เสน่ห์แห่งรัก บางคนอาจจะหนักใจว่า ทำอย่างไรจึงจะเสริมสร้างให้เป็นที่ ต้องตาต้องใจผู้พบเห็นได้ เป็นที่สังเกตว่า คนบางคนความสวยไม่ได้ เลิศเลอ แต่เป็นที่หมายปองของเพศตรงข้ามมากมาย และเธอคนเดียว กันนี้ เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนฝูงทั่วๆไปอีกด้วย ในทางตรงกันข้าม บางคนสวยจับใจ แต่เจ้าหล่อนปั้นปึ่งบึ่งตึง ไม่มีใครแม้แต่จะพูดคุยด้วย เป็นเพราะเธอไร้เสน่ห์หรือเปล่านะ? จริงๆแล้ว ถ้าหากใครรูปไม่งาม นามไม่เพราะ ไม่น่าจะเป็นปัญหา ของพรรค์นี้ปรุงแต่งกันได้ และ เสน่ห์ที่ปรุงด้วยกายนั้นไม่ต้องเสียเงินซื้อหา เพียงแต่ปรับปรุงสิ่งละเล็กละน้อยด้วยความตั้งใจมั่นเท่านั้น แหละ ใครก็ใครเถอะ หนีไม่พ้นเป็นแน่ ส่วนที่จะต้องปรุงแต่ง ก่อนอื่นใดก็คือรูปลักษณ์ภายนอกช่วยสำรวจตัวเองว่าตอนนี้รูปร่างกำลังดีไหม หรือว่าหมูพะโล้กำลังจะมาเยือน ก็ถ้าเป็นอย่างนั้นจงกำจัดเสีย อย่าปล่อยให้อ้วนเป็นอันขาด ความอ้วนเป็น ตัวอุปสรรคหลายอย่าง ใส่เสื้อผ้าก็ลำบาก ความอึดอัดจะตามมา ถ้าหากปล่อยให้อ้วนไปเรื่อยๆ พออายุขึ้น เลข 4 จะต้องเจอแจ็คพ็อตสักโรคสองโรคให้กลุ้มใจ เพราะฉะนั้น ต้องคุมอาหาร และตามด้วยการออกกำลังกาย นอกจากรูปร่างจะดีแล้วยังมีร่างกายแข็ง แรงเป็นของแถมที่ดีอีกด้วย จะสังเกตว่าตามสื่อต่าง ๆ เช่น สถานีวิทยุ โทรทัศน์ และสิ่งพิมพ์ ร่วมมือกัน รณรงค์เรื่องการออกกำลังเพื่อสุขภาพที่ดีกันเสมอ คนเมื่อมี รูปร่างดี สุขภาพแข็งแรง ความมั่นใจในตนเองก็ตามมา ซึ่งทำให้ง่ายต่อการแต่งกาย การแต่งตัวต้องเลือกแต่งให้เหมาะสม ทั้งสีสันและแบบของของเครื่องแต่งกายให้เข้ากับบุคลิกเท่านั้น ก็ผ่านฉลุยไปขั้นตอน
อันดับต่อไป เป็นเสน่ห์จากการสนทนา เวลา มีการสนทนาปราศัย ต้องแสดงความตั้งใจจริงที่จะฟังอีกฝ่ายพูด อย่ากลัวที่จะสนทนากับใคร ๆ แต่ก็อย่าจ้องเขานานเกินไป จนเหมือนกับจะจับผิด หรือล้วงตับเขาออกมา การสบตากันระหว่างการพูดคุย จะให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นมิตร จะสร้างความคุ้นเคยและเป็นส่วนตัว โดยที่คู่สนทนาจะรู้สึกว่า เราคือคนที่น่าสนใจ น่าคบหาสมาคม และเวลาฟังการสนทนา ให้ศีรษะตั้งตรง แต่ปล่อยให้สบาย ๆ จะเอียงศีรษะเล็ก ๆ ซึ่งจะทำให้ดูตั้งใจ มั่นใจ และน่าไว้วางใจ การก้มศีรษะเป็นระยะ ๆ แสดงว่าเห็นด้วยและสนใจในสิ่งที่กำลังคุย และเป็นการกระตุ้นให้เขาพูดต่อ โดยที่ไม่ต้องใช้คำพูด