ความลับของหน้าอก
ผลสำรวจออกมาว่า อวัยวะส่วนที่ดึงดูดความสนใจจนหนุ่มๆต่างเทคะแนนให้อย่างท่วมท้นคือ หน้าอก ส่วนเรื่องเหตุผลก็คือหน้าอกเป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นผู้หญิงมากที่สุดนั่นเอง

สาวๆรีบสำรวจหน้าอกตัวเองด่วน หลายคนที่ละเลยมานาน เริ่มตอนนี้ก็ยังไม่สายนะคะ

ปัจจัยที่มีผลทำให้หน้าอกของผู้หญิงมีขนาดและรูปร่างที่แตกต่างกัน
- ความหนาแน่นของเนื้อเยื่อหน้าอก
- กรรมพันธุ์
- อายุ
- การเพิ่มหรือลดน้ำหนัก
- ภาวะการตั้งครรภ์
- ระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้อง

ทำไมผู้หญิงต้องมีหน้าอก?
เพราะว่าหน้าที่หลักของหน้าอกผู้หญิงคือ เอาไว้ผลิตน้ำนมเลี้ยงลูก ข้างในหน้าอกของเราจึงเต็มไปด้วยต่อมและเนื้อเยื่อไขมันมากมายระหว่างชั้นของผิวหนัง และผนังช่องอก ซึ่งเจ้าเนื้อเยื่อไขมันนี่เองที่เป็นตัวกำหนดขนาดและรูปร่างของหน้าอก ไม่ใช่กล้ามเนื้ออย่างที่หลายคนเข้าใจ (เต้านมไม่มีกล้ามเนื้อใดๆหรอกค่ะ) ในเต้านมยังประกอบไปด้วยเส้นเลือดมากมายอีกด้วย รวมทั้งต่อมน้ำนมและท่อต่างๆที่สามารถขยายขึ้นได้อีกด้วย ถ้าหากว่าเป็นช่วงที่มีการตั้งครรภ์

ผิวบริเวณนินอกจะทำหน้าที่พยุงกล้ามเนื้อหน้าอกทั้งหมดไว้ระหว่างกล้ามเนื้อคอเพื่อไม่ให้หย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลก ส่วนนี้ล่ะสำคัญ เพราะกล้ามเนื้อหน้าอกที่มีความกระชับย่อมหมายถึงประสิทธิภาพในการพยุงเต้านมที่ดีด้วย

แบบไหนคือหน้าอกในอุดมคติ นิดหน่อยหรือเฟิร์มหรือแบบตู้มๆกันแน่?
เรื่องนี้คนในอยากออกคนนอกอยากเข้า เอาเป็นว่า 50% ของผู้หญิงเราไม่ค่อยพอใจกับหน้าอกของตัวเองสักเท่าไหร่หรอก หน้าอกผู้หญิงมีหลายแบบและหลายขนาดมากเสียจนไม่มีแบบไหนที่เรียกว่าเป็นแบบที่เพอร์เฟ็คจริงๆ รวมทั้งขนาดที่เรียกว่ามาตรฐานก็ไม่มีเหมือนกัน แต่สิ่งที่เราต้องเข้าใจก็คือ หน้าอกที่ปกตินั้นสามารถใหญ่และเล็กได้ทั้งนั้น อาจจะเรียบหรือเป็นก้อนกลม แม้กระทั่งขาวหรือคล้ำก็ได้ด้วยล่ะค่ะ

เราอาจจะแยกหน้าอกได้แบบคร่าวๆตามลักษณะผลไม้ได้เหมือนกัน

เรื่องหน้าอกสวยกับบราคุณภาพเป็นของคู่กัน ลองมาสำรวจตัวเองซิว่า ตอนนี้ใส่บราถูกขนาดอยู่หรือเปล่า? เริ่มจาก
1. วัดรอบตัว
ใช้สายวัด วัดรอบลำตัวเหนือหน้าอก ลอดใต้วงแขนให้แน่นและหายใจปกติ ให้วัดเป็นนิ้ว ถ้าได้เลขคี่ก็ให้ปัดเป็นเลขคู่ และให้ยึดตามตัวเลขนั้นเลย เช่นวัดได้ 31 นับเป็น 32

