ผิวเนียนใส หัวใจสำคัญของเมคอัพ

      การแต่งหน้าก็เหมือนงานศิลปะ หากต้องการเพนต์ภาพ กระดาษหรือผืนผ้าใบที่ใช้ก็ควรมีคุณภาพ ซึ่งเมคอัพที่ดูสดสวยจะช่วยสร้างองค์ประกอบให้ใบหน้ามีความโดดเด่นยิ่งขึ้น ดังนั้น ผิวที่ดูสว่างใส และเรียบเนียนจึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการแต่งหน้าให้สวยปิ๊ง

  7 Steps to Prep Your Skin 

       ขั้นตอนการเตรียมผิวโดยทั่วไปของเมคอัพมืออาชีพ สำหรับการแต่งหน้าให้สวยเพอร์เฟ็กต์และติดทนนาน ซึ่งอาจข้ามบางขั้นตอนไปก็ได้ในวันสบาย ๆ หรือชั่วโมงเร่งด่วนที่ไม่มีเวลาจากคำแนะนำของช่างแต่งหน้ามืออาชีพ ธนาพล มูลคำ บอกว่าการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้านั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวด้วย อย่างผิวคนเอเชียในเมืองร้อน ที่อากาศค่อนข้างชื้น ก็จะมีวิธีเตรียมผิวตามขั้นตอนเหล่านี้

     Cleansing ก่อนแต่งหน้า ผิวจะต้องสะอาดหมดจดก่อน ทำความสะอาดผิว โดยการล้างหน้าหรือเช็ดสิ่งสกปรกที่ติดค้างบนผิวหน้าด้วย สำลีชุบน้ำยาทำความสะอาดผิว เมื่อล้างหน้าสะอาดแล้วไม่ต้องเช็ดด้วยโทนเนอร์ซ้ำก็ได้

     Moisturizing ก่อนจะเริ่มแต่งหน้า การบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื่นก่อนก็มีความสำคัญ เพราะผิวที่แห้งตึงจะทำให้แต่งหน้ายาก ลองเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยครีมบำรุงโดยเลือกเดย์ครีมที่มี SPF และเน้นที่เป็น PA+++ ก็จะช่วยกันแดดด้วย สำหรับคนที่มีเวลาสักหน่อย จะลงอายครีมที่ใต้ตาด้วยก็ได้พอลงมอยส์เจอไรเซอร์ไปแล้ว ใช้นิ้วกดให้ครีมบำรุงลงไปทั่วหน้าทิ้งไว้ 3-5 นาที เพื่อให้ครีมซึมซาบลงสู่ผิว ถ้าเป็นคนผิวมันและกลัวว่าผิวจะมันเยิ้มก็ให้เลือกใช้เซรั่มแทนครีมที่มีเนื้อเข้มข้นจะดีกว่า

     Prime Your Skin เราจะลงไพรเมอร์ก่อนการแต่งหน้าเพื่อปกปิดรูขุมขนให้ผิวดูเนียนขึ้น ซึ่งมักจะเป็นเนื้อเจลหรือเนื้อใส ๆ และเวลาใช้ต้องลงหลังจากที่ลงครีมบำรุงผิวแล้ว โดยแตะเพียงเล็กน้อยแล้วเกลี่ยลงบนผิวให้เนียน ส่วนอายแชโดว์ไพรเมอร์จะใช้สำหรับรองพื้นเปลือกตาให้สีอายแชโดว์ติดทนและชัดเจนขึ้น

     Purifying เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวก่อนที่จะลงรองพื้นด้วยเมคอัพเบส ซึ่งแต่ละโทนสีก็จะเหมาะกับสภาพผิวที่ต่างกัน อย่างผิวที่มีรอยสิว จุดด่างดำ หรือรอยหมองคล้ำก็เลือกเบสตามชนิดของการปกปิด โดยแตะลงบริเวณที่ต้องการเน้นความกระจ่างใส เช่น หน้าผาก จมูก ร่องแก้ม ใต้ตา แล้วใช้นิ้วกดให้เบสซึมลงไป เกลี่ยซ้ำอีกครั้งให้ทั่วและระวังอย่าให้เป็นคราบ

