ดูแลผิวพรรณ "หน้าร้อน" อากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้หงุดหงิด และเกิดโรคผิวหนังได้ง่าย ศ.น.พ.ปิติ พลังวชิรา ผอ.ศูนย์ผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ให้คำแนะนำและการป้องกันง่ายๆ ดังนี้
ผด ลักษณะเป็นเม็ดใส เล็กๆ สีแดงๆ มักเกิดตามบริเวณข้อพับ คอ ซอกแขน ตามตัว หน้าอก หลังเกิดจากเหงื่อซึ่งออกมามาก หลังจากเหงื่อระเหยจะพบว่ามีเกลือคั่งค้างอยู่ ทำให้เกิดการอุดตันและเกิดการอักเสบบริเวณท่อต่อมเหงื่อ บางครั้งทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเปื่อย ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อราตามที่ต่างๆ เช่นเชื้อกลาก เกลื้อน หรือติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ซึ่งบางทียังทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ หรือเกิดโรคผิวหนังบางชนิด เช่น สะเก็ดเงิน และภูมิแพ้ผิวหนังกำเริบได้
วิธีป้องกัน คืออาบน้ำ ทาแป้งฝุ่นและใส่เสื้อผ้าบางๆ หรือหาผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตัวบริเวณที่เริ่มมีอาการคัน ถ้าเป็นมากอาจต้องปรึกษาแพทย์
กลิ่นตัว เกิดในบริเวณซึ่งเหงื่อไม่สามารถจะระเหยได้ง่าย เช่น ซอกรักแร้ ซึ่งเป็นบริเวณต่อมเหงื่อ อโปไครน์ (apocrine) จะผลิตเหงื่อที่มีลักษณะขุ่นๆ คล้ายน้ำนม ป้องกันได้โดยการอาบน้ำชำระร่างกาย ฟอกสบู่ให้สะอาด ลดกิจกรรมที่กระตุ้นให้เหงื่อออก อาจต้องใช้น้ำยาดับกลิ่นช่วยในบางครั้ง นอกจากนี้ควรงด อาหาร ยา ผลไม้บางชนิด ซึ่งมีกลิ่นฉุน เช่น กระเทียม สะตอ ทุเรียน พริกป่น เนย รวมทั้งใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ลดเหงื่อ
แต่ที่น่าแปลก บางคนเหงื่อออกไม่มาก ถึงแม้จะอาบน้ำทำความสะอาดตัวแล้วก็ตาม ยังมีกลิ่นตัวอยู่ คุณหมอบอกว่าสาเหตุมาจากความเครียด ความโกรธ ซึ่งอาจจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นตัว (deodorant) ร่วมด้วย
ลมพิษ เริ่มจากอาการคันยุบยิบ เป็นรอยแดงนูน และมักจะหายไปภายในเวลา 24-28 ชั่วโมง เชื่อว่าอากาศร้อน และแสงอัลตราไวโอเลต เหงื่อ ทำให้เกิดลมพิษได้ เพราะร่างกายมีการผลิตสารที่ชื่อ "อะเซติลโคลีน" ซึ่งจะกระตุ้นให้ขับเหงื่อออกมา และทำให้เกิดอาการคันขึ้น นอกจากนี้ อาหารรสจัด เผ็ดจัด หรือภาวะเครียด อาจกระตุ้นให้เป็นมากขึ้น
รู้สาเหตุและการป้องกันแล้ว ก็ให้หลีกเลี่ยง ก่อนจะเกิดอาการคันคะเยอ มันจะไม่งามนะจ๊ะ
|