ผู้หญิงสมัยนี้รู้ดีว่าความสัมพันธ์ที่จริงจังนั้นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นอย่างในลิสต์ข้างล่างที่ผู้ชายกลัวกันนักหนา
หนำซ้ำยังไม่เห็นว่ามันจะสำคัญอะไรมากมาย
เขากลัวว่าจะต้องละเลิกสิ่งที่เคยทำ
เขาสังเกตว่าเราเลิกไปฟิตเนสทุกเย็นวันพุธเพื่อจะได้มาเจอกับเขา
เขาเลยคิดว่า นี่เขาต้องเลิกไปเล่นสควอชทุกเย็นวันพฤหัสด้วยหรือเปล่านี่
ในความสัมพันธ์นั้นมีเรื่องของการเสียสละเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ซึ่งผู้ชายเกลียดคำนี้ การที่ผู้หญิงอยากอยู่บ้านดูดีวีดี
แล้วทำไมเขาต้องเลิกไปเที่ยวราตรีกับก๊วนเพื่อนซี้ด้วยเล่า
การผูกมัดกับใครสักคนเปรียบเสมือนการบอกว่า
นี่ไงส่วนสำคัญที่สุดในชีวิตของฉันมันเป็นของเธอด้วยนะ
ผู้ชายก้าวมาไกลอีกขั้นและจินตนาการถึงชีวิตที่มีแต่เราและเขาเท่านั้น
เขากังวลเรื่องเซ็กส์
เรื่องนี้ละผู้ชายกลัวนัก เช่น
กลัวว่าแฟนสาวซึ่งเคยแสดงลีลาใช้ปากอย่างถึงพริกถึงขิง
พอแต่งงานกันปั๊บก็งดกิจกรรมสุดมันส์อันนี้ทันที
ผู้ชายกลัวว่าผู้หญิงจะหยุดทำเรื่องพรรณนี้เพราะไม่เชื่อว่าผู้หญิงก็สนุกกับเซ็กส์มากพอๆกับผู้ชาย
(เอาอะไรมาคิดเนี่ย)
เขากลัวตัวเองเป็นสองรองใคร
ผู้ชายคิดว่า ถ้าต่อไปเธอไปเจอผู้ชายที่หาเงินได้มากกว่า น่ารักกว่า
สวมเสื้อผ้าดูดีกว่า ขับรถหรูกว่า แล้วเราจะทำอย่างไร
การกลัวว่าผู้หญิงจะไปเจอใครในอนาคตนั้นก็คือการกลัวอดีตนั่นเอง
ส่วนใหญ่มักเริ่มจากการกลัวแฟนเก่าของเธอจะหวนกลับมา
แฟนเก่าที่ดูดีหรือร่ำรวยหรูหราจะมาล่อหลอกเอาตัวเธอกลับไปสู่อ้อมอกเก่าๆ
ถ้าผู้ชายยอมผูกมัดและต้องเสียเธอไปในภายหลัง
เขารู้ว่าตัวเองจะเจ็บปวดมากมายเพียงใด
เขากลัวตัดโอกาสเจอผู้หญิงสุดเพอร์เฟ็คท์
มันช่วยไม่ได้จริงๆที่เขาจะคิดว่าแล้วถ้ายังมีคนที่ดีกว่านี้ละ
และยิ่งถ้าเราไปกระตุ้นต่อมอัตตาของเขาด้วยการบอกว่าเขาเจ๋งแค่ไหนละก็
เขาจะยิ่งคิดว่าตัวเองมีโอกาสได้สาวระดับดารานางแบบเลยนะนั่น
เขาไม่ชอบถูกจิกกัด
สมัยรักกันใหม่ๆ เราก็แค่กระเซ้าเย้าแหย่อาการติดทีวีของเขาแบบขำๆ
แต่ตอนนี้กลายเป็นคำพูดเชือดเฉือนทิ่มแทง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ชายกลัวสุดๆ
+ เขาไม่อยากทำตัวเชื่องเหมือนลูกแมว
ประเด็นนี้ผู้หญิงไม่เข้าใจเท่าไรนัก ยกตัวอย่างเช่น
ผู้ชายคนหนึ่งเปลี่ยนนิสัยจากชอบถอดเสื้อผ้าทิ้งเรี่ยราดบนพื้นห้อง
ก็เอาเสื้อผ้าไปใส่ตะกร้าอย่างเรียบร้อย
แถมวันต่อมายังปฏิเสธก๊วนเพื่อนซี้
ไม่ยอมออกไปนั่งดริ๊งค์ด้วยกันเหมือนเคย ทั้งที่ผู้หญิงไม่ได้หวงห้ามอะไร
แต่เป็นเพราะตัวเองอยากอยู่บ้านกับเธอมากกว่า
พฤติกรรมเปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว
มารู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นผู้ชายว่านอนสอนง่ายไปเสียแล้ว
นี่ละคือสิ่งที่ผู้ชายกลัวมาก + เขาไม่จำเป็นต้องลงหลักปักฐานเร็วเหมือนผู้หญิง ผู้ชายสามารถตัดสินใจว่าจะมีลูกตอนอายุ 50 ได้ หรือไม่ก็แต่งงานกับสาวเอ๊าะๆคราวลูก จะได้เล่นบทป๊ะป๋าไปในตัว + เขากลัวว่าตัวเองไม่ได้มาตรฐานที่ผู้หญิงยุคนี้ต้องการ
ประเด็นนี้ยิ่งใหญ่นัก
เป็นเรื่องจริงที่ผู้หญิงต้องการอะไรที่แตกต่างออกไป
แทนที่จะมองหาคนมาไว้พึ่งพาและดูแลเรา เดี๋ยวนี้เราต้องการความเป็นเพื่อน
เซ็กส์เจ๋งๆ การเกื้อหนุนทางจิตใจ
และคนที่อยู่เคียงข้างเราไม่ใช่มาอยู่เหนือหัวเรา
ผู้ชายรู้สึกสบายใจกับบทบาทการเป็นผู้หาเลี้ยงครอบครัว
(อย่างที่พ่อเคยสอนไว้นมนานมาแล้ว) แล้วเรื่องอื่นละ...ท่าจะยากนะ
เพราะผู้ชายไม่ได้ถูกฝึกมาให้รู้จักเรื่องทำนองนี้ เช่น
การเกื้อหนุนทางจิตใจ นี่คือเหตุผลที่ผู้หญิงต้องสอนผู้ชายไงละ
|