     Foundation ขั้นตอนสำคัญที่สุดคือการลงรองพื้น ถ้าต้องการผู้ช่วยปกปิดมากหน่อย ให้เลือกแบบเนื้อครีมดีกว่า เพราะความแน่นของเนื้อครีมจะช่วยเพิ่มการปกปิดจุดบกพร่องบนผิว แต่ถ้าต้องการผิวเนียนใสแบบเบา ๆ ให้ใช้แบบลิควิดที่จะเผยผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนการเลือกสีของรองพื้นนั้น เพื่อป้องกันความผิดพลาด ให้เลือกโทนสีระดับกลาง ๆ ไว้จะปลอดภัยสำหรับผิวเอเชีย แต่ถ้าต้องผสมสีรองพื้น ให้เทรองพื้นลงที่หลังมือแล้วใช้แปรงเกลี่ยสีให้เข้ากัน อุณหภูมิที่หลังมือจะช่วยอุ่นให้เนื้อรองพื้นเกลี่ยได้ง่ายขึ้น และเมื่อลงรองพื้นทั่วใบหน้าแล้ว ก็อย่าลืมลงที่คอด้วยเพื่อให้สีกลมกลืนกัน ส่วนคนที่มีผิวดีอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช้รองพื้นก็แต้มบีบครีมเพียงเล็กน้อยที่หน้าผาก แก้ม และคาง แล้วเกลี่ยให้ทั่วก็พอ

     Conceal ปกปิดริ้วรอยหมองคล้ำรอบดวงตา ด้วยการใช้คอนชีลเลอร์ลบเลือนจุดหมองคล้ำก่อนจะลงรองพื้นก็ได้ โดยใช้คอนชีลเลอร์เนื้อลิควิดหรือแบบน้ำ แต่ถ้าต้องการการปกปิดเป็นพิเศษ ก็ให้เลือกชนิดครีมที่มีเนื้อหนาขึ้น โดยกดให้เนียนไปกับผิวด้วยนิ้วนางหรือแปรงแต่งหน้าแบบแบน

     Touch Up เช็ตผิวให้เนียนเรียบด้วยแป้งฝุ่นโดยใช้แปรงปัดให้ทั่วใบหน้าหรือถ้าอยากเพิ่มการปกปิดให้ผิวดูแน่นขึ้นก็ลงด้วยพัฟฟ์ แต่ต้องเคาะแป้งออกก่อน อย่าให้มากจนเกินไป ส่วนคนที่มีผิวมันควรเลือกแป้งแบบที่เป็นเนื้อแมตต์ และเลี่ยงแป้ง ที่มีประกายชิมเมอร์ซึ่งอาจทำให้ผิวดูมันวาว

   More Tips   

      เคล็ดลับที่จะช่วยให้ผิวหน้าเนียนติดทนนาน โดยไม่เป็นคราบก็คือ ใช้สเปรย์น้ำแร่วัดบนผิวหน้าให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพักแล้วใช้ทิชชูซับออกก่อนจะลงแป้งก็จะช่วยให้แป้งไม่จับตัวเป็นคราบในระหว่างวัน เมื่อเหงื่อเริ่มออกก็ใช้ทิชชูซับผิวอย่างเบามือ ก่อนที่จะเติมแป้งอีกเล็กน้อย

      หลายคนสงสัยว่าโพรเมอร์และเมคอัพเบสต่างกันอย่างไร จำเป็นต้องใช้ทั้งสองอย่างรึเปล่า คำตอบคือทั้งสองอย่างนี้ใช้คู่กันได้ เพราะไพรเมอร์จะมีส่วนผสมของซิลิโคนที่จะช่วยปรับรูขุมขน และอำพรางให้ผิวดูเนียนเรียบ ส่วนเบสก็จะช่วยปรับสีผิวให้เนียนสม่ำเสมอ และช่วยให้เมคอัพติดทนนาน