รัก...ระแวง
คุณเคยแอบเช็คมือถือของแฟนหรือเปล่า แล้วแอบอ่านอีเมล์ส่วนตัวของเขาหรือเธอล่ะ ฯลฯ เชื่อแน่ว่าหลายคนต้องเคยทำอะไรแบบนี้บ้างแน่ๆ
ในการใช้ชีวิตคู่สิ่งหนึ่งที่ควรต้องมี คือการไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน แต่บางครั้งด้วยความที่ต่างฝ่ายต่างรักกันมากเกินไปก็ทำให้เกิดความหึงหวง ไม่ไว้ใจกันได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดร้ายแรงอะไร แต่ที่แย่ก็คือ บางครั้งหลายๆ คนก็มักจะเอาคำว่า ‘รัก’ มาเป็นข้ออ้างในการที่จะเข้าไปรุกล้ำชีวิตส่วนตัวของคนอื่น โดยบอกกับตนเองว่า ก็ ‘ฉันรักเขา ฉันมีสิทธิที่จะรู้ว่า เขาจะไปทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ กับใคร’ ถ้ามีบ้างบางครั้งบางคราวพอรับไหว แต่ถ้าเป็นบ่อยๆ นี่สิ ความหวาดระแวง คงกัดกร่อนความรักของคุณทั้งคู่จนรักอาจล่มได้ง่ายๆ
หลักฐานหรือแค่ความระแวง ผู้หญิงเรามีธรรมชาติที่เหมือนกันอยู่อย่างคือ อยากรู้อยากเห็นและเป็นพวกที่เก็บรายละเอียดเก่งมาก เห็นอะไรผิดหูผิดตานิดเดียวรับรองตามจนได้เรื่อง แต่บางทีสิ่งที่คุณระแวงอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดเลยก็ได้ เปิดอกคุยกัน และพยายามทำความเข้าใจในตัวเขาหรือเธอให้มากขึ้น เพราะจริงๆ แล้วอาจเป็นเพราะนิสัยไม่ดีบางอย่างที่ทำให้อีกฝ่ายรำคาญและทำตัวห่างเหิน ยิ่งอีกฝ่ายประสาทเสียมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เกิดช่องว่างระหว่างกันมากขึ้น ไม่ใช่เขาหรือเธอมีคนอื่นหรอก
อย่าด่วนสรุป เมื่อคุณเกิดความรู้สึกระแวง อย่างแรกที่ควรทำก็คืออย่าเพิ่งด่วนสรุปหรือตีอกชกหัวว่าแฟนตัวเองกำลังนอกใจ เพราะมันอาจไม่มีอะไรเลยก็ได้ การขาดความเชื่อใจและไว้ใจกันตั้งแต่แรก มันอาจทำให้เรื่องเล็กๆ กลายเป็นใหญ่และทำให้ครอบครัวแตกแยกได้โดยไม่ทันตั้งตัวเหมือนกัน
เปิดอกพูดคุย เมื่อเกิดความคลางแคลงหรือความสงสัยในเรื่องใดๆ ก็ตาม อย่าเก็บเอาไว้ในใจคนเดียว เพราะบางครั้ง เพียงแค่พูดหรือถามอีกฝ่ายไปตรงๆ คุณอาจจะได้คำตอบที่คุณกำลังค้นหาอยู่ก็ได้ และคุณผู้หญิงทั้งหลาย เมื่อได้เปิดอกพูดคุยกันแล้ว คุณก็ต้องเชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายบอกด้วย ไม่ใช่ฟังแล้ว ก็คิดแต่ว่า ไม่จริงหรอก อย่ามาโกหก ถ้างั้นคุณก็จะจมอยู่กับข้อสรุปที่คุณคิดไปเองว่าใช่นั่นแหละ แล้วใครเป็นทุกข์ - - คุณใช่ไหม
เรียนรู้ที่จะไว้ใจ การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างคู่รักอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างกันได้ในเวลาวันสองวัน เพราะส่วนใหญ่ยิ่งรักก็ยิ่งหวง ซึ่งการสร้างสัมพันธภาพที่ดีนั้น ขึ้นอยู่กับการสื่อสารที่ดี คือ คุณทั้งคู่สามารถพูดคุยกันได้อย่างเปิดอก ตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรปิดบัง และที่สำคัญการจะสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันได้ คุณทั้งคู่ต้องพยายามแบ่งปันและบอกเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตให้อีกฝ่ายได้รับรู้บ้างเพื่อให้อีกฝ่ายมั่นใจว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอจะเป็นคนที่เขาคิดถึงคนแรกเสมอ
ลดช่องว่างระหว่างกัน คู่แต่งงานส่วนใหญ่มีสองแบบ แบบที่แต่งงานแล้วเหมือนคนคนเดียวกัน กับแบบที่แต่งงานแล้วแต่ยังเป็นตัวของตัวเองอยู่ แต่มาอยู่ร่วมกัน แล้วอะไรคือความต่างระหว่างคู่รักสองแบบนี้ คู่รักแบบแรกแทบจะไม่มีช่องว่างระหว่างกันเลย ต่างฝ่ายต่างไม่รู้สึกว่าถูกรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว คือเป็นคู่ที่แทบจะไม่มีความลับอะไรต่อกันเลย ส่วนอีกแบบที่เป็นคู่แต่งงานที่ต้องการคงความเป็นตัวตนและโลกส่วนตัวเอาไว้ ถึงจะมีชีวิตส่วนที่ร่วมแบ่งปันกัน แต่ก็มีมุมหนึ่งที่ใครๆ ก็เข้ามาไม่ได้ คู่แบบนี้จึงอาจก่อให้เกิดความระแวงกันได้ง่าย หากไม่เข้าใจนิสัยใจคอกันมากพอ
หาตัวช่วย บางครั้งถ้าความระแวงทำร้ายคุณทั้งคู่ ลองหาทางออกด้วยการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านปัญหาครอบครัวดู ซึ่งก็จะสามารถช่วยคุณได้ แทนที่คุณทั้งคู่จะวกวนอยู่แต่กับปัญหาเดิมๆ ที่ไม่มีทางออก ก็จะช่วยให้สถานการณ์ของคุณทั้งคู่ดีขึ้นได้
ความรักเอาชนะทุกสิ่ง หลายคนเชื่อว่าความรักทำให้คนเราเป็นได้ทุกอย่าง คนส่วนใหญ่ที่รักไปด้วยหวาดระแวงไปด้วย เพราะรักด้วยความรู้สึกครอบครอง มากกว่ารักด้วยความรู้สึกปรารถนาดี แทนที่จะใช้ความรักนั้นเพื่อสร้างความเข้าใจกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน กลับใช้ความรักนั้นมาทำร้ายกัน มานั่งจับผิดกัน คนเรานั้นไม่ได้อยู่บนโลกนี้เพียงสองคน ต่างฝ่ายต่างต้องมีสังคม ต้องมีเพื่อนฝูง การที่คุณระแวงก็เท่ากับเป็นการจำกัดให้เขาหรือเธอต้องอยู่แต่กับคุณ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ในชีวิตจริง ถ้าคุณรักใครสักคนก็ควรที่จะให้แต่สิ่งดีๆ แก่กันดีกว่า....
|