื้อเย็น พวกนี้จะมีนิสัยกินกลางวันน้อย แต่พอถึงอาหารเย็นพวกนี้จะกินมากจนหยุดแทบไม่ได้ หรืออีกทีบางคนกินอาหารเย็นไปแล้ว แต่ยังไม่หนำใจ พอตกดึกต้องควานหาของกินแก้หิวอีกรอบ แถมบางคนยังเห็นอาหารมื้อดึกเป็นยานอนหลับขนานเอกเสียอีก ถ้าไม่ได้กินเป็นนอนไม่หลับ พวกนี้จึงไม่ยอมผอมกับใครด้วยประการฉะนี้ 2. พวกต้องมนต์เสน่ห์ของอาหาร พวกนี้ดู ๆ ไปก็ไม่ได้ชอบอาหารชนิดใดเป็นพิเศษ แต่ก็นั่นล่ะก็ไม่ได้รังเกียจอาหารชนิดใดเลยเช่นกัน จะกินทุกอย่างที่ขวางหน้าและกินกันเกือบตลอดเวลาทีเดียว ส่วนเรื่องบ่นว่าอยากผอมก็บ่นกันต่อไปเมื่อกินเสร็จแล้ว 3. พวกที่กำลังจะเป็นคุณแม่ ต้องยอมรับว่าคนท้องจำเป็นต้องกินอาหารมากกว่าปกติ แต่บางคนก็กินเกินไปชนิดที่ไม่คำนึงถึงอะไรเลย จะว่าเอาเรื่องท้องขึ้นมาบังหน้าก็ไม่ถนัด ยังไงก็ขอให้ยั้ง ๆ ไว้บ้าง แต่ถ้าใครจะคิดลดน้ำหนักตอนท้องก็ขอว่าอย่าดีกว่า เพราะจะยิ่งอันตรายมากขึ้น ถ้าคิดจะลดน้ำหนักในช่วงนี้จริง ๆ ก็ต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด 4. พวกที่ภรรยากำลังท้อง ผู้ชายพวกนี้เรียกได้ว่า พลอยแพ้ท้องไปด้วย เมื่อศรีภรรยาท้องได้ระยะหนึ่ง อาการก็คือกินจุบกินจิบไม่ขาดปากเหมือนผู้หญิง ตามสถิติรายงานว่าผู้ชายในภาวะภรรยาท้องนี้มักจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ที่เป็นเช่นนี้ทางจิตแพทย์บอกว่าเป็นเพราะความไม่พอใจของผู้ชาย (โดยไม่รู้ตัว) ที่ตัวเองถูกทอดทิ้ง ระหว่างนี้จึงหันไปกิน..กิน..และกิน.. 5. พวกอ้วนวันอ้วนคืน พวกนี้ส่วนมากมักได้แก่พวกวัยรุ่นซึ่งร่างกายกำลังอยู่ในระยะเจริญเติบโต จึงต้องการอาหารมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะวัยรุ่นบางคนเมื่อมีปัญหาและไม่สามารถแก้ไขได้ หรือไม่ก็ทนต่อความผิดหวังไม่ได้จะยิ่งหันไปกิน..กิน..และกิน..อีกเหมือนกัน
6. อ้วนเพราะเงิน พวกนี้เป็นพวกที่งานหยุดพักไม่ตรงกับเวลาอาหารแต่ละมื้อ หรือได้แก่พวกที่ทำงานพิเศษต่าง ๆ หรือทำพาร์ทไทม์ ซึ่งจะต้องรีบกินทันทีที่มีโอกาส และยังนิยมกินเผื่อหิวในมื้อต่อไปจนเป็นนิสัย ไม่ช้าก็เห็นผลคือเผละเสียแล้ว 7. พวกอ้วนเพราะสภาพแวดล้อม พวกนี้ส่วนใหญ่ ได้แก่ พวกแม่บ้าน ที่ต้องอยู่โยงทำงานบ้านทั้งหลาย หรือบรรดานักธุรกิจที่จะต้องมีงานเลี้ยงรับรองบ่อย