All About Lips
สีของลิปสติกแม้จะทาเดี่ยวๆบนหน้าเปลือยที่ไม่ได้แต่งและไม่ต้องมองกระจก ก็ช่วยให้หน้าซีดๆของเราดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ และควรมีติดไว้ในกระเป๋าเพื่อจะได้ทาได้ทุกโอกาส วิธีการเลือกสีที่เหมาะกับตัวเรานี้ ควรเลือกที่มีสีเดียวกับสีริมฝีปากเราตามธรรมชาติ ซึ่งจะเหมาะกับโทนสีผิวของเราไปเองโดยอัตโนมัติ เช่น หากเรามีผิวขาว ริมฝีปากจะเป็นสีชมพูระเรื่อ ก็เลือกสีลิปสติกในโทนชมพูที่ตรงกับสีปากของเราจริงๆ ก่อนตัดสินใจซื้อควรลองทาที่ริมฝีปากจริงๆ โดยมีช่างแต่งหน้าที่เชี่ยวชาญแนะนำอยู่ใกล้ๆ โดยมากแล้วจะมีสีน้ำตาลเป็นพื้นอยู่บ้าง เพราะจะกลมกลืนไปกับสีผิวได้ง่าย
แปลกแต่จริง อย่าไปยึดติดกับโทนสีเดิมๆ ไม่ว่าจะมีสีผิวสีอะไรก็สามารถใช้ลิปสติกได้ทุกสี แต่ก็ต้องดูการแต่งหน้าในส่วนอื่นๆ อย่างสีตาและแก้มให้ส่งเสริมและสอดคล้องกันลงตัว เช่น คนผิวคล้ำมักจะคิดว่าไม่เหมาะที่จะใช้ลิปสติกสีอ่อนๆ เพราะจะดูเหมือนไม่สบาย แต่จริงๆแล้วสามารถทาได้ถ้าเน้นที่ดวงตาให้เข้มชัดเจนแล้วปัดแก้มโทนสีน้ำตาล
เปลี่ยนสี เปลี่ยนอารมณ์ บางครั้งเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นได้ ต้องไปงานปาร์ตี้กะทันหัน ไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า เสื้อผ้าน่ะพอไหวแต่หน้าตานี่สิจะทำอย่างไร ทางที่ดีควรมีลิปสติกสีโทนเดิมกับที่ทาไว้เมื่อเช้าแต่เข้มขึ้นกว่า เช่น ปกติใช้ลิปสติกโทนสีนู้ดเป็นประจำ พอจะไปงานก็ลองเติมสีเข้มอย่างสี Plum หรือสี Berry จากสาวมั่นยามกลางวัน ก็เปลี่ยนเป็นสาวสวยเซ็กซี่ยามค่ำคืนได้สบายเลย
แปรงทาปากก็สำคัญนะ คงสงสัยล่ะสิ ทาอยู่กับแท่งตรงๆก็ดีอยู่แล้ว จะใช้ทำไม แปรงหรือพูกันทาปากนั้น มีประโยชน์ช่วยให้ตัดขอบปากได้คม ชัดเจน ให้เราควบคุมปริมาณเนื้อลิปสติกได้ ไม่หนาหรือบางเกินไป ช่วยให้ทาได้เรียบสนิทลงแทรกในร่องเล็กๆของผิวริมฝีปากได้อย่างดี และยังช่วยรักษาความสะอาดของแท่งลิปสติกให้ยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น ไม่เสียเร็วอีกด้วย
ดินสอเขียนขอบปากก็ควรมีไว้ ดินสอเขียนขอบปากหรือลิปไลน์เนอร์ ช่วยให้เราปรับปรุงรูปร่างของริมฝีปากได้เล็กน้อย ไม่ใช่วาดซะเกินจริงจนผิดธรรมชาติมากไป ยกตัวอย่างคนที่ริมฝีปากบาง สามารถเขียนขอบปากให้เกินจริงออกมาเล็กน้อย จะช่วยให้ดูริมฝีปากอวบอิ่มขึ้น วิธีการวาดขอบปากให้ดูเป็นธรรมชาติก็คือ ทาลิปสติกให้ทั่วปากก่อนแล้วจึงใช้ดินสอเขียนขอบปากวาดเส้นทีหลัง จะช่วยให้ดูกลมกลืนและเขียนง่ายขึ้น ส่วนการเขียนขอบปากก่อนการลงสีนั้นก็พอทำได้แต่ควรเลือกใช้สีที่อ่อนเข้ากับสีปาก หากใช้สีเข้มตัดก่อนแล้วทาลิปสติก เวลาลิปสติกหายไปในระหว่างวันจะเหลือเพียงเส้นขอบปากที่ชวนขนลุก
ลิปกลอส ช่วยอะไร ประโยชน์ของลิปกลอสก็คือ ช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก ช่วยกลบเกลื่อนริ้วรอยร่องปากให้ความชุ่มชื้น หากว่าเลือกใช้สีอ่อน สามารถทาทับลิปสติกเพื่อลดความจัดจ้านของสี ในทางกลับกัน ถ้าเลือกโทนสีสดใสทาทับลงไปที่ลิปสติกก็จะช่วยให้ลิปสติกสีเดิมดูสดใสขึ้นได้
หลากสัมผัส หลากอารมณ์ ลิปสติกสีหนึ่งอาจมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน แล้วรู้หรือเปล่าว่า ลิปสติกแต่ละชนิดมีลักษณะการใช้และผลลัพธ์ที่ได้ก็ต่างกันด้วย
๐ Lip Color หรือลิปสติกเนื้อครีม มีเนื้อสีเข้มข้นมีความทึบแสง เนื้อแมทด้าน สามารถใช้ได้แทบทุกโอกาส แต่จะดูสวยหากทาตาแบบแวววาว เนื้อมุกแล้วทาลิปเนื้อนี้
๐ Lip Shimmer คือลิปสติกที่มีส่วนผสมของความระยิบระยับเนื้อมุกเหมาะสำหรับวันที่แต่งดวงตาแบบแมท
๐ Lip Gloss เป็นลิปสติกชนิดเหลว เนื้อโปร่งแสง อาจมีแบบเพิ่มประกายมุกหรือไม่มี สามารถทาบนปากได้โดยตรงหรือทาทับสีอื่น เพื่อเพิ่มความแวววาวดูมีมิติอิ่มเอิบ
๐ Lip Tint เป็นลิปเนื้อเหลวคล้ายๆกับลิปกลอส แต่ว่ามีความเหนียวน้อยกว่า ใช้แตะริมฝีปากพอให้เห็นสีบางๆ และยังเห็นพื้นผิวของริมฝีปากอยู่ ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ลิปสติกน่าใช้ (ดูภาพประกอบด้านบน) 1. ลิปสติกสีน้ำตาล Nude 18 จาก Bobbi Brown ราคา 820 2. ลิปกลอส Shimmer Lip Gloss สี Rosegold จาก Bobbi Brown ราคา 800 บาท 3. ลิปสติกสีเบจ BE353 Seashell Beige จาก Beaute' de Kose' ราคา 850 บาท 4. ลิปสติกสีแดงเข้ม Wine 25 จาก Bobbi Brown ราคา 820 บาท 5. Auto Lip Liner สี Rose Boise 2 จาก Maybelline ราคา 169 บาท 6. พู่กันทาปาก จาก Bobbi Brown ราคา 895 บาท 7. ดินสอเขียนขอบปากสีชมพู PK 801 จาก Beaute' de Kose' ราคา 630 บาท
|