กว่าจะเกิดภาพรวมสไตล์เส้นผมเป็นรูปลักษณ์ รูปแบบ ลีลาหลากหลายทั้งที่ปรากฏเป็น"แนวโน้วแฟชั่นทรงผม (Hairstyle Trend) เฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ กลุ่มช่างผมมืออาชีพระดับแนวหน้า และกลุ่มดีไซเนอร์ชั้นนำระดับโลก ล้วนต้องมีการประเมินผลลัพธ์ของการยอมรับในฤดูการที่ผ่านมาแล้วมาประเมิน ผลลัพธ์ที่คาดหวัง สัมพันธ์กับการพิจารณากระแสเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองโลกไร้พรมแดน การจะยึดครองผู้บริโภคแฟชั่น (Fashion Consumers) ได้มากที่สุด การวิจัยและการพัฒนา (R&D) เป็นเรื่องที่ต้องลงมือทำกันอย่างจริงจัง เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำที่ถูกทิศ ถูกทาง
ผมมีลูกศิษย์ที่มาเรียนด้านแฟชั่น โดยมีอาชีพหลักเป็นช่างทำผม และช่างเสริมสวยหลายคน ถามเขาว่า "มาเรียนไปทำไม ที่ทำอยู่ก็ลูกค้ามากจนล้นมือแล้วมิใช่หรอ"ส่วนใหญ่จะบอกว่ามีปัญหาด้านการ เปลี่ยนทัศนคติ และโลกทัศน์กับลูกค้าและลูกน้องในร้าน ตลอดจนการตอบคำถามลูกค้าได้ไม่ชัดแจ้ง ที่สำคัญต้องสู้กับความลงตัวระหว่างคำ 3 คำ คือ "รสนิยม ค่านิยม และแนวนิยม"ว่า ขณะที่กำลังดูแลลูกค้าจะต้องหาค่าเฉลี่ยให้สมดุลอย่างไร จึงต้องมาเรียนรู้ด้านศิลปศาสตร์แฟชั่น เพื่ออนำเอาภาษาแฟชั่นไปใช้เจรจาจูงใจลูกค้าให้ถูกทาง เพราะคงจะใช้แค่ฝีมือที่ทำผมให้ลูกค้าได้ทุกลูกแบบจะครองใจลูกค้าได้ยังยืน คงไม่พอ ดังนั้นเนื้อหาแฮร์สไตล์ดีไซน์ตอนนี้ ผมจึงอยากจะนำเอาคำ 3 คำนั้นมาถ่ายทอดให้กับช่างผมที่เป็นแฟนประจำของ Hair&Beauty STUDIO เป็นความรู้พื้นฐานเพื่อเรียนด้าน Hairstyle Design ต่อไป
รสนิยม เป็นความชอบส่วนตัวที่ฝังใจลึกลํ้าในตัวตนของทั้งลูกค้าและช่างผมถ้าเผอิญ ตรงกันก็จบ ถ้าไม่ตรงกันก็ต้องดูว่า ใครนำ ใครตาม คนนั้นได้นำเอารสนิยมส่วนตัวมาเป็นบทสรุป
ค่านิยม เป็นความพึงพอใจของกลุ่มคน กลุ่มสังคม วิถีชีวิตที่เกาะกลุ่ม ทั้งลูกค้าและช่างผม จุดนี้ทำให้กลายมาเป็นรูปลักษณ์ และเอกลักษณ์กลุ่ม และพัฒนาเป็นแบรนด์ ทำให้เกิดกระแสนำ กระแสตาม กระแสเลียนแบบ และที่สุดก็เชือดเฉือนกันด้วยราคา หรือการโฆษณาประชาสัมพันธ์
แนวนิยม เป็นการนำเสนอรูปแบบใหม่ สไตล์ใหม่ กระแสที่คาดว่าจะมาแรงเร็วๆ นี้ส่วนใหญ่จะมาจากช่างผมมืออาชีพที่มีสายสัมพันธ์กับต่างประเทศ หรือเดินทางไปสัมมนาหรือมีกิจกรรมร่วมกับผลิตภัณฑ์แบรนด์ดัง แนวนิยมจะส่งผลให้เกิดค่านิยม และแยกกระจายไปตามรสนิยม พูดง่ายๆ แนวนิยมสไตล์เดียวอาจเกิดค่านิยมหลากหลายกลุ่ม อยู่ที่รสนิยมของช่างผมมืออาชีพจะพัฒนา ปรับรูปแบบ หรือเกิดจากสไตล์ ที่ไปตรงกันรสนิยมของลูกค้าส่วนใหญ่ ที่สุดแนวนิยมจะคงอยู่นานแค่ไหนก็ขึ้อยู่กับกระแสใหม่ที่มีความแรงจนเบียด แซง หรือล้มแนวนิยมเดิมได้หรือไม่
จากแนวนิยม สู้ค่านิยม และปรับเป็นรสนิยม สไตล์เส้นสายลายเส้นของช่างผม ไม่ว่าจะเป็นแค่ร้านเดียวมีหลายสาขา หรือเติบโตเป็นแบรนด์ขยายเป็นเฟรนส์ไชส์จะต้องก้าวสู่การจัดการรูปแบบที่มี รูปลักษณ์อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะ (Independently Unique)จากภายในสู่ภายนอกและการนำเสนอเชิงประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่ง กิรกรรมงานโชว์ จะต้องสะท้อนภาพที่ตรงกับศักยภาพทีมงานภายใน ที่มิได้เพียงแคเการนำเสนอเชิงสร้างภาพเป็นค่านิยมเฉพาะบุคคล หากบุคคลที่เป็นผู้นำและอาจได้รับการยอมรับจากสังคมแฟชั่นทรงผมในด้านความ เป็นผู้นำจะต้องตระหนักว่า"รสนิยมส่วนตัว จะต้องพัฒนาเป็นหลักการที่ฝึกพัฒนาให้กลายเป็นค่านิยมทีม และรูปแบบการให้บริการอย่างมีระบบที่มิใช่โดดเด่นแค่การนำเสนอคนคนเดียว
ซึ่งอาจหากระบบการผสมผสานค่าเฉลี่ยของรสนิยม ค่านิยม แนวนิยม ให้สอดคล้องสัมพันธ์กันเป็นหนึ่งเดียวก็จะมีโอกาสพัฒนาองค์กรของตนเอง ก้าวไปสู่ความเป็น"สถาบันช่างผมมืออาชีพ ที่อาจมีบทบาทในการกำหนดแนวโน้มแฟชั่นทรงผมได้ด้วยตัวเองก็ได้" จาก"รหัสชีวิตเส้นผม" 6 รหัสหลักมาสู่ 3 นิยามสะท้อนศักยภาพช่างผมไทย คิดว่าท่านผู้อ่านทั้งเป็นช่างผม หรือลูกค้านำไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก็น่าจะเกิดแนวคิดใหม่ๆ เพื่อร่วมเรียนรู้ด้าน Hairstyle Design กับตักส์ศิลา แฟชั่น ในบทเรียนต่อๆ ไปมีอะไรก็ติดต่อกันได้ครับ design@taxilafashion.com
|