ๆ จนไม่รู้มื้อไหนเป็นมื้อไหน 8. พวกอ้วนเพราะขาดความมั่นใจในตนเอง พวกนี้มักช่างอาย ช่างเขิน แรก ๆ ก็อาจเป็นคนอ้วนอยู่เหมือนกัน และเพื่อซ่อนความอายที่ตัวเองอ้วนหรือไม่อยากสนทนากับใคร ก็กินอาหารเป็นการแก้อาการเขินอาย ผลสุดท้ายคือยิ่งอ้วนขึ้นไปเรื่อย ๆ 9. พวกอ้วนเพราะนั่งเป็นอาจิณ พวกนี้ส่วนมากมักทำงานที่ต้องนั่งแหมะอยู่กับโต๊ะ นับวันก็ยิ่งอืดอาด ไม่กระฉับกระเฉง แถมยังเกลียดการออกกำลังกายเป็นที่สุด ในที่สุดก็อ้วน เมื่ออ้วนก็ยิ่งอืดอาดและเกียจคร้านเป็นวัฏจักรเช่นนี้เรื่อยไป 10. พวกอ้วนเพราะโรค พวกนี้ส่วนมากจะเป็นพวกที่โรคภัยไข้เจ็บคุกคาม จนทำให้ลุกไปไหนมาไหนไม่ได้ หรือบางครั้งก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นในชีวิตจนต้องนั่งอยู่กับเก้าอี้อย่างเดียว ขณะที่ไม่สามารถเดินเหินไปไหนมาไหน หรือออกกำลังกายได้นั้น ก็จะหันไปหาอาหารเป็นเครื่องทดแทนหรือชดเชยในเวลาว่าง ๆ ที่สุดก็กลายเป็นคนกินจุบกินจิบจนเป็นนิสัย บางคนแม้หายแล้วก็ยังไม่ยอมเลิกรา
11. พวกอ้วนเมื่อย่างเข้าวัยกลางคน คนเราเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็จะต้องการแคลอรี่น้อยลง แต่คนส่วนใหญ่ยังกินอาหารเท่าเดิมโดยไม่ได้สนใจจะควบคุมอาหารหรือจำกัดอาหารให้น้อยลง ในที่สุดแคลอรี่ที่สะสมในร่างกายก็จะพอกพูนมากขึ้นทุกที คนวัยกลางคนจึงมักอ้วนขึ้นเป็นส่วนใหญ่ 12. พวกอ้วนเพราะยาบำรุง พ่อแม่ส่วนใหญ่จะชอบให้ลูกกินยาบำรุงโน่นบำรุงนี่ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความรู้เรื่องโภชนาการเอาเสียเลย ธรรมดาอาหารก็มีประโยชน์ครบสมบูรณ์ในตัวของมันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องบำรุงเพิ่มกันอีก ถ้ากรณีที่อยากให้ลูกกินยาบำรุงก็ควรมีคำแนะนำของแพทย์ประกอบด้วยก็น่าจะดีกว่า พ่อไม่ไม่ควรทำตัวเป็นหมอที่ไม่มีใบประกอบโรคศิลป์เสียเองนะคะ 13. อ้วนแต่เด็ก คนพวกนี้แทบเรียกได้ว่าอ้วนมาแต่กำเนิด จนโตก็ยังไม่สามารถลดน้ำหนักได้ และยังเป็นพวกที่ลดน้ำหนักยากเสียอีกด้วย คนพวกนี้ถ้าคิดจะลดน้ำหนักจริง ๆ คงต้องปรึกษาแพทย์ก่อนค่ะ 14. พวกอ้วนเพราะมีศิลปะในการกินมากเกินไป พวกนี้ส่วนใหญ่ ได้แก่ นักชิมอาหารทั้งหลายซึ่งชีวิตดูเหมือนจะมีความสุขกับการได้ลองลิ้มชิมรสอาหารต่าง