เวลาสนทนา คู่สนทนายินดีที่จะฟังเสียงของคู่สนทนา ในลักษณะที่น้ำเสียงไม่ต้องราบเรียบจนเกินไปน่าจะมีการเน้นประโยคตามควร เพื่อให้ผู้ฟังคึกคัก การใช้เสียงขึ้นจมูกหรือเสียงสูง ๆ มากเกินไปชนิดทีเป็นมนุษย์หลายเสียงเป็นเสียงที่ชวนให้ไม่ไว้วาง ใจ และการที่พูดเร็วจนเกินไป จะเนื่องจากอายหรืประหม่า หรือเป็นบุคลิกเฉพาะตัวก็ใช่ว่าจะเป็นผลดี แต่ กลับจะมีผลเสีย เมื่อเกิดความประหม่าหรือเขินอายให้กลบเกลื่อนโดยการยิ้ม...ยิ้มเข้าไว้แล้ว อะไร ๆ ที่ดี ๆ จะตามมา อย่างน้อยที่สุดก็ได้รอยยิ้มกลับคืนมาละ รอยยิ้ม จะช่วยลดความหนักหน่วงของสภาพการณ์ และเป็นการเปิดประตูแห่งความสัมพันธ์ที่ดี คน ที่ยิ้แย้มแจ่มใส ชัยชนะมากกว่าครึ่งแล้ว คงจะไม่มีใครอยากพูดคุยหรือคบหาสมาคมกับคนที่บึ้งตึงๆ เป็น แน่จริงไหม ? ถ้าหากคุณเป็นไอ้หรืออีเสือยิ้มยาก คนจะนึกไปถึงว่า เอ ! คนนี้ มองโลกในแง่ดีหรือเปล่าน้อ ! เวลาพูดคุยกันอยู่ให้มีสมาธิและพยายามนั่งตัวตรงแต่ไม่เครียด ปล่อยสบาย ๆ ให้ผ่อนคลาย ให้ร่าง กายและจิตใจสมดุลระหว่างที่สนทนากัน อาจจะแสดงความสนใจด้วยการโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นผู้ฟังเมื่อคู่ สนทนาคุ้นเคยกันดีแล้ว อาจจะเอนตัวพิงพนัก และเอี้ยวตัวเล็กน้อยสบาย ๆ แต่อย่างอแขนหรือเกร็งขาแน่น ซึ่งเป็นทีท่าของการระแวงภัย อย่าหลุกหลิก หรือยุก ๆ ยิก ๆ เพราะคู่สนทนาอาจจะคิดว่าคุณเบื่อที่จะสนทนาด้วยหรือว่าเกิดหงุด หงิดอะไรขึ้นมา ช่วงต่อจากนี้ สาว ๆ ไม่เกี่ยว เป็นของฝากสำหรับชายหนุ่มโดยเฉพาะ หากรู้จักมักคุ้นกับสาวที่ถูกตาต้องใจแล้วและต้องการสานสัมพันธ์ต่อ อยากอยู่ใกล้ อยากจะถูกเนื้อตัว ซึ่งเป็นธรรมชาติของชายหนุ่ม หญิงสาวที่พึงพอใจกันละก็ พึงสังวรไว้ว่า การถูกเนี้อต้องตัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะเป็นการก้าวล้ำอาณาเขตส่วนตัว ของฝ่ายตรงข้าม ดังนั้น ก่อนจะถึงขั้นประชิดตัวจะต้องสังเกตคู่สนทนาให้ดีว่าเขาพร้อมที่จะตอบรับ ความสัมพันธ์หรือ ยังเขามีอาการอึดอัดไหม ? เขินอายอยู่หรือเปล่า ? ถ้าหากชัวร์แล้วควรเริ่มที่ตำแหน่งที่ปลอดภัยก่อน เช่น แขน ไหล่ หรือหลังมือ ซึ่งจะไม่เป็นการก้าวล้ำ อธิปไตยจนเกินไป หากสาวเจ้าคนใดไม่ปฎิเสธ ก็มั่นใจได้ว่า เจ้าหล่อนมีใจที่จะผูกสัมพันธ์ต่อ ชัยชนะอยู่แค่เอื่อมนี่เอง การสนทนาให้เป็นจริง ย่อมจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
|