2. วัดรอบอก
ใช้สายวัดวัดรอบจุดที่นูนที่สุดของหน้าอก ให้วัดหลวมๆและหายใจปกติ ให้วัดเป็นนิ้ว

3. หาขนาดคัพ (CUP)
การหาขนาดคัพหรือขนาดของเต้าอาจต้องยุ่งยากกันเล็กน้อย แต่ก็ไม่เกินความสามารถแน่ โดยให้นำรอบอกที่ได้ลบรอบลำตัว เช่น รอบอก 34 นิ้ว ลบลำตัว 32 นิ้ว ผลลัพธ์คือมีขนาดคัพ B โดยค่าที่ได้จะเป็นค่า cup ของขนาดบรา A B C D ดังนี้

ขนาดที่ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นขนาดที่ใช่เสมอไป
- ค่าที่วัดอาจไม่ตรงกับไซส์เสื้อชั้นในที่ใส่อยู่จริง เช่น วัดแล้วผลที่ได้เป็นคัพ A แต่ใส่คัพ B แล้วพอดี เป็นเพราะสมัยนี้เสื้อชั้นในส่วนใหญ่เป็นแบบ Push up Bra หรือที่เรียกว่าบราดันทรงที่มีโครงลวด มีแผ่นฟองน้ำเสริมทรง มีแผ่นดับทรงวางไว้ใต้หน้าอกอีกที ทำให้ต้องใส่บราที่มีขนาดคัพใหญ่กว่าปกติ 1 ไซส์ เพราะฉะนั้นให้ยึดค่ารอบตัวเป็นหลัก ส่วนจะใส่คัพอะไร ดันมาก - น้อยแค่ไหนต้องไปลองกันเองนะคะ

- บางครั้งซื้อบรายี่ห้อหนึ่งขนาด 34/75 B แต่อีกยี่ห้อขนาด 36/80 A ใส่แล้วพอดีกว่า เพราะขนาด 36/80 A อาจใหญ่เท่ากับขนาด 34/75 B และยังเท่ากับ 32/70 C ด้วย เพราะคัพเท่ากันแต่ลำตัวต่างกัน ความยืดหยุ่นของเนื้อผ้าและรูปทรงการตัดเย็บก็มีส่วน ควรจะลองจนกว่าจะพอใจ อย่ายึดติดกับไซส์เดิมๆ

- ขนาดหน้าอกเปลี่ยนแปลงได้ตามน้ำหนักและฮอร์โมน ผู้หญิงหลายๆคนจะตึงคัดเต้านมและเจ็บหน้าอกเพราะหน้าอกขยายขึ้นเล็กน้อยก่อนมีประจำเดือน รวมถึงช่วงตั้งครรภ์หน้าอกก็มีการเปลี่ยแปลงเช่นกัน หากรู้สึกเจ็บและคัดหน้าอกมาก เพราะหน้าอกขยายค่อนข้างมาก อาจหาซื้อเสื้อชั้นในอย่าง Sport Bra หรือเสื้อชั้นในที่มีคัพใหญ่ขึ้นเอาไว้ด้วยสำหรับใช้ในช่วงเวลานั้นๆเพื่อความสบายตัว

- หลักการง่ายๆสำหรับเลือกบรา คือให้ใช้ความรู้สึกเป็นเครื่องสังเกต เลือกที่กระชับรับกับหน้าอกและสายไม่รัดมากเกินไป สามารถเช็คได้ง่ายๆด้วยการเลื่อนสายแล้วดูว่าบรากระชับเข้าที่ ด้านหน้ากับด้านหลังเท่ากัน ถ้าใส่แล้วข้างหลังสูงเกินไปอาจทำให้บราข้างหน้าหลวมไม่กระชับได้ และถ้าใส่แล้วสายรัดจนเนื้อนูนหรือรัดตรงวงแขนจนรู้สึกรำคาญแสดงว่าบรานั้นเล็กเกินไป