ๆ และส่วนใหญ่ก็ยังเป็นพ่อครัวหรือแม่ครัวหัวป่าเองเสียด้วย ในเมืองไทยก็มีตัวอย่างอยู่แล้ว 2 - 3 คน ลองนึก ๆ ดูเอาเองนะคะ 15. อ้วนเพราะหมดประจำเดือน ผู้หญิงบางคน ปกติก็กินไม่มากนักแต่พอกำลังจะหมดประจำเดือนกลับกลายเป็นนักกินไปได้ เรื่องนี้จิตแพทย์วิเคราะห์ว่าเป็นเพราะจิตใจของผู้หญิงช่วงนี้จะเครียดมาก จึงหงุดหงิดและอารมณ์เสียบ่อย ๆ ในผู้ชายก็มีเช่นกัน บางคนจึงหันไปหาอาหารแทนการเป็นปากเป็นเสียงกับผู้คน พวกนี้จึงนับว่าเป็นพวกอ้วนน่ารักเอาการทีเดียว 16. พวกกินมากเป็นนิสัย พวกนี้มักอยู่ในครอบครัวที่พ่อแม่ชอบให้ลูกกินมาก ๆ แล้วจะสบายใจเพราะเห็นลูกกินได้นอนหลับ ในที่สุดเด็กก็จะติดนิสัยที่กินอะไรแล้วต้องกินมาก ๆ กินน้อย ๆ ไม่เป็น เช่นนี้ก็ไม่ต้องสงสัยกันแล้วว่าทำไมคนบ้านนี้ทั้งบ้านจึงมีหุ่นตุ่มกลิ้งได้เหมือนกันหมด
จะหยุดกินได้อย่างไร ลองดูกันอีกสักวิธี
ก่อนอื่นคุณต้องจดบันทึกประจำวันอย่างละเอียดลงไปเลยว่า วันหนึ่ง ๆ คุณกินอาหารตอนไหนบ้าง กินกับใคร คุณรู้สึกอย่างไรระหว่างกินอาหาร คุณกินอาหารเพราะเหงา เพราะเศร้าใจ เพราะโกรธ เพราะเสียใจ หรือเพราะหมดหวังบ้างหรือเปล่า แล้วก็ค่อย ๆ พิจารณาดูว่าอาหารในวันนี้มากเกินพอดีไหม เราน่าจะลดลงใช่หรือไม่ ลองคิดเล่น ๆ ก็ได้ว่าวันนี้ไก่อยู่ในท้องเราถึงตัวหรือยัง หรือน้ำตาลเข้าไปสะสมในร่างกายเรากี่กรัมกันแล้ว จากนั้นเราก็ค่อย ๆ ลดอาหารลงด้วยปัญญาของเรา ๆ กันเองนี่ล่ะ นัยว่าวิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีสติและวิจารณญาณดีเป็นสำคัญ ข้อควรหลีกเลี่ยง
1. อย่ากินขนมจุกจิกระหว่างวัน 2. อย่ากินขนมตอนทำงาน เช่น มือทำไปปากเคี้ยวเพลิน ก็เลยอ้วนเพลินไปเลย 3. พอมีเวลาว่าง อย่าใช้เวลาว่างไปกับการกิน หาอย่างอื่นทำแทน 4. เลิกบ่นซะทีว่า ฉันอ้วนเหลือเกิน โดยไม่ทำอะไรเลย เลิกบ่นแล้วหันมาทำอะไรสักอย่างเพื่อลดความอ้วนดีกว่า 5. อย่าเสียดายอาหารเหลือแล้วนั่งเก็บกินจนเกลี้ยง 6. อย่าทำอาหารไปชิมไป 7. ออกกำลังกายทุกวันอย่าได้ขาด 8. ใจแข็งเข้าไว้เวลาเห็นขนมเค้กหรือพายสักชิ้น
แต่ถ้าคุณคิดจะลดน้ำหนักโดยใช้ยาควบคุมล่ะก็ ขอเตือนว่าคนที่กินยาประเภทนี้โดยพลการมีเรื่องให้ต้องเสียใจกันนักต่อนักแล้วนะคะ
|