รู้ไว้ไม่หนักอก
++ ขนเส้นเล็กๆรอบๆหัวนมเป็นเรื่องปกติ สามารถกำจัดได้ โดยการใช้กรรไกรตัดหรือใช้ครีมกำจัดขน ไม่แนะนำให้โกน เพราะอาจจะเกิดบาดแผลและติดเชื้อได้
++ หน้าอกคัพต่างๆมีน้ำหนักไม่เท่ากัน คัพ A มีน้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม คัพ B หนักประมาณ 1 กิโลกรัม คัพ C หนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม และคัพ D หนักประมาณ 2 กิโลกรัม!!!
++ ผู้หญิงสองคนอาจจะมีคัพเดียวกัน แต่อาจจะใส่บราคนละไซส์ได้ เพราะเกี่ยวข้องกับความแตกต่างของรูปทรง ความชิดและตำแหน่ง
++ การตั้งครรภ์จะทำให้สีของหัวนมเข้มชึ้นเพื่อให้ทารกสามารถแยกแยะได้เพราะทารกเกิดใหม่จะยังไม่สามารถมองเห็นสีสันต่างๆได้
++ หน้าอกจะขยายได้จนถึงอายุ 20 กว่าๆ และขยายได้เร็วที่สุดในช่วงวัยรุ่น หน้าอกจะไม่ขยายขึ้นอีกเมื่อขยายเต็มที่แล้ว ยกเว้นกรณีที่น้ำหนักขึ้นหรือตั้งครรภ์
++ คนเราอาจมีหัวนม 3 อันได้ ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายๆไผหรือกระ และอยู่ต่ำลงมากว่าหน้าอกปกติ
++ ลักษณะการนอนมีผลต่อรูปทรงเหมือนกัน เพราะอาจทำให้ผิดรูปทรงได้ ท่านอนที่เหมาะที่สุดคือ นอนตะแคงพร้อมด้วยหมอนข้างนุ่มๆรองใต้หน้าอกไว้ด้วย
++ การที่หน้าอกขยายก็จะดันให้ผิวหนังยืด และบางออกไปด้วย ผิวตรงนี้จึงอ่อนบางกว่าส่วนอื่น
++ การจะออกกำลังกายไม่ทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้น
++ รูปร่างหน้าอกจะเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องมีหน้าอกเท่าแม่เสมอไป
++ โดยมากหน้าอกข้างซ้ายของผู้หญิงมักจะมีขนาดใหญ่กว่าข้างขวาเสมอ
++ ระหว่างหน้าอกทั้งสองข้างจะมีต่อมไขมันอยู่ จึงง่ายต่อการเกิดสิว
++ หน้าอกจะเปลี่ยนแปลงไปเสมอตามรอบเดือน หลังจากที่ประจำเดือนหมด หน้าอกจะอยู่ในสภาวะปกติมากที่สุด แต่ช่วงระหว่างมีประจำเดือนที่ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มมากขึ้น หน้าอกจะไวต่อการสัมผัสมาก และในระยะก่อนที่ประจำเดือนจะมา ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่พุ่งขึ้นสูงจะทำให้หน้าอกขยายจนอาจรู้สึกคัดหน้าอก
++ การผ่าตัดเพิ่มขนาดหน้าอก เพิ่มความเสี่ยงของระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ รวมถึงมีโอกาสเกิดมะเร็ง ประมาณ 10%ของคนที่เสริมหน้าอกจะเจอกับปัญหาหน้าอกผิดรูปร่าง แบน รั่ว หดตัว มีโอกาสเกิดพังผืดรอบๆก้อนวัสดุที่ใส่เข้าไป ทำให้มีอาการเจ็บหน้าอกมากอีกด้วย